บทที่ 1-3 แต่งงานกับพญายม
กลางดึกคืนนั้นรถดำเทียมม้าสี่ตัวคันหนึ่งก็มาจอดอยู่ที่นอกประตูจวนสกุลซย่า บนรถม้าประทับตรามังกรมัจฉาของราชองครักษ์อวี่หลิง ไม่มีผู้ใดกล้าขวาง ม่านรถถูกเลิกขึ้น ชายหนุ่มสันจมูกสูงโด่งเบ้าตาลึกเดินลงมา ทั่วทั้งตัวสวมเครื่องแบบทหารสีดำสนิท สาบเสื้อยุ่งเหยิงเล็กน้อยแต่กลับทำให้ดูมีบารมียิ่งขึ้น ในอ้อมแขนเขามีสตรีนางหนึ่งห่ออยู่ในเสื้อคลุมตัวนอกสีดำ กำลังนอนหลับสนิท
ประตูหลักของจวนปิดสนิท หลังเขาเคาะประตูแล้วรออยู่ครู่หนึ่ง ประตูใหญ่จึงเปิดออกตามเสียงเรียก บ่าวรับใช้เห็นป้ายที่เอวของเขาก็ลนลานเข้าไปรายงานในเรือน
เมื่อบอกต่อกันไปถึงเรือนชั้นใน หญิงวัยกลางคนก็กระแอมกระไอเดินออกมา ใบหน้าฉายแววขุ่นเคือง แต่ก็ปิดความยินดีอย่างคนสำเร็จแผนการได้ไม่มิด “ไม่ทราบว่าเป็นใต้เท้าท่านใดนำคุณหนูบ้านข้ากลับมาส่ง ถ้าเรื่องแดงออกไป ข้าจะบอกต่อใต้เท้าลู่ว่าอย่างไร…”
นางยังพูดไม่ทันจบ พอเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายชัดเจนก็นิ่งงันอยู่กับที่
“ข้าน้อยลู่หย่วน มาส่งคู่หมั้นกลับจวน ระหว่างทาง…รำลึกความหลังกัน จึงเสียเวลาไปนาน” เขาย่างเดินก้าวใหญ่เข้าไปในลานบ้าน เสมือนเข้าไปในสถานที่รกร้างไร้ผู้คนก็มิปาน
หลังจากคืนนั้นเมื่อซย่าชิงยวนตื่นขึ้นมาก็ได้ยินเสียงนกร้องจากนอกหน้าต่างดังเซ็งแซ่ นางยังนึกไปว่าเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นในวัดโบราณเป็นเพียงแค่ฝัน นางลงจากเตียงจะไปล้างหน้าสางผมก็เหยียบถูกรองเท้าปักดิ้นสีแดงชาดลายหงส์คู่หนึ่ง พอยื่นมือออกไปก็คลำเจอขอบเตียงไม้จันทน์แกะสลัก รวมทั้งม่านเตียงกางลงมาเป็นชั้นๆ
นี่ไม่ใช่ห้องเก็บฟืนปูเสื่อฟางที่นางนอนเป็นประจำ แต่เป็นห้องนอนที่มีแต่แขกเท่านั้นที่เข้าพักได้
ซย่าชิงยวนตบศีรษะตนเองคราหนึ่ง ภาพฉากเมื่อคืนก็หลั่งไหลเข้ามาในหัวทีละภาพ นางสะดุ้งตัวโยนปีนลงจากเตียง เมื่อหากระจกทองเหลืองจากโต๊ะเครื่องแป้งเจอแล้วก็ตรวจตราตนเองโดยละเอียด ทันใดนั้นนางก็เห็นรอยจ้ำแดงที่คอ
ซย่าชิงยวนร้องคร่ำครวญพลางปิดหน้า เรื่องเมื่อคืนนี้เป็นจริงเสียด้วย นางได้หลับนอนกับชายอื่นที่เจอกันโดยบังเอิญไปแล้วจริงๆ ทั้งยังถูกส่งกลับจวน ที่แย่ที่สุดคือนางลืมส่วนสำคัญที่สุดของเมื่อคืนนี้ไปจนหมดสิ้น จำได้เพียง…คนผู้นั้นร่างสูง วาจาน้อย ดวงตาดั่งเหยี่ยวอินทรี จับจ้องมองนางตลอดเวลาแต่ก็เหมือนกับกำลังมองคนอีกคน นางรู้สึกได้ว่าแม้ท่าทีที่เขามีต่อตนจะเดี๋ยวเหินห่างเดี๋ยวใกล้ชิด แต่พอขอก็ยอมให้ เขากำลังสนองความต้องการของนาง ไม่รู้ว่านั่นเป็นเพราะความสงสาร หรือเป็นความแปลกใจที่หญิงสาวผู้โดดเดี่ยวและมีชีวิตยากลำบากจะปล่อยเนื้อปล่อยตัวได้ถึงเพียงนี้
เมื่อคืนตอนท้ายมีฝนตกที่นอกห้องนั่งกรรมฐาน เสียงฝนซ่าๆ กลบเสียงอื่นไปมากมาย นางจำได้ว่าตนเองรู้สึกร้อนรุ่ม จึงถอดเสื้อคลุมออกพันไว้บนร่างของเขา มือของเขา…น่าจะไม่ได้แตะต้องนางเลยกระมัง แต่ก็จุมพิตนางอย่างใจไม่อยู่กับตัวตลอดเวลา ทั้งสองแสร้งทำทีพัวพันโดยไม่ได้กระทำอะไรลึกซึ้ง แต่ก็ไม่ได้คิดจะหยุด ภายหลัง…แม้จะลืมส่วนที่สำคัญไปจนหมด ทว่าในใจนางก็ว่างโหวงราวกับอะไรขาดหายไป
คืออะไรกันนะ…
ซย่าชิงยวนยังไม่ทันได้คิดให้ละเอียด นอกระเบียงทางเดินก็พลันสว่างขึ้นด้วยโคมไฟที่แกว่งไกว สาวใช้เรียกนางว่าคุณหนูซย่าอย่างไม่คุ้นชินนัก ก่อนจะบอกให้นางรีบล้างหน้าสางผม
ใช่แล้ว วันนี้เป็นวันแต่งงานของนาง