บทนำ
บนโลกนี้มีการเดินทางข้ามกาลเวลาที่สมบูรณ์แบบอยู่หรือไม่
น่าจะมีอยู่
หยางหวั่นก็คือคนโชคดีที่ได้เดินทางข้ามกาลเวลาครั้งนี้
หลายคนต่างบอกว่าร่ำเรียนวิชาการสิบปีทุ่มเทด้วยหยาดเหงื่อและน้ำตาสิบปี หยางหวั่นเลือกเส้นทางที่ยากลำบากเกินว่าคนธรรมดาทั่วไป ทั้งมุ่งมั่นตั้งใจที่จะเดินไปจนสุดทาง ต่อสู้รบรากับกองกระดาษเก่าที่บันทึกเรื่องราวของขันทีคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิงที่ชื่อ ‘เติ้งอิง’ อยู่ฝ่ายเดียวเป็นเวลาสิบปี
เติ้งอิงเป็นบุคคลที่แปลกประหลาดมหัศจรรย์มากคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิง ว่ากันว่าเขามีรูปร่างหน้าตาหล่อเหลา แต่มีจุดบกพร่องอยู่อย่างหนึ่งคือเขาเคยได้รับบาดเจ็บจากการถูกลงโทษ ส่งผลให้เขามีอาการบาดเจ็บเรื้อรังที่ขา เวลาอาการกำเริบจะเดินเหินไม่ค่อยสะดวก
ทว่านอกจากด้านรูปร่างหน้าตาที่ได้รับคำชมแล้ว ในด้านอื่นโดยพื้นฐานแล้วคนผู้นี้จะถูกบรรยายอย่างด้อยค่ายิ่งกว่าสุนัข
ในตอนนั้นคนสมัยราชวงศ์ชิงปรับปรุงเรียบเรียง ‘ประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิง’ ก็แทบจะเอาคำพูดชั่วร้ายที่คว้านเนื้อแทะกระดูกทุกคำที่มีอยู่ในโลกมาตัดสินเขา
อย่างไรก็ตามภายหลังในหนังสือรวมผลงานด้านวรรณกรรมที่หยางหลุนซึ่งเป็นผู้ช่วยราชเลขาธิการสภาขุนนางในรัชสมัยเจินหนิงแห่งราชวงศ์หมิงประพันธ์ขึ้นกลับยกย่องเติ้งอิงว่าเป็น ‘สหายสนิท’ ของตน
เป็นความจริงที่ว่าข้อมูลทางประวัติศาสตร์มีมากมายมหาศาล แต่ผู้คนในอดีตที่จากไปแล้วถึงอย่างไรก็เป็นดั่งภาพมายา
ชีวิตนักวิชาการของหยางหวั่นเรียกได้ว่าต้องทุ่มเทสมองและชีวิตจิตใจ ในที่สุดเธอก็สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกในปีที่อายุครบยี่สิบแปด ทั้งยังเขียนงานวิจัยเชิงวิชาการของตนเรื่อง ‘ชีวประวัติเติ้งอิง’ เสร็จสิ้นพอดี
ทว่าในขั้นตอนการทำงานวิจัยมีความยากลำบากเป็นอย่างมาก
เติ้งอิงถูกจัดให้อยู่พวกเดียวกับหวังเจิ้น และเว่ยจงเสียนมาโดยตลอด เป็นขันทีกังฉินของราชวงศ์หมิง
คำจำกัดความที่วงการการศึกษามีต่อคนผู้นี้ได้กำหนดขึ้นตั้งแต่ช่วงการศึกษาประวัติศาสตร์ในสมัยสาธารณรัฐแล้ว นักวิชาการรุ่นหลังส่วนใหญ่คล้อยตามมุมมองนี้ และต่างก็ขยายมุมมองของตนออกไปไม่หยุด
แต่หยางหวั่นกลับไม่เห็นด้วย
เธอใช้คำวิจารณ์ที่หยางหลุนมีต่อเติ้งอิงเป็นจุดสำคัญ และพยายามค้นหาร่องรอยชีวิตที่แท้จริงของคนผู้นี้จากข้อมูลทางประวัติศาสตร์และข้อคิดเห็นต่างๆ อย่างรอบคอบและจริงจัง
ความรู้ทางด้านสถาปัตยกรรมอย่างลึกซึ้งของเขา ชีวิตในวังของเขา ความเชื่อมั่นศรัทธาในชีวิตของเขา…ทุกแง่ทุกมุม เพื่อเพิ่มเติมข้อมูลให้กับคนรุ่นก่อน แต่ที่มากยิ่งกว่าคือการล้มล้างทฤษฎีที่ไม่ถูกต้อง
ทำงานวิจัยทางวิชาการมาสิบกว่าปี เธอตัวคนเดียวทำให้รู้สึกโดดเดี่ยวอย่างมาก
ตอนเขียน ‘ชีวประวัติเติ้งอิง’ หยางหวั่นแทบจะอาศัยกำลังของตนเองคนเดียวต่อสู้กับทัศนะที่ต่อต้านของวงการการศึกษาทั้งหมด
ต้นฉบับงานวิจัยถูกตีกลับมาครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งก่อนและหลังการส่งต้นฉบับงานวิจัยเข้ารับการพิจารณาก็ต้องฝ่าฟันอุปสรรคไม่น้อย
โชคดีที่ในที่สุดเธอก็สำเร็จการศึกษาด้วยความเข้มแข็งของตนเอง