ทดลองอ่าน ลำนำฝูหรงเคียงกระเรียน บทนำ-บทที่ 1.2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ลำนำฝูหรงเคียงกระเรียน

ทดลองอ่าน ลำนำฝูหรงเคียงกระเรียน บทนำ-บทที่ 1.2

หน้าที่แล้ว1 of 10

บทนำ

บนโลกนี้มีการเดินทางข้ามกาลเวลาที่สมบูรณ์แบบอยู่หรือไม่

น่าจะมีอยู่

หยางหวั่นก็คือคนโชคดีที่ได้เดินทางข้ามกาลเวลาครั้งนี้

หลายคนต่างบอกว่าร่ำเรียนวิชาการสิบปีทุ่มเทด้วยหยาดเหงื่อและน้ำตาสิบปี หยางหวั่นเลือกเส้นทางที่ยากลำบากเกินว่าคนธรรมดาทั่วไป ทั้งมุ่งมั่นตั้งใจที่จะเดินไปจนสุดทาง ต่อสู้รบรากับกองกระดาษเก่าที่บันทึกเรื่องราวของขันทีคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิงที่ชื่อ ‘เติ้งอิง’ อยู่ฝ่ายเดียวเป็นเวลาสิบปี

เติ้งอิงเป็นบุคคลที่แปลกประหลาดมหัศจรรย์มากคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิง ว่ากันว่าเขามีรูปร่างหน้าตาหล่อเหลา แต่มีจุดบกพร่องอยู่อย่างหนึ่งคือเขาเคยได้รับบาดเจ็บจากการถูกลงโทษ ส่งผลให้เขามีอาการบาดเจ็บเรื้อรังที่ขา เวลาอาการกำเริบจะเดินเหินไม่ค่อยสะดวก

ทว่านอกจากด้านรูปร่างหน้าตาที่ได้รับคำชมแล้ว ในด้านอื่นโดยพื้นฐานแล้วคนผู้นี้จะถูกบรรยายอย่างด้อยค่ายิ่งกว่าสุนัข

ในตอนนั้นคนสมัยราชวงศ์ชิงปรับปรุงเรียบเรียง ‘ประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิง’ ก็แทบจะเอาคำพูดชั่วร้ายที่คว้านเนื้อแทะกระดูกทุกคำที่มีอยู่ในโลกมาตัดสินเขา

อย่างไรก็ตามภายหลังในหนังสือรวมผลงานด้านวรรณกรรมที่หยางหลุนซึ่งเป็นผู้ช่วยราชเลขาธิการสภาขุนนางในรัชสมัยเจินหนิงแห่งราชวงศ์หมิงประพันธ์ขึ้นกลับยกย่องเติ้งอิงว่าเป็น ‘สหายสนิท’ ของตน

เป็นความจริงที่ว่าข้อมูลทางประวัติศาสตร์มีมากมายมหาศาล แต่ผู้คนในอดีตที่จากไปแล้วถึงอย่างไรก็เป็นดั่งภาพมายา

ชีวิตนักวิชาการของหยางหวั่นเรียกได้ว่าต้องทุ่มเทสมองและชีวิตจิตใจ ในที่สุดเธอก็สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกในปีที่อายุครบยี่สิบแปด ทั้งยังเขียนงานวิจัยเชิงวิชาการของตนเรื่อง ‘ชีวประวัติเติ้งอิง’ เสร็จสิ้นพอดี

ทว่าในขั้นตอนการทำงานวิจัยมีความยากลำบากเป็นอย่างมาก

เติ้งอิงถูกจัดให้อยู่พวกเดียวกับหวังเจิ้น และเว่ยจงเสียนมาโดยตลอด เป็นขันทีกังฉินของราชวงศ์หมิง

คำจำกัดความที่วงการการศึกษามีต่อคนผู้นี้ได้กำหนดขึ้นตั้งแต่ช่วงการศึกษาประวัติศาสตร์ในสมัยสาธารณรัฐแล้ว นักวิชาการรุ่นหลังส่วนใหญ่คล้อยตามมุมมองนี้ และต่างก็ขยายมุมมองของตนออกไปไม่หยุด

แต่หยางหวั่นกลับไม่เห็นด้วย

เธอใช้คำวิจารณ์ที่หยางหลุนมีต่อเติ้งอิงเป็นจุดสำคัญ และพยายามค้นหาร่องรอยชีวิตที่แท้จริงของคนผู้นี้จากข้อมูลทางประวัติศาสตร์และข้อคิดเห็นต่างๆ อย่างรอบคอบและจริงจัง

ความรู้ทางด้านสถาปัตยกรรมอย่างลึกซึ้งของเขา ชีวิตในวังของเขา ความเชื่อมั่นศรัทธาในชีวิตของเขา…ทุกแง่ทุกมุม เพื่อเพิ่มเติมข้อมูลให้กับคนรุ่นก่อน แต่ที่มากยิ่งกว่าคือการล้มล้างทฤษฎีที่ไม่ถูกต้อง

ทำงานวิจัยทางวิชาการมาสิบกว่าปี เธอตัวคนเดียวทำให้รู้สึกโดดเดี่ยวอย่างมาก

ตอนเขียน ‘ชีวประวัติเติ้งอิง’ หยางหวั่นแทบจะอาศัยกำลังของตนเองคนเดียวต่อสู้กับทัศนะที่ต่อต้านของวงการการศึกษาทั้งหมด

ต้นฉบับงานวิจัยถูกตีกลับมาครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งก่อนและหลังการส่งต้นฉบับงานวิจัยเข้ารับการพิจารณาก็ต้องฝ่าฟันอุปสรรคไม่น้อย

โชคดีที่ในที่สุดเธอก็สำเร็จการศึกษาด้วยความเข้มแข็งของตนเอง

หน้าที่แล้ว1 of 10

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ลำนำฝูหรงเคียงกระเรียน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 1-2

บทที่ 1 อู๋เซี่ยวเซี่ยวไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตนเองที่เป็นผู้จัดการดารามือทองมากประสบการณ์จะถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 5-6

บทที่ 5 ตามที่บทละครเขียนไว้แขวนโคมแดงคือการเปิดประตูเรือนทำงานเป็นนางคณิกา แม้หูซื่อจะทำเช่นนี้จริงๆ ยามจวนตัว แต่คำพูด...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 3-4

บทที่ 3 อู๋เซี่ยวเซี่ยวเปิดกระจกรถเล็กน้อยด้วยสีหน้าเรียบเฉย ให้กลิ่นค่อยๆ ระบายออกไป จากนั้นสตาร์ตรถ เหยียบคันเร่งขับรถ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 7-8

บทที่ 7 หูซื่อหลังส่งจางมามาไปแล้วก็มีท่าทางเซื่องซึม แต่ตอนที่หันกลับมาเห็นบุตรสาวก็ฝืนทำเป็นยิ้มร่าเริง กระตุ้นให้ตนเอ...

community.jamsai.com