With Love
ทดลองอ่าน ร้อยพันหมื่นปีขอมีแค่เธอ บทที่ 1
“ศิษย์พี่ ท่านจะลืมชาติกำเนิดไม่ได้! พวกเราล้วนเป็นคนราชวงศ์ตี้ อย่าได้บอกเยี่ยจื่อว่าท่านมาราชวงศ์เทียนไม่กี่ปีก็หลงลืมว่าผู้ใดเป็นบรรพบุรุษของตนเองไปแล้ว!” เวลานี้เยี่ยจื่อชิวใช้ดวงตาดอกท้อจดจ้องเขาอย่างไร้การคุกคาม ล้วนแต่เป็นการออดอ้อนกับคนรัก
“ฉันไม่รู้ว่าเธอพูดอะไรอยู่ ยิ่งพูดก็ยิ่งเลอะเทอะ” โม่เหยาไม่อยากพูดอีกแล้ว เขากล่าวคำพูดที่คืนนี้ไม่รู้ว่าพูดซ้ำไปกี่รอบแล้วอีกหนหนึ่ง “พูดเป็นครั้งสุดท้ายนะ ฉันไม่ใช่ศิษย์พี่ของเธอ! ขอล่ะ อย่าได้เกาะแกะฉันอีก มาจากที่ไหนก็กลับไปที่นั่นเถอะนะ”
เยี่ยจื่อชิวตาแดงก่ำ เบ้ปากไม่ได้กล่าวอะไร นางแกะห่อผ้าที่ผูกอยู่กับตัวออกแล้วหยิบสิ่งของที่ใช้ถุงพลาสติกสีดำห่อเอาไว้ออกมา
นางเปิดถุงพลาสติกด้วยความระมัดระวังแล้วนำภาพวาดออกมา ก่อนจะกล่าวเสียงค่อยว่า “ที่กันน้ำนี่เป็นของสำคัญที่ข้าจ่ายไปยี่สิบตำลึงเพื่อซื้อมาเชียวนะ มีมันก็ไม่ต้องกลัวน้ำแล้ว ภาพวาดของศิษย์พี่ข้านำติดตัวไว้ตลอดเวลา บางครั้งบางคราวก็เอาออกมาดูบ้าง ใบหน้าของศิษย์พี่ประทับอยู่ในหัวของข้าเป็นเวลานานแล้ว กลายเป็นเถ้าถ่านข้าก็จำได้”
รูปภาพนั้นวาดด้วยพู่กัน ไม่ได้ลงสี คนในภาพวาดเป็นชายหนุ่มหล่อเหลาในชุดคลุมยาวมือถือพัด แลดูอายุยี่สิบกว่าปี แย้มยิ้มอย่างสุภาพเรียบร้อยสง่างาม หน้าตาหล่อเหลาเป็นที่สุด
รูปภาพนี้ฝีมือวาดดียิ่งนัก ท่าทางของคนในภาพคล้ายกับของจริงมาก เพียงมองดูก็รู้ว่าเป็นผลงานของผู้มีฝีมือที่มีชื่อเสียง
โม่เหยามองดูรูปภาพก็นิ่งอึ้ง ผู้ชายในรูปหน้าตาเหมือนกับเขาไม่มีผิดเพี้ยน เพียงแต่แต่งเนื้อแต่งตัวแตกต่างจากเขาโดยสิ้นเชิง
“ท่านดูสิ แม้ว่าเยี่ยจื่อจะไม่เคยพบตัวจริงของศิษย์พี่มาก่อน แต่ด้วยภาพวาดนี้เยี่ยจื่อจะจำคนผิดได้หรือ ดูสิ อาจารย์ตั้งใจเขียนชื่อรวมถึงดวงแปดอักษร ลงไปด้วย” เยี่ยจื่อชิวชี้ไปยังตัวอักษรสีดำสองบรรทัดที่มุมล่างของรูปภาพพลางมองโม่เหยาด้วยความอิ่มเอมใจ สีหน้าไม่ยินยอมให้แก้ตัว
โม่เหยาหัวเราะเยาะ “อาศัยรูปภาพอย่างเดียวก็ยืนยันว่าฉันเป็นศิษย์พี่ของเธองั้นเหรอ เป็นคู่หมั้น? เหลวไหลแท้ๆ! ลูกไม้ตกผู้ชายรวยตกยุคไปนานแล้ว น้องสาวพักซะเถอะนะ”
“ผู้ชายรวยคืออะไรข้าไม่สนใจหรอก ข้าตกแต่ปลา…แล้วก็ตกท่าน!” เยี่ยจื่อชิวเห็นว่าเป็นตายอย่างไรโม่เหยาก็ไม่ยอมรับตัวตนของเขา นางเก็บรูปภาพเอาไว้ในถุงพลาสติกแล้วปิดอย่างดีด้วยความโกรธเคือง ก่อนจะดึงเชือกสีแดงออกจากคอ ชี้ไปยังสิ่งที่แขวนอยู่บนเชือกสีแดงพลางกล่าวอย่างไม่พอใจ “นี่เป็นหลักฐานยืนยันที่ท่านทิ้งเอาไว้ในปีนั้น เดิมทีกำหนดว่ารอให้ข้าเข้าพิธีปักปิ่นแล้วพวกเราก็ไหว้ฟ้าดินแต่งงานกัน ผลลัพธ์คือข้าตามหาท่านนานสามปี พบเจอกับความยากลำบากบ่อยครั้งจนได้พบท่านแล้ว แต่ท่านกลับทรยศแล้งน้ำใจไม่ยอมรับ! ท่านบอกมาว่าท่านรังเกียจสตรีแก่หน้าเหลือง ไร้ค่าในบ้าน แล้วเลี้ยงนางจิ้งจอกน้อยไว้ข้างนอกอย่างที่ผู้คนเขาเล่าลือกันหรือไม่”
