แม่ทัพเยียนผู้สุขุมเคร่งเครียด ยิ่งใหญ่ทรงอำนาจ และเหี้ยมโหดดุดัน เหตุใดถึงได้อ่อนโยนกับนางถึงเพียงนี้ ทุกความเคลื่อนไหวเต็มไปด้วยความทะนุถนอม ราวกับกลัวว่าหากออกแรงเยอะไปแค่นิดเดียวจะทำให้นางแตกสลายหรือทำให้นางเจ็บได้
“เสี่ยวหมี่” เขามองนางตาไม่กะพริบพลางเอ่ยเรียกเบาๆ
“หืม?” นางได้ยินตนเองกระซิบตอบอย่างขลาดอาย
แสงจันทร์สะกดใจ สายลมราตรีเย็นรื่น ในค่ำคืนอันงดงามเช่นนี้ ดูเหมือนอะไรก็เกิดขึ้นได้ อะไรก็เป็นจริงขึ้นมาได้
“เจ้ายินดีจะ…” เสียงของเขาแผ่วพร่า ชายหนุ่มค่อยๆ โน้มตัวลงมาอย่างเชื่องช้า
ในจังหวะนั้นเอง ล่าเมฆาก็ทำลายบรรยากาศด้วยเสียงจามดังลั่น!
ไอหมอกหวานๆ หายวับไปทันที…ใบหน้าสองดวงที่โน้มเข้ามาจนอยู่ห่างกันนิดเดียวชะงักค้างอย่างประดักประเดิด
ล่าเมฆา!
เยียนชิงหลางลอบกัดฟันกรอด ทว่ายังแสร้งทำหน้าสุขุมเรียบเฉย มือใหญ่ลูบแก้มนางเบาๆ อย่างกระดาก “เอ่อ…เมื่อครู่…เศษหญ้าปลิวมาติดน่ะ”
“ขอบคุณท่านแม่ทัพใหญ่ที่ช่วยเหลือ…” นางกระอ้อมกระแอ้มเออออตามทั้งที่หน้ายังไม่หายแดง “แย่จริง บนทุ่งลมแรง หญ้าก็เยอะ”
ล่าเมฆาที่รู้ตัวว่าทำผิดรีบทำคอหด ท่าทางหงอยๆ ดูน่าสงสารอย่างยิ่ง
แต่อวี้หมี่เห็นแล้วกลับขบขัน
“เด็กดี เดี๋ยวกลับไปพี่สาวจะต้มบัวลอยน้ำขิงหวานให้เจ้ากินบำรุงร่างกายนะ เจ้าจะได้ไม่หนาวตอนกลางคืนอีก” นางตบหัวอันโอฬารของมันเบาๆ อย่างเอ็นดู
เยียนชิงหลางที่ถูกกีดกันให้อยู่อีกทางไปโดยปริยายขมวดคิ้วพูดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ “ดึกมากแล้ว กลับกันเถิด”
“แล้วพรุ่งนี้มาใหม่ได้หรือไม่” นางทำสายตาคาดหวัง
ในที่สุดรอยยิ้มบางๆ ก็ผุดขึ้นตรงมุมปากเขา “ได้ พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่”
“ข้าอยากขี่เองอีกตัว”
ใบหน้าหล่อเหลากลับไปบึ้งตึงทันควัน “ไม่ได้”
“แต่ถึงอย่างไรพวกเราก็เป็น…ชายหญิงไม่ควรใกล้ชิด…” อวี้หมี่รวบรวมความกล้าเพื่อประท้วง แต่ยิ่งพูดเสียงก็ยิ่งอ่อยลงทุกทีภายใต้สายตาที่จ้องมองของอีกฝ่าย
“ตอนนี้เพิ่งจะคิดตัดความสัมพันธ์กับข้า ไม่สายเกินไปหรือ” เยียนชิงหลางรู้สึกอัดอั้นในอกอย่างบอกไม่ถูก น้ำเสียงเลยพลอยกระด้างไปด้วย
“ไม่ใช่ตัดความสัมพันธ์เสียหน่อย เดิมทีพวกเราก็…” ไม่รู้เพราะเหตุใด นางถึงพูดต่อไม่ออกว่า ‘ไม่ได้เป็นอะไรกันอยู่แล้ว’
แต่เขากลับรู้ว่าประโยคที่ยังเอ่ยไม่จบคืออะไร หัวใจจึงเจ็บหนึบทันที “เสี่ยวหมี่”
“หือ?”
“เจ้าเกลียดชังข้าถึงเพียงนี้เชียวหรือ”
คำถามของเขาทำให้นางเบิกตากว้าง โต้ตอบไม่ออก แล้วหดตัวหนีสายตาร้อนแรงคู่นั้นโดยไม่รู้ตัว “ขะ…ข้าเปล่าเสียหน่อย”
“เช่นนั้นเจ้า…” เขาสูดหายใจลึกๆ น้ำเสียงแหบพร่ายิ่งกว่าเมื่อครู่ “เจ้า…ชอบข้าหรือไม่”
สมองของอวี้หมี่ระเบิดบึ้ม นางอ้าปากค้างมองอีกฝ่ายอย่างตกตะลึง