3
เวลาเดียวกันภายในเมืองหลวง ควันธูปตลบอบอวลอยู่ในตำหนักซานชิงที่ตั้งอยู่ทางเหนือของพระราชวัง
ตามคำเล่าลือในโลกภายนอก ตั้งแต่ฮองเฮาสวรรคตเมื่อห้าปีก่อน ฮ่องเต้หลิวเสวียนหลี่ก็หลงงมงายในศาสตร์เล่นแร่แปรธาตุ ลุ่มหลงการปรุงยาอายุวัฒนะ อำนาจการปกครองทั้งหมดล้วนมอบให้พระเก้าพันปี แต่นับจากลู่หย่วนกลับเมืองหลวงมารับตำแหน่งผู้บัญชาการองครักษ์อวี่หลิงแล้ว เขาก็กลายเป็นคนกลุ่มน้อยนอกจากพระเก้าพันปีที่ได้เข้าเฝ้าฮ่องเต้
ส่วนลึกของพระตำหนัก ฮ่องเต้นั่งตัวตรงบนแท่นบูชา มือถือแซ่นักพรต ดวงตาหลุบลง มองไปยังเตาหลอมยาที่อยู่ไม่ไกล
“ใต้เท้าลู่”
ลู่หย่วนคำนับ “พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท”
“งานแต่งของเจ้าเมื่อวันก่อนเราไม่สามารถไปด้วยตนเองได้ เป็นเรื่องน่าเสียดายจริงๆ”
ฮ่องเต้ลุกขึ้นยืนบนแท่นบูชา กุมไม้เท้าลายมังกร คลำทางลงบันไดมาทีละก้าว
ลู่หย่วนลุกขึ้นยืนแต่ไม่ได้เข้าไปประคองฮ่องเต้ เพียงมองดูเขามาหยุดยืนตรงหน้าตนเอง
“ตอนนั้นเรากำราบแม่ทัพลู่กับเสนาบดีฝ่ายขวา…ได้ยินมาว่ายามนี้บุตรีโทนสกุลซย่าจำเรื่องเมื่อห้าปีก่อนไม่ได้ เป็นเช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน” สายตาของฮ่องเต้เหมือนทอดพระเนตรไปยังสถานที่แสนไกล
“เรื่องในตอนนั้นกระหม่อมก็ลืมสิ้นแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ลู่หย่วนมีสีหน้าเรียบเฉย “ฝ่าบาทควรทราบ ห้าปีก่อนกระหม่อมต้องพิษหนอนคุณไสย อายุขัยลดลงอยู่ได้ไม่เกินสิบกว่าปี งานสมรสของกระหม่อมกับชิงยวนเป็นเพียงพระราชโองการจากฝ่าบาท เป็นแผนเฉพาะหน้าเพื่อปกป้อง ‘ดวงตาจิตรกรรม’ ไม่ให้ถูกสายของคนแซ่หานกับราชนิกุลทำลายเท่านั้นเอง”
ลู่หย่วนมองดูไฟในเตาหลอมยา แต่คำที่กล่าวออกมากลับเยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง
ฮ่องเต้ไม่เอ่ยอะไรอยู่นาน มีเพียงเสียงปะทุของเปลวไฟที่ลุกไหม้อยู่ในเตาหลอมยา หลังครุ่นคิดอยู่ครู่ใหญ่ก็เอ่ยขึ้นว่า “วันนี้เรียกเจ้ามาเพราะเรื่องที่เราเคยมอบหมายไว้ก่อนหน้านี้…มีข่าวคราวใหม่ ในเมื่อซย่าชิงยวนทายาทของ ‘ดวงตาจิตรกรรม’ ถูกเจ้าพบแล้ว นอกจากนักรบอาชาพยัคฆ์เผ่น ตอนนี้สิ่งที่เหลือก็มีแค่ภาพวาดนทีคัมภีร์ธารา”
ลู่หย่วนเงยหน้าขึ้นทันควัน เขามองไปที่ฮ่องเต้
“ช่วงหลังมีโจรกบฏที่แถบเจียงไหว บอกว่าตนเป็นทายาทราชวงศ์ รวบรวมเงินกว้านซื้อนักฆ่า ยามนี้หัวหน้าของพวกมันมาถึงเมืองหลวงแล้ว” ฮ่องเต้คิดคำนึงอยู่ครู่หนึ่งก็กล่าวเสริมต่อ “ได้ยินว่าโจรกบฏนั้นเป็นสตรี อายุ…รุ่นราวคราวเดียวกับเจ้าและชิงยวน ดูเหมือนว่าจะชื่อ…เสาเย่า”
เปลวไฟในเตาหลอมยาเปลี่ยนจากแดงเป็นน้ำเงิน ลู่หย่วนนึกถึงเมื่อหลายเดือนก่อนหน้า ตอนที่เขานึกว่าตนจะต้องทิ้งชีวิตไว้ที่คุกปิดตายในค่งหม่าก็ได้รับพระราชทานอภัยโทษ ฮ่องเต้ที่ดวงตาบอดไปแล้วค้ำดาบยืนอยู่ในคุกปิดตาย ไม่ไหวติงดุจขุนเขา ‘เราอยู่บนโลกนี้ได้อีกไม่นาน อยากสั่งเสียเจ้าให้ตามหาบุตรเพียงหนึ่งเดียวของเรากับฮองเฮา…องค์หญิงที่หายสาบสูญไปเมื่อหลายปีก่อน ในมือของนางมีภาพวาดนทีคัมภีร์ธารา’
ฮ่องเต้เดินไปทางเตาหลอมยาแล้วใช้ท่อนเหล็กเขี่ยไฟในเตา
“มีเพียงตามหานางพบ เสนาบดีฝ่ายขวาและแม่ทัพลู่ในตอนนั้นจึงจะไม่ตายเปล่า ผู้คนในใต้หล้าจะได้ไม่ตกอยู่ในสงครามกลียุคอีก”
หลังพูดคุยจบลู่หย่วนก็กล่าวลา ในพระตำหนักเหลือเพียงควันที่ม้วนเป็นเกลียวจากกระถางเครื่องหอม
ฮ่องเต้ยืนนิ่งอยู่เนิ่นนาน จากนั้นถอนหายใจยาวเหยียด ก่อนจะเดินเข้าไปในส่วนลึกที่มืดมิด
“เสาเย่า เจียงหลี อวี่อี ตอนนั้นเจ้าไม่ให้อภัยเราจวบจนวันตายจริงด้วย”