With Love
ทดลองอ่าน ร้อยพันหมื่นปีขอมีแค่เธอ บทที่ 3
“เขาเป็นเพื่อนที่รู้จักกับฉันมาตั้งแต่เด็กๆ ชื่อโจวเซ่าอี้ หนุ่มเจ้าสำราญที่ขยันเปลี่ยนผู้หญิงยิ่งกว่าเปลี่ยนเสื้อผ้า ผู้หญิงดีๆ อย่าได้อยู่ใกล้เขามากเกินไปเป็นอันขาด”
โจวเซ่าอี้ไม่พอใจคำแนะนำตัวเขาของโม่เหยาเป็นอย่างยิ่ง จึงพูดชี้แจงให้ตนเอง “นายใส่ร้ายฉันต่อหน้าสาวสวยให้น้อยๆ หน่อย! คุณชายอย่างฉันมีเสน่ห์ดึงดูดใจไม่ยึดติดในกฎเกณฑ์ การที่เก่งกาจด้านความสัมพันธ์กับผู้หญิงโดยธรรมชาตินี่โทษฉันได้เหรอ ทุกคนต่างบรรลุนิติภาวะ ก่อนจะเริ่มต้นก็ตกลงกันว่าจะคบและจากกันด้วยดี ฉันไม่ได้ปฏิบัติต่อผู้หญิงคนไหนที่ฉันคบหาด้วยไม่ดีเลย อีกอย่างที่ผ่านมาก็เป็นผู้หญิงที่เป็นฝ่ายโผเข้าสู่อ้อมอก คุณชายอย่างฉันที่คอยถนอมเอาใจผู้หญิงทนเห็นสาวงามโศกเศร้าไม่ได้ ถึงได้คบหากับพวกเธออย่างใจดี จนถึงวันนี้นายเคยได้ยินเรื่องแฟนเก่าที่เกลียดฉันบ้างไหมล่ะ ถึงจะเลิกกันแล้วทุกคนก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันทั้งนั้น”
เยี่ยจื่อชิวออกท่องยุทธภพพบเจอคนมามากมาย คนที่ไร้ยางอายที่สุดก็คือคุณชายเสเพลที่เล่นกับความรู้สึก เห็นสตรีเป็นประหนึ่งของเล่น เมื่อได้ฟังถ้อยคำลำพองใจของโจวเซ่าอี้ ใบหน้าก็แสดงออกถึงการขับไล่ไสส่งและรังเกียจออกมาจากหัวใจอย่างซื่อตรง นางปรับสีหน้า กล่าวกับโม่เหยาอย่างจริงจัง
“ศิษย์พี่วางใจได้ แต่ไหนแต่ไรมาเยี่ยจื่อรู้รักษาตัวรอด ร่างกายจิตใจซื่อตรงต่อสามีในอนาคตเท่านั้น บุรุษที่ชอบเดินเตร่ท่ามกลางพุ่มบุปผาและแป้งชาดเยี่ยจื่อไม่เห็นค่าแก่การคบหา”
โจวเซ่าอี้ถลึงตา เขาไม่อยากเชื่อว่าคนที่ทั้งรูปลักษณ์ภายนอกและฐานะการเงินดีไปเสียทุกอย่างอย่างตัวเองจะถูกหญิงสาวดูแคลนแบบตรงไปตรงมาแบบนี้ เมื่อพิจารณาจากประสบการณ์การมีความสัมพันธ์กับหญิงสาวมามากมายนับไม่ถ้วน ผู้หญิงคนนี้ดูถูกดูแคลนเขาจริงๆ ไม่ใช่การแสร้งปล่อยเพื่อจับอย่างแน่นอน!
โม่เหยาได้ฟังก็ปรากฏรอยยิ้มจางๆ ในดวงตา กำมือป้องปากกระแอมเล็กน้อยแล้วพูดกับโจวเซ่าอี้ที่โกรธจนควันแทบพุ่ง
“ฉันจะไปเปลี่ยนเสื้อ อีกเดี๋ยวจะออกไปซื้อหลอดไฟ”
แน่นอนว่าเมื่อตัวเองรู้สึกไม่สบายอารมณ์ก็ย่อมเห็นคนอื่นมีความสุขไม่ได้ โจวเซ่าอี้ไม่อยากทำตัวไม่สมกับฐานะด้วยการจู้จี้จุกจิกกับเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ จึงหันไปชี้โม่เหยา หรี่ดวงตาลงพลางกล่าวขึ้นอย่างประสงค์ร้าย
“เพื่อนรัก เหยาปี้เข้าร่วมงานนิทรรศการอัญมณีที่มิลาน อีกประมาณสองสามวันจะกลับเมือง T นายว่าหลังจากเธอกลับมาแล้วรู้ว่านายสร้างเรือนทองคำซ่อนสตรีเอาไว้…”
โม่เหยาได้ฟังสีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาขมวดคิ้วแน่น “พูดไร้สาระอะไรน่ะ อย่าคิดว่าฉันจะเจ้าชู้เหมือนนายสิ!”
