บทที่ 17.1 ตกปลาตามลำพังท่ามกลางสายลมและหิมะ
‘เส้นแบ่ง’ คำนี้ราวกับจี้เข้าไปตรงใจกลางกะโหลกศีรษะของหยางหลุน
เขารีบกล่าวกับหยางหวั่น “คำพูดนี้พูดกับข้าแล้วก็กลืนกลับลงไปในท้องเสีย”
หยางหวั่นพยักหน้า กล่าวต่อ “ท่านก็ไม่อาจทำอะไรรุนแรงเกินไป ต้องดูจุดยืนของไทเฮาให้แน่ใจ หาโอกาสที่ดี ขณะเดียวกันก็ต้องรู้ถึงขีดจำกัดของท่านในฐานะขุนนาง”
หยางหลุนได้ยินคำพูดของนางแล้วก็กดมือ พยักหน้าและหันกายเดินไปทางประตูตำหนักหยั่งซิน หยางหวั่นไล่ตามไปหลายก้าวแล้วเอ่ยขึ้นอีก
“ท่านพี่ ท่านรอก่อน” นางพูดพลางเอาถุงเงินใบหนึ่งยัดใส่มือหยางหลุน “เงินนี่ท่านรับไว้ เอาไปซื้อของให้เติ้งอิง”
หยางหลุนยกขึ้นมาดูแล้วบอกว่า “ซื้ออะไร เขาในตอนนี้นอกจากอาหารในคุกแล้วอย่างอื่นล้วนไม่กิน”
หยางหวั่นเอ่ยว่า “เช่นนั้นท่านก็ซื้อผิงกั่ว กับส้มให้เขากิน เสริมวิตามิน ผมของเขาจะได้ไม่ร่วง”
หยางหลุนหรี่ตา “เจ้าบอกเสริมอะไรนะ…”
“หา? อ้อ” หยางหวั่นไอออกมาทีหนึ่ง เปลี่ยนคำพูดใหม่ด้วยความขัดเขินเล็กน้อย “ข้าบอกว่าเสริมร่างกายให้แข็งแรง”
หยางหลุนมองสีหน้าท่าทางของหยางหวั่น จากนั้นก็เอาถุงเงินยัดไว้ในอกเสื้ออย่างกึ่งเชื่อกึ่งสงสัย เดินจากไปหลายก้าว แต่จู่ๆ สาวเท้าเร็วๆ กลับมาตรงหน้าหยางหวั่น ชี้มาที่นางพลางเอ่ย
“หยางหวั่น รอเจ้าออกจากวังแล้ว เจ้ากลับจวนไปสักครา”
หยางหวั่นถูกเขากดดันจนถอยหลังไปก้าวหนึ่ง
“ท่านจะทำอะไร”
“ทำอะไรหรือ” หยางหลุนเชิดหน้าบอกว่า “ข้าจะไต่สวนเจ้า!”
หยางหวั่นกอดอกหัวเราะออกมา “ได้ ท่านจัดศาลให้เรียบร้อย ถึงเวลาข้าจะไปให้ท่านไต่สวนแน่นอน”
เดือนสิบเอ็ดผ่านไป อาณาจักรต้าหมิงได้ต้อนรับช่วงสิ้นปีที่หนาวที่สุดในประวัติศาสตร์
วันที่สิบเดือนสิบสอง ราชสำนักฝ่ายในจะเคลื่อนพระศพฮ่องเต้เจินหนิงไปยังสุสาน ทั้งนอกและในเมืองหลวงประกาศใช้กฎอัยการศึกปิดกั้นถนน ตามเส้นทางจะตั้งกระโจมน้อยใหญ่เอาไว้เพื่อให้ฮ่องเต้พระองค์ใหม่และเหล่าขุนนางที่ไปส่งพระศพได้พักผ่อน
คดีในคุกของกรมอาญานอกจากคดีสำนักกิจการฝ่ายใน คดีอื่นที่เหลือทั้งหมดจะระงับไว้ก่อน เนื่องจากมีพระราชพิธีศพ นักโทษในคุกไม่อาจแบ่งแยกระหว่างโทษ ‘จำคุก’ กับ ‘เนรเทศ’ ได้ ชั่วขณะนั้นผู้คนแออัดยัดเยียด การจัดหาสิ่งของให้นักโทษก็ไม่ทั่วถึง คนในครอบครัวของนักโทษที่อยู่ข้างนอกจำต้องคิดหาหนทางส่งสิ่งของต่างๆ เข้ามาข้างใน ทว่าสิ่งของที่ส่งมาพอมาถึงประตูที่ทำการก็จะถูกยึดไปครึ่งหนึ่ง มาถึงในคุกก็ถูกผู้คุมขูดรีดไปอีกครึ่งหนึ่ง ที่ส่งถึงมือนักโทษจริงมีน้อยยิ่งกว่าน้อย
หยางหลุนให้คนรับใช้ในจวนไปซื้อผิงกั่วกับส้มจากตลาดมาจำนวนหนึ่ง ใช้ผ้าห่อไว้แล้วหิ้วไปด้วยตนเอง เขายืนอยู่ในห้องโถงของกรมอาญารอฉีไหวหยาง ฉีไหวหยางไม่ได้กลับจวนมาเกือบสิบวันแล้ว เพิ่งพักผ่อนยามกลางวันในที่ทำการ หลังจากถูกเสมียนศาลเรียกขึ้นมา เขายังไม่ได้สวมชุดไว้ทุกข์ก็เดินออกมาแล้ว ฉีไหวหยางสอดมือเข้าไปในแขนเสื้อเพื่อสวมชุดไว้ทุกข์แล้วเอ่ยถาม