บทที่ 17.2 ตกปลาตามลำพังท่ามกลางสายลมและหิมะ
ที่ประตูหลักกำลังผลัดเปลี่ยนเวร
ขอบฟ้าเปลี่ยนเป็นสีขาว ดวงอาทิตย์ยามเช้าค่อยๆ โผล่ขึ้นมา แสงแดดอันอบอุ่นสาดส่องลงบนหิมะ พื้นดินเต็มไปด้วยความสว่างพร่างพราย
ประตูห้องไม้กระดานเปิดอยู่ แสงสว่างจากหิมะพุ่งเข้ามา เติ้งอิงจำต้องยกมือขึ้นบัง เงาร่างคนผู้หนึ่งขวางอยู่หน้าประตูอย่างเหมาะเจาะ ยามนี้คนผู้นี้ยืนหันหลังให้แสง ทำให้มองเห็นใบหน้าไม่ชัด
“ไม่ต้องควบคุมตัวเขา ให้เขาเดินเอง”
เสียงของคนผู้นั้นไม่ดัง แต่องครักษ์กองกำลังลาดตระเวนกับทหารของกองกำลังหมิงจย่าต่างปฏิบัติตามคำพูดของเขา ถอยหลังไปก้าวหนึ่ง
คนผู้นั้นเดินเข้ามาในห้อง แสงสว่างเลือนหายไปจากร่างของเขา เติ้งอิงเห็นใบหน้าของเขาชัดแล้ว จึงเอามือยันหัวเข่ายืนขึ้น ประสานมือค้อมกายคารวะ
“ใต้เท้าจาง”
จางลั่วเดินมายังเบื้องหน้าเขา ยกมือขึ้นปลดดาบที่เอวออกมาวางลงบนโต๊ะแล้วประสานมือคารวะตอบ จากนั้นเหยียดกายขึ้นผูกดาบ เอ่ยเสียงเยียบเย็นตามปกติ
“ไป”
เติ้งอิงเดินออกจากห้องไม้กระดานอย่างเชื่อฟัง ดวงอาทิตย์ยามเช้าโผล่พ้นขอบฟ้าแล้ว จางลั่วสั่งเขาให้ยืนรอก่อน
ครู่หนึ่งห้องไม้กระดานที่อยู่ด้านข้างก็เปิดประตู คนของสำนักกิจการฝ่ายในกลุ่มหนึ่งก็ถูกพาตัวออกมา
พวกเขาต่างถูกทัณฑ์ทรมานมาแล้ว บางคนเดินไม่ไหวด้วยซ้ำ ถูกทหารที่เปี่ยมพละกำลังขององครักษ์เสื้อแพรฉุดดึง เดินโซซัดโซเซไปทางสะพานจินสุ่ย เหออี๋เสียนสูงวัยไร้เรี่ยวแรง แทบจะถูกลากเดินไปตลอดทาง โซ่ตรวนที่เท้าลากผ่านพื้นหิมะทำให้เกิดเสียงแหลมสูง
แม้เติ้งอิงจะสวมชุดนักโทษเช่นกัน แต่เสื้อผ้าครบถ้วน สะอาดสะอ้านเรียบร้อย
จางลั่วและคนอื่นๆ เดินห่างออกไปสามฉื่อ โอนอ่อนผ่อนตามจังหวะการก้าวเดินของเขา ไม่ได้ด่าว่าหรือเร่งรัด
เติ้งอิงไม่ได้มองเหออี๋เสียน เขาเงยหน้ารับแสงอาทิตย์ที่เจิดจ้า มองไปบนตำหนักไท่เหอ
หัวมังกรหินแกะสลักใต้ราวกั้นหยกขาวถูกเช็ดถูจนสะอาดสะอ้าน มังกรนับพันเงยหน้า มองผู้สร้างที่สวมชุดนักโทษอยู่บนร่างผู้นี้
เติ้งอิงอดยิ้มจางๆ ไม่ได้
ในช่วงที่ชีวิตตกต่ำไม่มีใครลบหลู่เหยียดหยามเขา ไม่ว่าจะเป็นฉีไหวหยางหรือจางลั่ว คนที่ควบคุมดูแลกฎหมายอาญาของอาณาจักรต้าหมิงเหล่านี้ต่างดูแลเกียรติและศักดิ์ศรีของเขาในขอบเขตที่ตนเองทำได้
ฤดูหนาวที่หนาวเย็นเงียบสงัดไร้ขอบเขต ทว่าวาสนาเล็กๆ น้อยๆ นับไม่ถ้วนกลับพุ่งมาที่เขาจากทั่วทั้งสี่ทิศแปดทาง
ความไม่อาจตัดใจของอาจารย์ มิตรภาพของสหายสนิท ความเคารพนับถือของคู่ต่อสู้ล้วนทำให้เขามีความสบายใจจากใจจริง
แน่นอนยังมีหยางหวั่นของเขา…
นางสวมชุดไว้ทุกข์สีเรียบ ยืนอยู่ด้านล่างของหน้ามุข ปล่อยมือที่ประสานกันอยู่ตรงหน้าท้องแล้วโบกน้อยๆ ให้เขา รอเขาเดินมาใกล้แล้วจึงยืนอย่างเรียบร้อยอีกครั้งพลางอมยิ้มกวาดตามองเขาขึ้นๆ ลงๆ
“ผิงกั่วกับส้มกินแล้วหรือยัง”
“กินแล้ว”
“เติ้งอิง” เสียงของจางลั่วขัดจังหวะคำพูดของเติ้งอิง
เติ้งอิงก้มหน้าหยุดพูด