“อ่าฮะ เพื่อนรัก นายแสวงหาความสุขให้มากๆ เถอะ” โจวเซ่าอี้กำลังมีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น
สายตาเยี่ยจื่อชิวจดจ้องใบหน้าที่ไม่สบอารมณ์ของโม่เหยาครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยถามโจวเซ่าอี้อย่างระแวดระวัง
“เหตุใดท่านจึงกล่าวเช่นนี้ เหยาปี้ผู้นั้นมีความสามารถเหนือคนธรรมดาหรือ เหตุใดนางจึงต้องรับรู้การมีอยู่ของข้า ศิษย์พี่ถึงจะแสวงหาความสุขได้มากขึ้น”
“ช่วงนี้น้องสาวดูละครย้อนยุคมากสินะ” ในที่สุดโจวเซ่าอี้ก็พบวิธีตอบโต้เยี่ยจื่อชิวได้แล้ว เขามองใบหน้าอ่อนหวานที่แอบซ่อนอารมณ์หึงหวงเอาไว้ไม่อยู่ของเด็กสาวด้วยความสงสาร “แม้จะบอกว่าวิธีการพูดจาแบบนี้จะไม่เหมือนใครอยู่บ้าง แต่จะอาศัยจุดที่แตกต่างตรงนี้ดึงดูดความสนใจของชายหนุ่มเกรงว่าจะยากมากๆ เลยนะ แม้แต่ ‘ศิษย์พี่’ ‘ศิษย์น้อง’ ก็ยังเอาออกมาใช้ จุ๊ๆ คุณชายอย่างฉันแนะนำให้เธออย่าเสียเวลาไปกับโม่เหยาเลย นานแล้วนะที่เขากับเหยาปี้น่ะ…”
“นายว่างมากหรือไง” โม่เหยาฉุดดึงคนที่อยากจะเปิดโปงตัวเองไปยังห้องรับแขก ชี้ไปที่โคมไฟคริสตัลสไตล์ยุโรปที่เพดานห้องแล้วเอ่ยว่า “ถ้ามีเวลามาพูดพล่ามอยู่ที่นี่ล่ะก็ ไม่สู้ทำเรื่องสำคัญจะดีกว่า ถอดหลอดไฟทั้งหมดในบ้านยกเว้นห้องนอนของฉันออกมา”
“นายถึงกับให้คุณชายอย่างฉันถอดหลอดไฟ!” โจวเซ่าอี้ชี้ตัวเองพลางถลึงตาเอ่ยถาม
“ไร้สาระ! หลอดไฟพวกนี้มาจากกิจการของบ้านนายทั้งนั้น ถ้าฉันปล่อยข่าวออกไปว่าของใช้ในบ้านภายใต้ยี่ห้อในเครือตระกูลโจวใช้ไม่ถึงหนึ่งปีก็พังแล้ว นายว่า…”
“โอเคๆ ฉันไม่ได้กลัวนายสักหน่อยเลย วันนี้ถือว่าฉันโชคร้ายก็แล้วกัน” โจวเซ่าอี้ย้ายเก้าอี้เตรียมถอดหลอดไฟอย่างยอมรับในชะตากรรม เขาเดินพลางบ่นไปด้วยว่า “สินค้าในเครือตระกูลโจวของฉันมีคุณภาพยอดเยี่ยมทั้งนั้น อายุการใช้งานนานกว่าหลอดไฟทั่วๆ ไปหลายเท่า ทำหลอดไฟคุณภาพสูงพังแปดดวงในรวดเดียว นายนี่ก็ถือว่ามีฝีมือ!”
คราวนี้โม่เหยาไม่ได้โต้แย้งคำพูดของเขา ทว่ามองไปยังเด็กสาวอย่างมีความนัยแล้วเอ่ยว่า “ใช่แล้ว ฝีมือถึงขั้นนี้ทำให้ได้เปิดหูเปิดตาจริงๆ”
“เอ๋?” โจวเซ่าอี้หันกลับมาด้วยความประหลาดใจ พินิจมองใบหน้าของโม่เหยาครู่หนึ่ง จู่ๆ ก็หัวเราะออกมา “เป็นฉันที่เข้าใจผิดไปนี่เอง คนที่ ‘ห้าวหาญ’ อย่างแท้จริงคือน้องสาวคนนี้!”
เยี่ยจื่อชิวไม่ได้ใส่ใจการหยอกล้อของโจวเซ่าอี้ จิตใจของนางถูกสตรีที่ชื่อเหยาปี้ผู้นั้นดึงดูดไปแล้ว ศิษย์พี่ได้ฟังชื่อของสตรีผู้นี้ก็มีท่าทีเปลี่ยนไป ตำแหน่งของหญิงผู้นั้นในใจเขาจะต้องไม่ธรรมดาแน่
สถานการณ์ไม่ดีเป็นอย่างมาก ความสัมพันธ์ของนางอยู่ในขั้นวิกฤตแล้ว
“ศิษย์พี่ เหยาปี้คือผู้ใด” เยี่ยจื่อชิวแสร้งเอ่ยถามถึงชื่อที่ทำให้ในใจนางเกิดความหึงหวงขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ
“เป็นเด็กเป็นเล็กกังวลกับเรื่องนี้ให้น้อยลงหน่อย ตอนบ่ายฉันจะออกไปข้างนอก เธออยู่ที่บ้านดูทีวีเอานะ” โม่เหยาเปิดโทรทัศน์ในห้องรับแขก เมินเฉยต่อท่าทางโศกเศร้าร้องทุกข์ของเด็กสาว เข้าห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
เยี่ยจื่อชิวย่ำเท้า ระบายความไม่พึงพอใจของตนเองอย่างไร้สุ้มเสียง
Comments
