With Love
ทดลองอ่าน ร้อยพันหมื่นปีขอมีแค่เธอ บทที่ 2
กลางดึกรถราบนถนนน้อยมาก โม่เหยาขับรถค่อนข้างเร็ว ครุ่นคิดอยู่ว่าหลังจากพาเด็กน่ารำคาญคนนี้กลับไปแล้วจะให้เธอส่งสมบัติประจำตระกูลโม่มาแต่โดยดีได้อย่างไร
ข่มขู่? หลอกล่อ? ใช้ความหล่อ?
ขณะที่กำลังครุ่นคิด หางตาของโม่เหยาเหลือบไปเห็นไอน้ำลอยออกมาจากร่างกายของคนข้างๆ มากขึ้นเรื่อยๆ ครู่เดียวกระจกหน้าต่างรถก็ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกชั้นบางๆ เขาเปิดที่ปัดน้ำฝนอย่างรวดเร็ว หลังจากลดความเร็วลงแล้วก็หันศีรษะไปมองแวบหนึ่งด้วยความสับสน ใครจะคิดว่าภาพที่เห็นจะทำให้ผมของเขาตั้งตรงด้วยความตกใจ
เขาเห็นเด็กสาวหลับตาลง มือทั้งสองกำหมัดแน่น ไอน้ำบางๆ พุ่งออกมาจากร่างกายของเธอ กระทั่งผมก็ล้วน ‘พ่นควัน’ ไอน้ำที่ห้อมล้อมเธอก่อตัวมากขึ้นเรื่อยๆ ภาพนี้คล้ายกับผีสาวตนหนึ่งกำลังทำพิธีกรรม และยังเกิดขึ้นบนถนนเวลาดึกดื่นที่เงียบสงบทำให้ดูน่าหวาดกลัวเป็นพิเศษ
“เธอ…เธอ…” โม่เหยามือสั่นเทาจนหลุดจากพวงมาลัย รถจึงสูญเสียการควบคุมในทันที พุ่งไปยังด้านขวาด้วยความเร็วสูง
โม่เหยาที่สัมผัสได้ถึงอันตรายพลันเหงื่อออกทั่วร่าง บังคับดึงสติกลับมาแล้วรีบร้อนเบรกรถ สองมือหมุนพวงมาลัยไปทางซ้ายด้วยความรวดเร็ว เสียงเบรกแหลมสูงแสบแก้วหูดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ดังยาวนานกว่าเมื่อครู่
หลังจากที่เยี่ยจื่อชิวใช้กำลังภายในอบทั้งร่างกายให้แห้งแล้วก็ถูกภาพเหตุการณ์ตรงหน้าทำให้ตะลึงงัน ร่างกายโยกซ้ายเอนขวาไปตามรถ เมื่อรถหยุดลงในที่สุด หน้าผากนูนแดงของนางก็กระแทกกับกระจกหน้าอย่างหนักหน่วงอีกหนอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ รอยปูดนูนบนหน้าผากบวมใหญ่ขึ้นอีก บวมเป่งคล้ายกับมีลูกพลัมขึ้นอยู่บนหน้าผาก
สถานการณ์นี้อันตรายเป็นอย่างยิ่ง ในที่สุดโม่เหยาก็อาศัยทักษะการขับรถระดับสูงหยุดรถในขณะที่กำลังจะชนเข้ากับราวกั้นถนน
เคราะห์ดีที่เป็นกลางดึก ทั่วทุกทิศทางไม่มีรถคันอื่น ถ้าหากเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นตอนกลางวันก็ยากจะหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่ได้
“ศิษย์พี่!” เยี่ยจื่อชิวกุมหน้าผากที่ปูดโนพลางน้ำตาไหลพรากๆ โวยวายใส่ชายหนุ่มอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรม “ท่านบอกก่อนได้หรือไม่ว่าเจ้ากล่องเหล็กนี่ล้มเหลวบ่อยเพียงใด หัวของเยี่ยจื่อรับการชนแล้วชนอีกไม่ไหวจริงๆ ข้าเจ็บมาก”
โม่เหยายังคงอยู่กับอาการหวาดกลัวหลังจากรอดชีวิตมาได้ มือทั้งสองข้างบนพวงมาลัยล้วนสั่นเทา เมื่อได้ยินเสียงก็จ้องมองไปยังตัวการที่ก่อเหตุขึ้นในทันที คนก่อเหตุกลับยังกล้าร้องว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม
น่าต่อยชะมัด! สายตาเดือดดาลเปลี่ยนเป็นทึ่มทื่อทันทีเมื่อจดจ้องไปที่เสื้อผ้าซึ่งแห้งแล้วของเด็กสาว
เยี่ยจื่อชิวไม่ได้โง่เง่าถึงเพียงนั้น นางตระหนักได้ว่าตัวเองทำให้ศิษย์พี่ตกใจ พอพูดออกไปแล้วก็รู้สึกผิด ไม่กล้าบ่นเรื่องศีรษะชนอีก นางสังเกตได้ว่าคนผู้นี้อารมณ์ผิดปกติจึงมองสีหน้าที่แปรปรวนอยู่บ่อยครั้งด้วยความหวาดกลัว
“ศิษย์พี่เป็นอะไรไป เสื้อผ้าของเยี่ยจื่อแห้งแล้ว สามารถตามท่านกลับบ้านนอนได้แล้วกระมัง”
โม่เหยาตัดสินใจเอื้อมมือออกไปจับเสื้อผ้าของเด็กสาวโดยไม่รู้ตัว บริเวณที่สัมผัสนั้นกลับแห้งสบาย หากเขาไม่แน่ใจว่าผลการตรวจสุขภาพประจำปีของตนปกติมาก เขาคงสงสัยว่าตัวเองมีอาการป่วยทางจิตอย่างรุนแรง
หลังจากได้พบกับเด็กสาวคนนี้เขาก็ตื่นตกใจไม่หยุดหย่อน โม่เหยาไม่เคยรู้สึกว่าสุขภาพหัวใจของตนแข็งแรงจนถึงขั้นเหนือกว่ามาตรฐานทั่วไปอย่างวันนี้มาก่อน ตกใจครั้งแล้วครั้งเล่ากลับยังไม่เป็นอะไรเลยสักนิด หากเปลี่ยนเป็นคนที่จิตใจอ่อนแอสักหน่อย เมื่อพบเข้ากับเยี่ยจื่อชิวอย่างนี้ไม่เกิดอาการช็อกในทันทีสิแปลก!
