โทรทัศน์เปิดอยู่ สถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งกำลังฉายละครกำลังภายในยุคโบราณที่ดูเหมือนว่าจะฉายซ้ำทุกปี
“พี่โหย่วจี้ รั่วจื่อต่างหากที่เป็นคนที่ท่านหมั้นหมาย เหตุใดท่านจึงเอาแต่คิดจะแต่งงานกับนางมารลัทธิปีศาจนั่นด้วยเล่า”
“รั่วจื่อ เรื่องของความรู้สึกไม่อาจฝืน คนที่ข้ารักจริงๆ คือเหม่ยเหม่ย”
“ข้าไม่สนๆ! วันนี้พวกเราทำตามสัญญาหมั้นหมายกราบไหว้ฟ้าดินแต่งงานกันเถิด!”
“รั่วจื่อ เป็นข้าที่ติดค้างเจ้า ขออภัยด้วย ข้าจางโหย่วจี้เคยสาบานไว้ว่าชีวิตนี้นอกจากเหม่ยเหม่ย จะไม่มีวันแต่งงานกับหญิงใด”
จู่ๆ ก็ได้ยินการสนทนาระหว่างชายหญิง เยี่ยจื่อชิวตกใจ นางมองไปตามเสียงและพบว่าเสียงนั้นมาจาก ‘กล่อง’ เรียวยาวบางๆ อันหนึ่ง
พอถูกฉากโต้เถียงกันของชายหญิงทำให้สะเทือนใจ เยี่ยจื่อชิวก็เดินเข้าไปโดยไม่รู้ตัว ก่อนชี้ไปยังหนุ่มรูปงามที่มีสีหน้าละอายแก่ใจภายใน ‘กล่อง’ พลางด่าสาดเสียเทเสีย
“ชายจิตใจเหี้ยมโหดคิดคดทรยศ ทอดทิ้งคู่หมั้นละเลยจริยธรรม สมควรถูกหั่นเป็นพันเป็นหมื่นครั้ง!”
“เฮือก!” โจวเซ่าอี้ที่กำลังถอดหลอดไฟตกใจกับเสียงด่าทอด้วยความโมโหอย่างกะทันหันของเยี่ยจื่อชิวจนเกือบตกจากเก้าอี้ เขารีบทรงตัวก่อนหันไปมองอย่างไม่พอใจ “นี่ แค่ดูทีวีเอง อินขนาดนี้จะเสียงดังเอะอะให้ได้อะไร”
เวลานี้เยี่ยจื่อชิวได้ถูกชายหญิงในโทรทัศน์ดึงดูดไปนานแล้ว มีหรือจะได้ยินว่าคนข้างๆ กล่าวอะไร
“กรี๊ด!” หญิงสาวงดงามในละครกรีดร้องด้วยความเศร้าเสียใจ ข้อต่อกระดูกมือทั้งสองข้างส่งเสียงกร๊อบๆ บาดหู พริบตานั้นมือก็กลายเป็นกรงเล็บน่าหวาดกลัว ดวงตาคู่นั้นฉายแววบ้าคลั่งพลางกัดฟันกรอด “จางโหย่วจี้! เป็นเจ้าที่ติดค้างข้าในอดีต ในเมื่อเจ้าไร้ใจ เช่นนั้นก็อย่าโทษว่าข้าไร้ความยุติธรรมก็แล้วกัน!”
“ลงมือเถิด ไม่ฆ่าเขาก็ระบายความแค้นออกมาไม่ได้!” เยี่ยจื่อชิวชูมือขึ้นกำหมัดให้กำลังใจหญิงสาวด้วยความขุ่นเคือง
“พี่โหย่วจี้!” จู่ๆ หญิงสาวที่งดงามยิ่งกว่าหญิงสาวคนเมื่อครู่ก็ถูกคนพาเข้ามาโดยที่มือถูกมัดไพล่หลัง หญิงงามสะคราญมองชายหนุ่มที่อยู่ไม่ไกลด้วยสายตาโง่งม ส่วนชายหนุ่มเองก็มองกลับอย่างโง่งมเช่นกัน
ชั่วขณะนั้นคล้ายว่าใต้หล้านี้มีเพียงพวกเขาสองคน
“นางจิ้งจอก!” เยี่ยจื่อชิวฮึกเหิมเสียยิ่งกว่าหญิงสาวในละครที่ชื่อ ‘รั่วจื่อ’ นางชี้หน้าจอโทรทัศน์อย่างโมโหพลางตำหนิเสียงลั่น “อยู่ท่ามกลางคนมากมายยังส่งสายตาให้กัน นางจิ้งจอกชั่วช้า! ชายโหดเหี้ยมต่ำทราม!”