โม่เหยาได้ยินดังนั้นเส้นเลือดก็ผุดขึ้นบนหน้าผาก ยังไม่รอให้เขาพูดก็ตำหนิเขาเสียแล้ว แต่เมื่อเห็นสิ่งของที่เด็กสาวนำออกมาแล้วสีหน้าก็พลันเปลี่ยนแปลงไป พอคว้าเอามาได้ก็ส่องกับไฟรถสังเกตดูอย่างละเอียดด้วยความตั้งใจ
ของสิ่งนี้มีชื่อว่าลูกเต๋าหยกน้ำแข็ง เป็นลูกเต๋าซึ่งทำมาจากหยกชั้นยอดในน้ำแข็งลี้ลับพันปี เมื่อนำมาถือไว้ในมือจะอบอุ่น แต่ถ้ากำเอาไว้ยิ่งนานก็จะยิ่งเย็น หากกำไว้ในระหว่างฝึกวรยุทธ์ก็จะป้องกันอาการคลุ้มคลั่งได้ สีหยกราวกับน้ำที่มีชีวิต ยามต้องลมพัดมีเสียงน้ำหยดของน้ำพุ เป็นสมบัติหายากที่ยากจะได้มาในพันปี เยี่ยจื่อชิวใส่มันอยู่ตลอดเวลา ไม่กล้าให้ห่างตัวสักประเดี๋ยวเพราะกลัวว่าจะทำหายหรือมีคนขโมยไป
“ลูกเต๋าหยกน้ำแข็งนี้เป็นสมบัติประจำตระกูลโม่ หายไปเกือบยี่สิบปีแล้ว ตามหาด้วยความยากเย็นแค่ไหนก็ไม่พบ บอกมา! ของสิ่งนี้อยู่ในมือเธอได้ยังไง” โม่เหยากุมลูกเต๋าหยกน้ำแข็งเอาไว้แน่นพลางตวาดด้วยเสียงเฉียบขาด
เยี่ยจื่อชิวเห็นโม่เหยาเปลี่ยนสีหน้าก็รู้สึกประหลาดใจ ยกมือขึ้นอังหน้าผากของเขาพลางกล่าวด้วยความกลัดกลุ้ม
“ศิษย์พี่ หรือว่าท่านความจำเสื่อมจริงๆ ไม่เพียงจำเยี่ยจื่อไม่ได้ กระทั่งของสิ่งนี้ที่ท่านมอบให้อาจารย์เป็นการส่วนตัวเพื่อทิ้งเป็นของหมั้นหมายให้ข้าก็ลืมหมดอย่างนั้นหรือ ก็เพราะว่านี่เป็นสมบัติสืบทอดของสกุลโม่ของท่านที่สืบต่อกันมา เพื่อเป็นการแสดงความจริงใจถึงได้มอบไว้ให้ข้า”
“ฉันเป็นคนให้เหรอ งั้นก็พอดีเลย คืนมันให้ฉันเถอะ” เวลานี้โม่เหยาเองก็ไม่อยากใช้เหตุผล เขาพยายามจะดึงเชือกสีแดงที่คล้องของล้ำค่าประจำตระกูลออกจากคอของเด็กสาว
“ไม่เอา!” เยี่ยจื่อชิวปกป้องของล้ำค่าเอาไว้แน่นราวกับเป็นแมวที่ถูกเหยียบเข้าที่หาง ขนลุกชูชันไปทั้งร่าง “สิ่งนี้จะต้องถูกส่งต่อให้กับบุตรชายของพวกเราในอนาคต! ตามกฎของสกุลโม่ ของสิ่งนี้ให้บุตรชายคนโตส่งมอบให้ภรรยาเอก ภรรยาเอกส่งต่อไปให้บุตรชายที่ทั้งสองคนเลี้ยงดูมา จะต้องส่งต่อกันไปเช่นนี้ ท่านจะนำไปทำอะไร อยากเปลี่ยนไปมอบให้ผู้ใด ข้าจะบอกท่านให้ มีภรรยาหน้าเหลืองเช่นข้าอยู่ จิ้งจอกน้อยข้างนอกก็อย่าได้คิดเข้าบ้าน! มาหนึ่งตัวข้าก็ตีหนึ่งตัว มาสองตัวก็ตีสองตัว! กล้าแย่งบุรุษกับข้าเยี่ยจื่อชิว ไม่อัดนางให้เจียนตายข้าก็มิได้แซ่เยี่ย!”
โม่เหยาใบหน้าบึ้งตึง จ้องมองเด็กสาวด้วยความเกลียดชัง เยี่ยจื่อชิวไม่ได้แสดงท่าทียอมแพ้ ในดวงตาดอกท้อราวกับมีมีดเหวี่ยงออกไปด้านนอกอย่างห้าวหาญ
ประกายไฟสาดไปทั่วทุกทิศ จู่ๆ ภายในรถก็มีเสียงที่ไม่เข้าพวกดังขึ้น ‘โครกคราก’
เยี่ยจื่อชิวพลันหน้าแดง ท่าทีใหญ่โตที่แสดงออกมาลดลงไปมาก นางก้มหน้าลงเอ่ยขึ้นเบาๆ “ศิษย์พี่ ภรรยาหน้าเหลืองของท่านหากยังไม่ได้กินข้าวคงได้หิวตายแล้ว”
“…”
Comments
