หยางหลุนโมโหนางที่ตอนนี้ยังกล้าเหม่อลอย จึงตวาดขึ้นมาด้วยความโกรธเคือง “คนในสำนักศึกษาถงจยาถูกจับตัวไปเพราะเขากี่คนเจ้ารู้หรือไม่! แม้แต่โจวฉงซานอาจารย์ของท่านพ่อที่อายุแปดสิบกว่าปีแล้วก็ยังถูกขังอยู่ในคุกหลวง ทั้งยังถูกทรมาน เมื่อจางลั่วกลับมาจากทางใต้ คนเหล่านี้ต่อให้ไม่ถูกนำตัวขึ้นแท่นประหาร แต่เส้นทางการเป็นขุนนางของพวกเขาก็ต้องสูญสิ้นลงทั้งหมด เจ้ารู้หรือไม่ว่าเพราะเหตุใด เพราะในหมู่พวกเขามีคนเขียนบทกวีบทหนึ่งขอความเมตตาให้เติ้งอิง! เจ้าลองมองดูตัวเจ้าเอง เอาชื่อเสียงความบริสุทธิ์ผุดผ่องในฐานะบุตรสาวสกุลหยางมามอบให้เขาโดยไม่คำนึงถึงชีวิตของคนทั้งครอบครัว ก่อนหน้านี้ข้ายังไม่เชื่อว่าเจ้าจะทำเรื่องเช่นนี้ออกมาได้ ตอนนี้ข้านึกเสียใจภายหลังยิ่งนักที่มาตามหาเจ้า ควรจะให้เจ้าตายอยู่ที่…”
หยางหลุนโกรธจัดจนพลั้งปาก กว่าจะรู้ตัวว่าคำพูดของตนฟังดูรุนแรงก็ออกจากปากไปแล้ว ในสมองมีเสียงดังอึงอล นึกเสียใจภายหลังก็ไม่รู้จะกู้คืนสถานการณ์อย่างไร
เขาพยายามจะหาคำพูดมาอธิบาย แต่กลับเห็นหยางหวั่นส่งยิ้มอย่างอับจนปัญญามาให้
“ไม่ช่วยก็ไม่ต้องช่วย” นางอดใจไม่อยู่ต่อว่าออกมา “ไยต้องแช่งน้องสาวท่านให้ตายด้วย”
หลังจากพูดจบนางยังนึกอยากจะบอกเขาด้วยซ้ำว่าน้องสาวของเขาน่าจะตายไปแล้วจริงๆ
หลี่ซั่นฉวยจังหวะที่หยางหลุนถูกโต้กลับจนไร้คำพูดรีบเข้ามาประคองแขนหยางหวั่น พยุงนางลุกขึ้นมาจากพื้นแล้วค้อมกายช่วยปัดเศษหิมะให้นางด้วยตนเอง
“ข้าต้อง…ข้าต้องไปเอาเสื้อคลุมมาให้คุณหนูสาม ดูมือของคุณหนูสามแข็งเสียจน…ถ้าหนิงเฟยทรงทราบว่าคุณหนูสามอยู่ที่นี่ได้รับความลำบากมากมายเพียงนี้ เราคงขึ้นฟ้าไม่ได้ แล้ว”
หยางหลุนเห็นหยางหวั่นกดคออยู่ตลอดเวลา ครานี้ถึงได้สังเกตเห็นว่าร่างกายของนางเต็มไปด้วยรอยถลอก
“เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้” เขาพูดพลางคว้าแขนหยางหวั่นขึ้นมาดู
หยางหวั่นย้อนนึกถึงตอนที่ตนเพิ่งฟื้นคืนสติ ดูเหมือนนางจะนอนอยู่บนกองหญ้าแห้งกองหนึ่ง เหนือศีรษะเป็นเนินเขาที่ไม่นับว่าสูงมากนัก พรรณไม้บนเนินเขามีร่องรอยของการถูกกดทับ สตรีที่ชื่อ ‘หยางหวั่น’ ผู้นี้น่าจะก้าวพลาดเสียหลักร่วงลงมาจากบนนั้น
“ตกลงมาจากเนินเขาได้รับบาดเจ็บ” นางบอกไปตามความจริง ออกแรงดึงมือกลับมา ดึงเสื้อมาปิดผิวหนังบนท่อนแขน “ขออภัย ล้มจนคอเจ็บ ถ้าล้มแรงกว่านี้อีกหน่อยก็คงตายไปแล้ว”
หยางหลุนถูกจี้ใจดำ สีหน้าก็ตกตะลึง “เจ้าพูดจาอะไรกัน!”
หยางหวั่นไม่ได้ส่งเสียงพูด
คนที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้เป็นพี่ชายของ ‘หยางหวั่น’ ไม่ใช่พี่ชายของนาง พี่ชายของนางเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีในศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด แม้ยามว่างจะพยายามแนะนำนางให้รู้จักกับบุรุษศีรษะล้าน แต่ถึงอย่างไรก็อยู่ด้วยกันรักกันทะเลาะกันมาเกือบสามสิบปีแล้ว อยู่ต่อหน้าพี่ชายนางอยากจะพูดอะไรก็ได้ทั้งนั้น
หยางหลุนเป็นเพียงตัวอักษรในข้อมูลทางประวัติศาสตร์ที่บอกเล่าถึงประวัติส่วนตัวและผลงานทางการเมืองเท่านั้น ไม่มีความสัมพันธ์ที่อบอุ่นระหว่างมนุษย์กับนางโดยสิ้นเชิง
ยามนี้หยางหวั่นยังไม่รู้ว่าควรจะเผชิญหน้ากับเขาอย่างไร แต่ถึงอย่างไรสำหรับผู้อื่นระหว่างพี่ชายน้องสาวเดิมทีย่อมมีความรักใคร่กันของพวกเขาเอง ไม่มีเหตุผลหากนางผู้ที่ข้ามกาลเวลามาอย่างแปลกประหลาดมหัศจรรย์ตัดสินใจโดยพลการตัดขาดความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา
นางก็ได้แต่ทำเหมือนเติ้งอิงในช่วงก่อนหน้านี้ นิ่งเงียบไปชั่วคราว รวบเสื้อผ้าบนร่างไว้แน่น นวดคลึงตรงตำแหน่งที่ถูกหยางหลุนดึงจนเจ็บเบาๆ ทันใดนั้นก็สำลักอากาศที่เต็มไปด้วยหิมะและไอออกมาจนร่างงอ
หยางหลุนเดิมทีก็รู้สึกว่าเมื่อครู่เพราะตนโกรธมากเกินไป จึงออกจะพูดจาเกินเลยไปแล้ว มาบัดนี้ได้ยินว่านางตกลงมาจากเนินเขา ทั้งยังได้รับบาดเจ็บที่คอ ในใจก็เริ่มนึกเสียใจ