“เธอเป็นคนหรือว่าผี” โม่เหยาอดกลั้นความอยากทุบตีคนแล้วเอ่ยถาม
“มีผีที่หน้าตางดงามอย่างเยี่ยจื่อด้วยหรือ” เยี่ยจื่อชิวส่งสายตาไม่พอใจให้โม่เหยา เชิดคางขึ้นเล็กน้อยด้วยความภูมิใจกับรูปร่างหน้าตาของตัวเอง แน่นอนว่านางมีความมั่นใจอยู่พอสมควร
“เธอใช้มนตร์ดำอะไรเสื้อผ้าถึงได้แห้งเร็วขนาดนี้เนี่ย!” หากไม่ใช่เพราะเห็นด้วยตาตัวเอง ตีให้ตายเขาก็ไม่เชื่อว่าบนโลกมีเรื่องแปลกประหลาดแบบนี้
“กำลังภายในน่ะ ศิษย์พี่เองก็มีไม่ใช่หรือเจ้าคะ” เยี่ยจื่อชิวกะพริบตามองไปยังชายหนุ่มด้วยความสงสัย คิ้วงามยู่ย่นเล็กน้อย “ศิษย์พี่ ตอนที่ท่านลืมเรื่องในอดีตคงจะไม่ได้ลืมแม้กระทั่งฝีมือการต่อสู้กระมัง”
“กำลังภายใน?” โม่เหยามองอีกฝ่ายอย่างครุ่นคิดพลางพึมพำกับตนเอง “ที่แท้บนโลกนี้ก็มีคนที่มีกำลังภายในจริงๆ…”
“ศิษย์พี่” เยี่ยจื่อชิวร้อนใจแล้ว ชายหนุ่มที่การพูดการจาท่าทางค่อนข้างแปลกทำให้นางกังวลใจอย่างมาก
โม่เหยามองเยี่ยจื่อชิวอยู่พักหนึ่ง อารมณ์ในดวงตาลึกๆ ของเขาไม่อาจคาดเดาได้ ขณะที่เยี่ยจื่อชิวร้อนใจจนจะร้องไห้ออกมา สายตาของเขาก็มองไปที่เชือกสีแดงบนคอของเด็กสาวที่ผลุบๆ โผล่ๆ แวบหนึ่ง จากนั้นก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับอารมณ์ที่แปรปรวนแล้วหันศีรษะไปพลางกล่าวอย่างเคร่งขรึม
“ไม่มีอะไร พวกเราไปกันเถอะ”
เมื่อรถสตาร์ตแล้วเริ่มเคลื่อนออกไป เยี่ยจื่อชิวที่ได้รับความเจ็บปวดถึงสองครั้งติดคราวนี้ได้รับบทเรียนแล้ว พอรถเริ่มเคลื่อนที่นางก็จัดเสื้อผ้านั่งให้เรียบร้อยทันที มือทั้งสองข้างยกขึ้นมาป้องกันหน้าอกไว้ จิตใจมีสมาธิขั้นสูง ดวงตาจ้องไปข้างหน้าตรงๆ ไม่กล้าแม้กระทั่งกะพริบตา กลัวว่าจะมีเหตุการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้นอีก
หากชนอีกก็ไม่แน่ใจว่าการชนครั้งนี้จะทำให้นางกลายเป็นคนสติปัญญาอ่อนด้อยไปเลยหรือไม่ แต่หากต้องเสียโฉมเพราะเรื่องนี้ล่ะก็ลำบากมากแน่นอน! ถึงเวลานางจะเอาอะไรไปชิงดีชิงเด่นกับจิ้งจอกน้อยที่นอกบ้านเหล่านั้นกันล่ะ!
Comments