โจวเซ่าอี้ลืมหลอดไฟที่ถอดไปได้ครึ่งหนึ่ง เขาอ้าปากค้างมองเด็กสาวที่อินไปกับละครอย่างตกตะลึงจนคางแทบจะหล่นลงไปบนพื้น
“ในเมื่อพวกเจ้ารักกันลึกซึ้ง วันนี้ข้าก็จะทำให้พวกเจ้าเป็นคู่ยวนยาง ที่ต้องพลัดพรากอย่างสมบูรณ์!” ‘รั่วจื่อ’ กางกรงเล็บพุ่งเข้าไปหาหญิงสาวที่ถูกมัดด้วยหมายจะเอาชีวิต ออกกระบวนท่าแทงเข้าหาจุดสำคัญของศัตรูหัวใจ
“อย่างนั้นล่ะ ฆ่านางเสีย!” เยี่ยจื่อชิวปรบมือด้วยความยินดี
“เหม่ยเหม่ย!” ชายหนุ่มในหน้าจอเหาะทะยานไปข้างหน้าเพื่อช่วยเหลือด้วยความหวาดกลัว พริบตาเดียวก็ต่อสู้พัวพันกับหญิงสาวที่อิจฉาริษยาจนคลุ้มคลั่งผู้นั้น
“มีอย่างที่ไหน!” เยี่ยจื่อชิวเห็นสถานการณ์ก็โมโหใหญ่โต ชี้นิ้วด่าชายหนุ่มที่ตั้งหน้าตั้งตาปกป้อง ‘เหม่ยเหม่ย’ “เพื่อนางจิ้งจอกถึงกับลงมือกับคู่หมั้นคู่หมาย ชาติชั่ว! ไร้ยางอาย! ต่ำช้า!”
โจวเซ่าอี้เช็ดเหงื่อบนศีรษะ ส่ายหน้าพูดกับคนที่อารมณ์ฮึกเหิมผิดปกติอย่างจนใจ “แม่นางเหม่ยเหม่ยต่างหากที่เป็นคู่ชะตาที่แท้จริง เป็นนางเอกหลักของละครเรื่องนี้ เธอว่ามีอะไรไม่เป็นธรรมงั้นเหรอ”
“คู่ชะตาอะไรกัน ชิ!” เยี่ยจื่อชิวซึ่งเต็มไปด้วยความโกรธไม่มีที่ระบายก็พบทางออกทันทีเมื่อได้ยินคำพูดนั้น เหรียญทองแดงพุ่งออกจากหว่างนิ้วตนในชั่วพริบตา กระแทกเข้ากับขาเก้าอี้อย่างแม่นยำ
“เหวอ!” เก้าอี้พลันพลิกคว่ำ โจวเซ่าอี้ที่ยืนอยู่ข้างบนยังไม่ทันได้ตอบสนองก็ล้มลงบนพื้นอย่างอเนจอนาถ ก้นของเขานั่งลงบนขาเก้าอี้พอดิบพอดี และบังเอิญไปโดน ‘ส่วนสำคัญ’ เขาจึงเจ็บจนร้องโอดโอยออกมา
ละสายตาไปครู่เดียว ‘รั่วจื่อ’ ในละครก็ได้รับบาดเจ็บ เยี่ยจื่อชิวเห็นอย่างนั้นก็โกรธและด่าทอคู่หญิงชายซึ่งโอบกอดกันอยู่ยกใหญ่
“หญิงโฉดชายชั่วตัวดี! วันนี้ข้าจะทำตามประสงค์ของสวรรค์ มัดพวกเจ้าไปถ่วงแม่น้ำ!”
กล่าวจบมือก็เอื้อมไปชักกระบี่ด้านหลัง แต่กลับจับได้เพียงความว่างเปล่า ทันใดนั้นนางก็นึกได้ว่ากระบี่อยู่ในห้อง ไม่ได้สะพายไว้กับตัว จึงได้แต่ล้มเลิกการใช้กระบี่แล้วใช้มือขวาต่างมีดโบกปัดหมายจะฟันไปที่ชายหญิงคู่นั้นในหน้าจอ