With Love
ทดลองอ่าน ร้อยพันหมื่นปีขอมีแค่เธอ บทที่ 2
บทที่ 2 ศิษย์พี่ท่านไม่เข้าใจความรัก
เยี่ยจื่อชิวที่แยกเขี้ยวเผยกรงเล็บ* ไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ดูดุร้ายราวกับแม่ไก่ที่กำลังปกป้องลูกเจี๊ยบ พอท้องร้องขึ้นมาก็กลายเป็นหนูที่รอความตาย ส่ายหางอย่างน่าสงสารอยู่ใต้เงื้อมมือราชสีห์ ซ้ำสีหน้าก็เปลี่ยนอย่างรวดเร็วราวกับได้รับถ่ายทอดมาจากกิ้งก่า โม่เหยาเลื่อมใสความสามารถของ ‘ศิษย์น้อง’ คนนี้เป็นอย่างมาก
เยี่ยจื่อชิวเห็นว่าศิษย์พี่คนนี้ไม่แยแสกับความหิวโหยของนางจึงใช้อุบายแบบเดียวกับที่เคยลองหลายครั้งก่อนหน้านี้เวลาขอร้องอาจารย์เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น
ซี่ฟันกัดลงที่ริมฝีปากเบาๆ ศีรษะก้มลงเล็กน้อย ดวงตาดอกท้อสั่นไหวคล้ายกับว่าได้รับความอยุติธรรมอย่างยิ่ง ขนตางอนกะพริบเคลื่อนไหวไปตามดวงตา คล้ายกับเป็นแปรงเล็กที่ละเอียดอ่อน ทำให้ใจคนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกชา
โม่เหยาไม่รู้ว่าตนเองถูกครอบงำด้วยความชั่วร้ายแบบไหน สมองยังไม่ทันตอบสนองคืนมา มือก็จับพลัดจับผลูหยิบเอาของถุงใหญ่ที่เพิ่งซื้อมาจากเบาะหลัง
ครั้นตระหนักได้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ โม่เหยาก็จดจ้องมือของตัวเองจนแทบอยากจะให้ทะลุเป็นพรุน เขากัดฟันก่นด่า ก่อนจะหยิบขนมปังห่อหนึ่งกับไส้กรอกยื่นไปให้เด็กสาวแล้วกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์
“เพิ่งซื้อมา เอาไปกินซะ!”
“ขอบคุณศิษย์พี่!” เยี่ยจื่อชิวรับของกินมาด้วยความตื่นเต้น ดวงตาทั้งสองข้างเป็นประกาย ครั้นตระหนักได้ว่าอีกประเดี๋ยวก็จะได้กินอะไรแล้ว น้ำลายก็ไหลจนนางต้องปิดปากแล้วกลืนน้ำลายกลับลงไป
โม่เหยาเหลือบมองเด็กสาวอย่างดูแคลน
เยี่ยจื่อชิวหยิบขนมปังที่ไม่เคยเห็นมาก่อนรวมถึงไส้กรอกพลิกไปมาอยู่เป็นนานสองนาน นางที่กำลังเบิกบานใจก็ค่อยๆ ยิ้มไม่ออกเพราะพบกับเรื่องยุ่งยากเข้าให้แล้ว สิ่งที่เรียกว่าขนมปังกับไส้กรอกต่างห่ออย่างแน่นหนาอยู่ใน ‘เปลือก’ ต้องเอา ‘เปลือก’ ออกถึงจะกินได้ แต่ปัญหาคือจะเอามันออกมาได้อย่างไร
นางแอบชำเลืองมองชายหนุ่มที่มีสีหน้าไม่สู้ดี ไม่รู้ว่าขัดเคืองใจอะไรอยู่ ก่อนจะกลืนน้ำลายหลายอึกแล้วยื่นขนมปังกับไส้กรอกกลับไปให้เขาอย่างเชื่องช้า มองพวกมันครั้งสุดท้ายก่อนที่จะ ‘จากลา’ ด้วยความเจ็บปวดใจ จากนั้นก็หลบสายตาออกไปอย่างเด็ดขาดแน่วแน่พลางกล่าวอย่างไม่สะทกสะท้าน
“ศิษย์พี่ เยี่ยจื่อไม่คุ้นชินกับการกิน…ของเหล่านี้ มีของว่างอย่างอื่นหรือไม่”
โม่เหยามองดูเด็กสาวราวกับมองมนุษย์ต่างดาวก็ไม่ปาน เห็นเธอตะกละอยากกิน ทำปากแจ๊บๆ อยู่ตลอดเวลา แต่ในใจเขาคิดว่าไม่รู้ว่าจะกินยังไงชัดๆ! เขาไม่อยากจะเชื่อว่าบนโลกนี้มีคนที่กระทั่งแกะห่อขนมปังกับไส้กรอกไม่ออก! ก่อนหน้านี้ตอนตามมากระโดดขึ้นรถก็ออกจะห้าวหาญแสนเท่เสียจนเขาคิดว่าตนเองพบกับอุลตร้าแมนหญิง ใครเลยจะคิดว่า…
