หลายปีมานี้ที่เดินทางท่องเที่ยวในเจียงหนาน เขาอาจได้เห็นมาหลายสิ่ง แต่ก็คล้ายกับว่าหลงลืมความตื้นตันใจในตอนแรกไปหลายอย่างแล้วเช่นกัน…เมื่อมองไปที่ดวงตาแฝงรอยยิ้มของนาง เขาก็ส่ายศีรษะอย่างเย้ยหยันตนเอง ยิ้มน้อยๆ แล้วตอบกลับ
“แน่นอนว่าย่อมได้”
เขาเพิ่งกล่าวจบก็ได้ยินเสียงของหนักหล่นดังออกมาจากห้องทางด้านหลัง
ทั้งสองคนหมุนตัวไปพร้อมกัน จั้นชิงยื่นมือออกมาขวางไม่ให้เขาผลักประตู
“นางกำลังอาบน้ำอยู่”
ความหมายก็คือเด็กคนนั้นอาจจะยังแต่งกายไม่เรียบร้อย กระทั่งยังไม่สวมเสื้อผ้า เซียวจิ้งหดมือกลับ รู้ว่าตนเองไม่สะดวกจะเข้าไป
เห็นเขาหยุดชะงักทั้งหมุนตัวกลับ จั้นชิงถึงได้รีบผลักประตูเข้าไป ก่อนจะได้เห็นเด็กหญิงล้มนั่งอยู่บนพื้น อาภรณ์สีเขียวถูกนางสวมไปเพียงครึ่งหนึ่ง เห็นได้ชัดว่ายืนไม่มั่นคงจึงล้มลง
“เจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่” จั้นชิงเข้าไปช่วยพยุงนางขึ้นแล้วคุกเข่าลงสำรวจว่านางไม่ได้รับบาดเจ็บ ก่อนช่วยนางแต่งตัวไปด้วยพร้อมกัน
นางยังคงไม่พูดอะไร แต่คล้ายกับจะตระหนักแล้วว่าตัวเองมีแรงไม่พอจริงๆ จึงไม่ได้ปฏิเสธความช่วยเหลือของจั้นชิงอีก
หลังช่วยเด็กหญิงสวมอาภรณ์ที่ค่อนข้างหลวมไปหน่อยเรียบร้อยแล้ว จั้นชิงจึงหยิบผ้าแห้งที่ด้านข้างขึ้นมาเช็ดผมยาวที่เปียกชื้นของนางให้แห้ง
“อาภรณ์ชุดนี้ใหญ่ไปหน่อย รอพรุ่งนี้ขึ้นฝั่งแล้ว เราค่อยไปหาซื้อชุดที่พอดีกับตัวเจ้า ตอนนี้ก็สวมเท่าที่มีไปก่อนนะ”
ทันใดนั้นก็มีเสียงคนเคาะประตูดังมา ตามด้วยเสียงถามไถ่จากเซียวจิ้ง
“คุณหนูจั้น พวกเจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่”
จั้นชิงถึงเพิ่งนึกออกว่าเขายังรออยู่ที่ด้านนอก จึงตะโกนตอบกลับ
“ไม่เป็นอะไร ท่านเข้ามาได้แล้ว”
ทันทีที่เซียวจิ้งเดินเข้ามาก็ได้เห็นนางกำลังช่วยเด็กหญิงหวีผม ส่วนเด็กหญิงคนนั้นเมื่อเห็นว่ามีคนเดินเข้าประตูมาก็ตัวแข็งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หากหลังนึกออกว่าคือเซียวจิ้งที่ช่วยนางออกมาจากกรง จึงได้ผ่อนคลายลงอีกครั้ง
“เสียงเมื่อครู่นี้เกิดอะไรขึ้น” เขาถาม
“ไม่มีอะไร นางแค่ไม่ทันระวังเลยล้ม” จั้นชิงถือหวีแบ่งเรือนผมสีดำของเด็กหญิงออกเป็นหลายช่อ แล้วถักอย่างคล่องแคล่ว
เซียวจิ้งหาที่นั่งให้ตนเอง สายตามองนิ้วมือของจั้นชิงที่กำลังถักผมยาวของเด็กหญิงอย่างคล่องแคล่ว เขามองสำรวจอย่างสนใจครู่หนึ่ง แล้วจึงเอ่ยขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
“ข้ามักจะสงสัยเสมอว่าทรงผมกับเปียเหล่านั้นของสตรีทำออกมากันได้อย่างไร ดูไปแล้วก็ช่างไม่น่าเชื่อจริงๆ มือของสตรีอย่างพวกเจ้าช่างยอดเยี่ยมนัก”
จั้นชิงเหลือบมองเขาหนหนึ่งโดยไม่ได้หยุดมือ เอ่ยอย่างขบขัน
“นับเป็นครั้งแรกที่ข้าได้ยินคำพูดเช่นนี้”
“เชื่อข้า บุรุษที่สงสัยไม่ได้มีแค่ข้าเพียงคนเดียว” เขายกมุมปากเอ่ยตอบ
นางได้ยินแล้วหุบยิ้ม
“ท่านคงไม่ได้คิดอยากให้ข้าเชื่อว่าคนบนเรือของข้ามีความคิดเช่นเดียวกับท่านหรอกนะ”
เซียวจิ้งกะพริบตาปริบๆ เอ่ยอย่างหยอกเย้า
“ต่อให้ไม่ใช่ทั้งหมด ก็ต้องมีครึ่งหนึ่ง จริงด้วย เหตุใดทรงผมของเจ้าถึงไม่ได้ทำให้ซับซ้อนเช่นนั้น” เขาชี้ไปยังเรือนผมสีดำของนางที่อาศัยเพียงเชือกมัดรวบเอาไว้ลวกๆ เท่านั้น
จั้นชิงนำผมเปียที่ถักเรียบร้อยแล้วม้วนขึ้นมาบนหัวเด็กหญิง จากนั้นก็ใช้ปิ่นปักผมทำให้แน่น เสร็จแล้วถึงได้หันมองเซียวจิ้ง เอ่ยอย่างเรียบง่าย
“ข้าต้องปีนขึ้นปีนลงทั้งวัน หากทำซับซ้อนไปก็ไม่สะดวก”
ไม่สะดวก?
มองนางพูดด้วยใบหน้าเรียบเฉย ในอกเซียวจิ้งกลับปรากฏอารมณ์แปลกประหลาดผุดขึ้นมาอีกครั้ง
ทรงผมกับเครื่องประดับเหล่านั้นถึงแม้จะซับซ้อนทั้งไม่สะดวก แต่กลับสามารถทำให้สตรีเปลี่ยนไปงดงามขึ้นมิใช่หรือ