เขาพูดถึงชีวิตในราชสำนักฝ่ายในไปตามเรื่อง แต่หยางหลุนกลับรู้สึกร้อนหูเล็กน้อย
“หยางหวั่นก็ท่องกฎระเบียบข้อบังคับมากมายเพียงนั้นได้หรือ”
เติ้งอิงกอดเข่านั่งตัวตรง “นางท่องได้ แต่นางมีความเคยชินอย่างหนึ่ง”
หยางหลุนใช้มือผลักโซ่ตรวนที่ข้างขาเติ้งอิงออก “ความเคยชินอะไร”
“นางชอบขยับพู่กัน ไม่ว่าจะท่องหรือจดบันทึก นางล้วนต้องขยับพู่กัน” เขาพูดพลางเงยหน้าขึ้นมองหยางหลุน “นางดูเหมือนจะเขียนสมุดบันทึกเล่มหนึ่งอยู่ตลอดเวลา”
“สมุดบันทึกเช่นไร ข้างในนั้นเขียนอะไรบ้าง”
เติ้งอิงตอบ “เป็นสมุดเย็บด้ายเล่มหนึ่ง ตัวอักษรข้างในข้าไม่เคยเห็นอย่างชัดเจน แต่ดูเหมือนจะเป็นตัวอักษรของดินแดนอี๋…”
“จะเป็นไปได้อย่างไร” หยางหลุนมองมา “ท่านแม่กับพี่สะใภ้ของนางเลี้ยงดูนางอยู่ข้างกายมาตั้งแต่เด็ก นางจะไปรู้จักตัวอักษรอี๋ได้อย่างไร…”
เติ้งอิงไม่ได้ตอบ
หยางหลุนขมวดคิ้ว สองมือวางอยู่บนหัวเข่า ผ่านไปครู่หนึ่งจึงเอ่ยปากขึ้น “ฝูหลิง วันนี้ตอนอยู่ที่หน้าประตูตำหนักหยั่งซินนางได้ชี้จุดหนึ่งให้ข้าดู”
“อะไรหรือ”
“เกี่ยวกับคดีที่เจ้าปลอมแปลงพระราชโองการก่อนสวรรคต” หยางหลุนนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง นิ้วกดที่มือแน่น “นางถามข้าว่าคดีอาญาและความลับของราชสำนักที่ไม่เปิดเผยให้ใครรู้มีเส้นแบ่งที่ชัดเจนหรือไม่”
เติ้งอิงตกตะลึง “ท่านมีความมั่นใจหรือไม่”
“เจ้าอย่าเพิ่งพูดว่าข้ามีความมั่นใจในเรื่องนี้หรือไม่!” หยางหลุนรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก “นางเป็นน้องสาวของข้า ตั้งแต่เล็กนางก็ติดตามอยู่ข้างหลังข้า เมื่อก่อนนางมีนิสัยเช่นไร รู้อะไรไม่รู้อะไรข้าย่อมรู้อย่างชัดเจน แต่…” หัวไหล่เขาพลันลู่ลง “แม้แต่เจ้ากับข้าก็ยังไม่ฉุกคิดในเรื่องนี้ เจ้าไม่รู้สึกว่าครั้งนี้นางมองเห็นทะลุปรุโปร่งเกินไปหรือ นาง…”
“จื่อซี ไม่เพียงแค่ครั้งนี้” เติ้งอิงตัดบทหยางหลุน พอพูดจบก็ขยับตัวพิงผนัง “ก่อนการสอบเคอจวี่ฤดูใบไม้ร่วง ข้ากับท่านอาจารย์ต่างเข้าใจว่าเรื่องปัญญาชนของสำนักศึกษาเป็นเรื่องที่แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว แต่สุดท้ายกลับรอดพ้นมาได้เพราะร้านชิงปอก่วน”
หยางหลุนยืนขึ้นทันใด “ในเมื่อเจ้ารู้แต่แรกแล้ว เพราะเหตุใดถึงไม่ถามนางต่อหน้าให้กระจ่าง”
“ข้ามีสิทธิ์ที่จะถามหวั่นหวั่นหรือ”
“เจ้า…”
หยางหลุนร้อนใจจนเท้าไปกระทบถูกข้อเท้าของเติ้งอิง เติ้งอิงหลับตาข่มกลั้นความเจ็บปวด ยันพื้นลุกขึ้น มองหยางหลุนแล้วเอ่ยอีก
“ข้าไม่อยากถามหวั่นหวั่น”
หยางหลุนถาม “เพราะเหตุใด”
เติ้งอิงหลุบตาลง “แต่ไหนแต่ไรล้วนเป็นนางที่มองข้า ถามข้า ข้าเป็นบ่าวรับใช้ของนางมาโดยตลอด จะเป็นผู้ไต่สวนนางได้อย่างไร”
หยางหลุนฟังคำพูดประโยคนี้ของเติ้งอิงจบก็รู้สึกใจสั่นและเจ็บปวดขึ้นมาคราหนึ่ง