14 วัน 14 เรื่อง
ทดลองอ่าน ลำนำรักเจ้าสมุทรชุด หัวใจเจ้าทะเล
ทันทีที่ลงถึงพื้น นางก็เห็นหนึ่งเด็กหนึ่งคนแก่ถูกลูกน้องตนเองช่วยขึ้นมาจากน้ำ ผู้อาวุโสดูเหมือนจะยังสลบไม่ได้สติ ที่อายุน้อยกว่าคนนั้นก็กำลังมือกุมหน้าอกไอออกมาอย่างรุนแรง บรรดาคนเรือพากันล้อมวงอยู่ด้านข้างสองคนนั้น เสี่ยวโจวกำลังยื่นมือออกไปจับชีพจรที่ข้อมือของผู้อาวุโส
เห็นจั้นชิงเดินใกล้เข้ามา ทุกคนก็หลีกเป็นทางสายหนึ่งให้ทันที ผงกศีรษะเอ่ยเรียกอย่างเคารพ
“คุณหนูใหญ่”
ชาวประมงอ่อนวัยผู้นั้นเห็นมีสตรีอยู่บนเรือก็มองจั้นชิงด้วยสีหน้าแปลกประหลาด
“สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง” นางคุกเข่าลงข้างเสี่ยวโจวแล้วซักถาม
เพิ่งจะกล่าวจบ เด็กหนุ่มชาวประมงที่เดิมยังไออย่างรุนแรงอยู่ก็ดีดตัวขึ้นมากะทันหัน ดึงมีดแล่ปลาเล่มเล็กออกมาจากเอว จับตัวจั้นชิงเอาไว้อย่างรวดเร็วแล้วเอามีดพาดไว้บนคอของนาง ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น ผู้อาวุโสที่เดิมสลบไสลไม่ได้สติก็ควบคุมตัวเสี่ยวโจวไว้ได้ในชั่วพริบตา
“ห้ามขยับ!” เด็กหนุ่มชาวประมงคนนั้นตะโกนเสียงดัง เสียงนี้ทั้งตะโกนให้จั้นชิงฟัง ให้บรรดาคนเรือบนเรือฟัง แล้วก็ตะโกนให้พวกเดียวกันที่อยู่ในน้ำได้ยินด้วย
เขาตะโกนครั้งนี้ ที่ด้านข้างเรือสำเภาบรรทุกสินค้าก็ปรากฏคนชุดดำนับสิบกระโดดขึ้นมาบนกราบเรือทันที แต่เท้าของพวกเขายังไม่ทันได้แตะดาดฟ้าหัวเรือก็ถูกคนถีบตกลงไปแล้วทั้งหมด!
คนที่ถีบก็คือบรรดาคนเรือที่ไม่มีท่าทีตกใจแม้แต่น้อย ถึงแม้จะเห็นจั้นชิงกับเสี่ยวโจวถูกจับเป็นตัวประกัน บนใบหน้าของทุกคนกลับไร้วี่แววกังวล เพียงแค่ดวงตาเป็นประกายจ้องมองไปที่พวกเขา
เด็กหนุ่มชาวประมงตกตะลึง มีดเล่มเล็กที่พาดคอจั้นชิงขยับแนบชิดยิ่งขึ้นโดยไม่รู้ตัว เกือบจะกดคอของนางให้ปรากฏรอยเลือดสายหนึ่ง ในแววตาของเขาปรากฏประกายอำมหิต ดึงแขนจั้นชิงแล้วตะโกนขึ้น
“ห้ามขยับ! ถ้าขยับอีกข้าจะ…”
เขาเพิ่งพูดไปได้เพียงครึ่งเดียวกลับพบว่าโลกทั้งใบพลิกคว่ำในเสี้ยวเวลานั้น เขามองเห็นท้องฟ้าสีคราม เชือกพวน และใบเรือ จากนั้นก็ได้ยินเสียงคนตกกระแทกพื้นดังขึ้น ตามมาด้วยความเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่แล่นมาจากกระดูกสันหลัง ฉับพลันนั้นเขาก็ได้ยินเสียงกระดูกหัก ครั้นรู้สึกว่ากระดูกข้อมือตนถูกหัก ถึงได้รู้ว่าที่แท้เสียงดังกระแทกพื้นนั้นมาจาก…ตัวเขาเอง!
ใบหน้าหนึ่งบดบังท้องฟ้าไว้ครึ่งผืน เป็นเพราะกระดูกข้อมือหักทำให้ใบหน้าเด็กหนุ่มเกือบจะบิดเบี้ยว แต่ดวงตาที่เปิดกว้างยังคงนึกออกว่าใบหน้านั้นเป็นของสตรีที่เมื่อครู่เขาเพิ่งจะจับเป็นตัวประกัน อีกทั้งมีดเล่มเล็กที่เขาถืออยู่ในมือก็ไม่รู้ว่าไปตกอยู่ในมือของนางตั้งแต่เมื่อไร
ท่ามกลางความเจ็บปวดรุนแรงเขาเอนศีรษะหันไปมองทางพวกพ้อง เดิมคาดหวังว่าผู้อาวุโสที่กำลังภายในสูงแกร่งจะสามารถพลิกสถานการณ์มาช่วยเขาได้ แต่กลับไม่คาดคิดแม้แต่น้อยว่าผู้อาวุโสเองก็ถูกชายฉกรรจ์ที่รูปลักษณ์ธรรมดาผู้นั้นควบคุมตัวเอาไว้แล้ว
จั้นชิงตะโกนเสียงดังด้วยใบหน้าเย็นชา
“เอาตัวพวกโจรที่อยู่ในน้ำเหล่านั้นขึ้นมาให้ข้าให้หมด!”