“เธอมาจากซอกมุมซอกหลืบไหนกันแน่น่ะ” โม่เหยารู้สึกว่าตัวเองจะเป็นบ้าอยู่แล้ว เพียงหวังว่าพรุ่งนี้เช้าตื่นขึ้นมาจะพบว่าความจริงแล้วนี่เป็นแค่ความฝันเหลวไหลไร้สาระ
“ฮึ” เยี่ยจื่อชิวซึ่งถูกดูแคลนหันท้ายทอยแสดงความขอบคุณตอบเขา สาวน้อยต่างก็มีความกรีดกราย การกรีดกรายของคนงามก็ยิ่งมีมาก เพราะถูกคู่หมั้นดูแคลนเสียจนเธอเสียหน้าเป็นอย่างมาก
โม่เหยาส่ายศีรษะ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความเห็นอกเห็นใจหรือเปล่า เขาฉีกห่อขนมปังออกแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
“รีบกินซะ”
เยี่ยจื่อชิวหันกลับมาอย่างรวดเร็วก็เห็นว่าปัญหาซึ่งทำให้นางยุ่งยากใจอยู่เป็นนานสองนานได้รับการแก้ไขแล้ว อาหารที่ ‘สูญเสียไปแล้วได้กลับมาใหม่’ ทำให้นางดีใจขึ้นเป็นเท่าตัว ความทะนงตนหรือเกียรติอะไรไม่สนใจอีกแล้ว นางแย่งขนมปังมาแล้วกัดลงไปคำใหญ่ คนในดวงใจอยู่ข้างหน้าต้องระวังภาพลักษณ์เสียหน่อย แต่ตอนนี้นางหิวมากจึงไม่สนใจอะไรทั้งนั้น กลืนขนมปังชิ้นใหญ่กว่าฝ่ามือลงไปภายในพริบตา
“เอ้า” โม่เหยาที่ทนมองกับท่าทางการกินของอีกฝ่ายที่น่าสงสารจนทนดูไม่ได้ พอยื่นไส้กรอกที่ปอกเปลือกออกแล้วเขาก็หันหลังให้เธอ
“อิดอี้ อ้านอ้างอีเอื๋อเอิน! เอี้ยอื่ออ้าบอึ๊งใออิ้งอั๊ก” (ศิษย์พี่ ท่านช่างดีเหลือเกิน เยี่ยจื่อซาบซึ้งใจยิ่งนัก)
เยี่ยจื่อชิวยัดขนมปังเข้าไปในปากจนเต็มแน่น กล่าวด้วยความซาบซึ้งใจจนน้ำตาไหลพราก ภาพลักษณ์ของโม่เหยาในใจของนางเด้งขึ้นสูงพึ่บๆๆ ติดต่อกันสิบฉื่อ นางประคองไส้กรอกด้วยความพึงพอใจ ค่อยๆ เคี้ยวจนหมดเกลี้ยง สุดท้ายยังเลียนิ้วมือที่มีกลิ่นไส้กรอกติดอยู่ด้วย
กินขนมปังกับไส้กรอกจนหมดใช้เวลาไปไม่ถึงครึ่งนาที เยี่ยจื่อชิวลูบท้องซึ่งยังเอะอะร้องหิวอยู่ เลียริมฝีปากกล่าวอย่างที่ยังไม่สาแก่ใจ
“อร่อยจริงๆ ศิษย์พี่ ยังมีอีกหรือไม่ อีกสิบอันเยี่ยจื่อก็กินอิ่มแล้ว”
“ไม่มีแล้ว!” โม่เหยาเพ่งมองคนที่ได้คืบจะเอาศอกแล้วมองดูนาฬิกาข้อมือพลางกล่าว “ตีสองสิบนาที เธอควรกลับบ้านนอนได้แล้ว”
สายตาเจ้าเล่ห์อ้อยอิ่งอยู่ที่ถุงใบใหญ่ที่ด้านในมีข้าวของอยู่กองหนึ่ง เยี่ยจื่อชิวอดกลั้นความปรารถนาอย่างถึงที่สุด กล่าวพลางหัวเราะคิกๆ
“ศิษย์พี่ พวกเรากลับบ้านกันเถอะเจ้าค่ะ”
โม่เหยาย่นคิ้วชำเลืองมองเสื้อผ้าบนร่างกายของเด็กสาวพลางกล่าวฮึดฮัด “ฉันไม่อยากพาพรายน้ำกลับไปทำลายบ้าน”
เยี่ยจื่อชิวก้มมองเสื้อผ้าเปียกชื้นของตัวเองรอบหนึ่ง คิดว่าเสื้อผ้าชื้นทั้งตัวเข้าบ้านคนอื่นเป็นการเสียมารยาท จึงตบลงที่หน้าอกอย่างเปิดเผยพลางกล่าวเสียงก้องกังวาน
“นี่ไม่ยาก ข้าจะทำให้ชุดแห้งเดี๋ยวนี้!”
โม่เหยาอยากรีบร้อนกลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปียกชื้นจนอึดอัด หลังจากผ่านความทรมานมาช่วงหนึ่งเขาก็รู้สึกง่วงแล้ว หางตาเหลือบมองคนที่ทำท่าทำทางอิ่มอกอิ่มใจ จากนั้นก็สตาร์ตรถ
ก่อนขับรถออกไปก็ไม่ลืมที่จะปิดหน้าต่างรถทั้งหมด เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ ‘วัตถุแปลกปลอม’ เข้ามาสร้างความหายนะให้กับใจของเขามั่วซั่ว
Comments
