บทที่ 2-5 สามีภรรยาปลอม
8
ซย่าชิงยวนมองลู่หย่วนแล้วหลับตาลง สติหลุดไปชั่ววูบ ในความสลัวนางนึกถึงเงาคนผู้หนึ่งจากส่วนลึกของความทรงจำ สวมชุดม่วงคาดแดง ใบหน้าคมเข้ม นั่งตัวตรงแหน็วอยู่ในห้องโถงหลัก เบื้องหน้ามีดาบวางอยู่เล่มหนึ่ง ฝักดาบทำจากทองคำบริสุทธิ์ วาดเป็นลายมังกร ลมหอบใหญ่กวาดใบไม้แห้งบนพื้น บุรุษผู้นั้นมองซย่าชิงยวนในวัยเยาว์ด้วยดวงตาอ่อนโยน
‘อำนาจทั่วแผ่นดินไปรวมอยู่ที่เสนาบดีฝ่ายซ้าย รับเบี้ยหวัดเสียเปล่า สามกรมล้วนไร้ประโยชน์ หากต้องมีคนสละชีพเพื่อเตือนสติคนในแผ่นดิน ขอให้เริ่มที่ตัวข้าก่อน’
ซย่าชิงยวนในวัยเด็กไม่เข้าใจความหมายในคำพูดของบิดา เพียงรู้สึกโศกเศร้า มาตอนนี้นางไม่เพียงจำได้ แต่ยังเข้าใจนัยความหมายจากคำพูดของบิดาอย่างครบถ้วน ตามติดด้วยความเจ็บปวดกรีดกระชากที่ท่วมทะลัก ปวดชนิดที่นางจะยืนให้มั่นยังทำไม่ได้ ในความมืดสลัวมีคนประคองนางไว้ นางลืมตาขึ้น สิ่งที่ประจักษ์ในสายตาคือใบหน้าลู่หย่วน ตัวนางกำลังคว้าแขนเสื้อเขาแน่นไม่ยอมปล่อย ราวกับว่านั่นคือฟางช่วยชีวิตเส้นสุดท้าย
“เมื่อครู่เจ้านึกถึงอะไรบางอย่างได้ใช่หรือไม่” แววกังวลในดวงตาลู่หย่วนกลับไม่ได้เสแสร้ง
“ปะ…เปล่า แค่ปวดศีรษะนิดหน่อย” เมื่อนางได้สติกลับคืนก็ปล่อยเขาทันที
“ใต้เท้า ฮูหยิน ถึงจวนแล้วขอรับ”
เสียงตะโกนจากนอกรถดังถูกเวลาพอดี ขัดบทสนทนาของทั้งสอง ลู่หย่วนอุ้มนางลงจากรถโดยไม่ต้องคิด ทำราวกับนางไม่มีขาเสียอย่างนั้น ที่ทำให้นางยิ่งทำอะไรไม่ถูกก็คือ…ลู่หย่วนเหมือนจะอุ้มนางเดินไปทางห้องนอน
“ทะ…ท่านทำอะไร” ซย่าชิงยวนขัดขืนจะกระโดดลงมา เวลานี้หลังออกมาจากหอเทียนเซียงที่หอมตลบอบอวลแล้ว นางค่อยรู้สึกว่าที่จริงลู่หย่วนดื่มมากไป เมื่อครู่ก็แค่ฝืนทำเป็นมีสติสัมปชัญญะ เขาไม่ปล่อยมือ เพียงก้มมองนางแวบหนึ่ง ในดวงตาซ่อนนัยเอาไว้มากเหลือเกิน เช่นเดียวกับจุมพิตที่ทำให้นางใจเต้นรัวเร็วที่หอทอง
“ตะ…ใต้เท้าลู่ ท่านรีบวางข้าลง” พอเข้าใกล้ห้องนอนมากขึ้นเรื่อยๆ นางก็ร้อนใจ “ถ้ายังไม่ปล่อย ข้าจะกัดท่านแล้วนะ!”
ลู่หย่วนหยุดมองนาง “เจ้ากัดสิ ทว่ามีคนมากมายกำลังมองอยู่นะ”
เวลานี้นางค่อยมองตามหางตาของเขา พบว่ากลางห้องโถงที่เคยว่างเปล่า…มีหญิงงามยืนอยู่แถวหนึ่ง
มวลบุปผาตระการตา ต่างงดงามในแบบของตนเอง
ซย่าชิงยวนนิ่งตะลึง “เมื่อครู่นี้พระเก้าพันปี…”
ลู่หย่วนไม่หยุดฝีเท้า เพียงผงกศีรษะเล็กน้อย บอกว่านางพูดถูก “เจ้านึกว่าออกมาจากหอเทียนเซียงแล้วละครบทนี้จะจบอย่างนั้นหรือ”
จากนั้นเขาก็ก้าวยาวๆ เดินเข้าไปในห้องนอน ปิดประตูเสียงดังปัง หาชุดจุดไฟมาจุดโคมแต่ละดวงภายในห้องให้สว่าง เมื่อเป็นเช่นนี้ทุกการกระทำและคำพูดของคนในห้องก็จะขยายฉายเป็นเงาบนหน้าต่างปิดกระดาษ ให้รายละเอียดปรากฏ
ขั้นตอนตรงนี้เป็นไปอย่างราบรื่น เท้านางเพิ่งจะแตะพื้น ลู่หย่วนก็เริ่มเปลื้องเสื้อผ้า
“เดี๋ยวก่อน! ใต้เท้าลู่ ท่านทำเช่นนี้ไม่ได้นะ รีบใส่กลับเข้าไป ใส่เข้าไปเดี๋ยวนี้!”
เขากางมือออก “เจ้าจะช่วยข้าถอดหรือ”
นางลดเสียงลง ใช้รูปปากถามเขา “เราต้องเล่นละครกันถึงขั้นนี้เชียวหรือ”
ลู่หย่วนคว้าตัวนางเข้ามาใกล้ แล้วจับมือนางวางลงบนเข็มขัดเขา “หากวันหน้าเจ้าไม่อยากให้มีหญิงงามสิบสองนางอยู่ในบ้านเรียกขานเป็นพี่สาวน้องสาว คอยจับตาทุกการกระทำของเจ้ากับข้านำไปรายงานพระเก้าพันปี คืนนี้ก็ขอเบียดเบียนเจ้า…ให้แสดงบทสามีภรรยาที่รักใคร่กันให้ถึงที่สุด”
นางรวบรวมจิตใจก่อนพยักหน้า เริ่มช่วยเขาปลดเข็มขัด ช่วยไม่ได้ที่เข็มขัดมีความซับซ้อนจริงๆ นางง่วนกับการปลดไปพักใหญ่ก็หาตำแหน่งหัวเข็มขัดไม่เจอสักที
ลู่หย่วนเงยหน้าขึ้น ปล่อยให้นางคลำเปะปะ เส้นผมที่หน้าผากถูไถกับซอกคอเขา ทันใดนั้นนัยน์ตาเขาก็หด กระแอมอย่างไม่เป็นธรรมชาติแล้วคว้ามือนางไว้ “นี่เจ้าคลำไปถึงที่ใดแล้ว”