“ขอรับ!” ที่ตามมาหลังการตะโกนตอบรับอย่างพร้อมเพรียงกันคือเสียงกระโจนลงน้ำที่ดังขึ้น
จังหวะนั้นเด็กหนุ่มชาวประมงเห็นคนบนเรือหายไปกว่าครึ่งก็หลงคิดว่ามีโอกาสฟ้าประทานให้หลบหนี จึงทนต่อความเจ็บดีดตัวลอดไปทางกราบเรือ หารู้ไม่ว่าจั้นชิงมองความคิดเขาทะลุปรุโปร่งมานานแล้ว ฟาดขากลับหลังง่ายๆ ไปทีหนึ่ง บังคับให้เขากลับไปนอนอยู่ที่เดิม ลูกเตะนั้นสกัดจุดชาของเขาด้วยในเวลาเดียวกัน ทำให้เขาขยับไม่ได้อีกต่อไป
เพียงไม่นานก็ได้เห็นคนที่กระโดดลงน้ำพากันทยอยกลับขึ้นมา ในมือทุกคนล้วนหิ้วคนชุดดำที่เมื่อครู่คิดอยากแย่งขึ้นเรือมาคนละหนึ่งถึงสองคน ในยามนี้เด็กหนุ่มที่ถูกสกัดจุดนอนอยู่บนพื้นจึงเพิ่งรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา พวกเขาผิดไปแล้ว พวกเขากำลังอยู่ระหว่างบรรทุกสินค้ากลับรัง ในตอนที่ผ่านเมืองซานหยางพักผ่อน เห็นเรือสำเภาสามลำนี้กินน้ำลงไปลึกมาก ชัดเจนว่าจะต้องบรรทุกของมาไม่น้อย เดิมหลงคิดว่าเป็นแพะอ้วนสามตัว ใครจะไปรู้ว่าคนบนเรือไม่ใช่คนเรือธรรมดา กระทั่งสตรีผู้หนึ่งยังมีวรยุทธ์ชั้นเลิศ!
พลาดแล้วจริงๆ! หากรู้มาก่อนจะไม่ละโมบมาปล้นทรัพย์สินส่วนเกินพวกนี้ ถ้าหากพวกเขาไม่โลภ ป่านนี้ก็คงกลับไปถึงรังแล้ว ยามนี้ได้แต่หวังว่าบรรดาของที่ได้มาอย่างยากลำบากเหล่านั้นจะไม่ถูกคนพวกนี้พบเจอ
เด็กหนุ่มเพิ่งจะคิดเช่นนั้นก็มีคนทำลายความหวังของเขาขึ้นมาทันที
“คุณหนูใหญ่ คนพวกนี้มีเรือสำเภาจอดเอาไว้ที่ริมฝั่งขอรับ” เหล่าอู๋ที่ขึ้นมาเป็นคนสุดท้ายได้ตามหนึ่งในบรรดาโจรสลัดกลับไปถึงเรือโจรจึงจะจับตัวมาได้ เขาปีนขึ้นมาบนเรือ มือหนึ่งหิ้วตัวโจรสลัด อีกมือชี้ไปที่เรือเล็กตรงริมฝั่งทางด้านขวา เอ่ยรายงานด้วยเสียงหอบ “บนนั้นมีคนถูกขังเอาไว้ใต้ท้องเรือ เป็นเด็กสาวคนหนึ่ง”
เด็กสาว? จั้นชิงขมวดคิ้ว รู้ว่าตัวเองเป็นคนไปจะสะดวกกว่า จึงโบกมือเอ่ย
“ปล่อยแพไม้ลงน้ำ เสี่ยวโจว เจ้าไปกับข้า!”
ทันทีที่แพไม้ลงน้ำ จั้นชิงก็กระโดดขึ้นไปทันควัน เสี่ยวโจวตามติดไป เขาเพิ่งจะยกไม้พายขึ้น อีกหนึ่งคนก็กระโดดลงมาบนแพเบาๆ ราวกับขนนกที่ไร้น้ำหนัก
เสี่ยวโจวมองเซียวจิ้งอย่างประหลาดใจ เขาเพียงยิ้มบางๆ ไม่ได้ส่งเสียง ดังนั้นจั้นชิงที่ยืนอยู่ด้านหน้าจึงไม่รู้สึกตัวแม้แต่น้อย เสี่ยวโจวเห็นดังนั้นก็ไม่พูดอะไรมาก ทันทีที่ขยับไม้พาย แพไม้ก็แล่นฉิวดุจใบไม้ไปบนผิวน้ำยังทิศริมฝั่ง
ยังไม่ทันไปถึงริมขอบ จั้นชิงก็กระโดดขึ้นเรือโจรสลัดไปอย่างอดรนทนไม่ไหว เพียงระยะเวลาสั้นๆ ก็ไปถึงห้องชั้นใต้ดินที่อับชื้นและพบกับเด็กสาวที่ถูกขังเอาไว้ที่นั่น
ยามเห็นเด็กสาวคนนั้น ถึงแม้จั้นชิงจะพบเจออะไรมามากก็ยังคงนิ่งอึ้งไป เป็นเพราะท่ามกลางความมืดดวงตาของเด็กสาวคู่นั้นที่สะท้อนแสงของคบเพลิงในมือนางราวกับดวงตาของสัตว์ป่า