หวังเหยียนชิงอ่านปราดเดียวก็โยนจดหมายไปที่ไส้เทียนและเผาทิ้ง ฉกฉวยของผู้อื่นยังมีหน้าพูดออกมาอย่างมีเหตุมีผลเช่นนี้ จะย้ายหรือไม่ย้ายเป็นเรื่องของเขา มี ‘จวนของพวกเรา’ ที่ใดกัน
หวังเหยียนชิงไม่ไว้หน้าจดหมายที่ลู่เหิงส่งมาสักนิด ส่งมาหนึ่งฉบับก็เผาทิ้งหนึ่งฉบับ แต่กับดอกเหมยกิ่งนี้นางกลับรู้สึกปวดหัว
ดอกเหมยผลิบานอย่างงดงามจริงๆ สะพรั่งตระการตาเหมือนโลหิตสีแดงที่แผดเผาในเหมันต์อันหนาวเหน็บ โยนทิ้งบนพื้นออกจะน่าเสียดายเกินไป หวังเหยียนชิงจนปัญญา ได้แต่สั่งให้สาวใช้นำแจกันมาและปักกิ่งเหมยนั้นไว้
ลู่เหิงมารบกวนบ้างเป็นครั้งคราวเช่นนี้ ต่อให้คนไม่โผล่หน้า ตัวตนของเขาก็ไม่เคยหายไป ในเรื่องนี้หวังเหยียนชิงยังคงไร้เดียงสาเกินไป เจอเฒ่าเจ้าเล่ห์ในกลุ่มขุนนางอย่างลู่เหิงจึงถูกเขาจูงจมูกเดินโดยไม่รู้ตัว
ลู่เหิงผาดโผนอยู่ในวังหลวงและราชสำนัก กระจ่างแจ้งในหลักการของการมอบของขวัญนานแล้ว การมอบของขวัญจะมอบของกินไม่ได้เด็ดขาด ไม่เพียงเกิดเรื่องได้ง่าย กินหมดแล้วยังจบกัน ผู้รับจำไม่ได้โดยสิ้นเชิง ทั้งไม่อาจมอบแก้วแหวนเงินทอง เพราะของเหล่านี้สามารถนำออกไปใช้ได้ทุกเมื่อ มิอาจแยกแยะได้ ไม่สามารถสร้างความทรงจำอันลึกซึ้งให้แก่ผู้รับ
ดังนั้นของขวัญที่ลู่เหิงมอบให้จึงเป็นสิ่งที่มีลักษณะเฉพาะ ทั้งยังสามารถตั้งวางไว้ได้เป็นเวลานานอย่างโคมไฟและกิ่งเหมย เหมยแดงกิ่งหนึ่งปักไว้ในเรือนให้ความรู้สึกแตกต่างจากทุกสิ่ง สะดุดตาอย่างยิ่ง ขอเพียงนางมองมาก็จะต้องคิดถึงเขา
เช่นนี้มิใช่มีประโยชน์ยิ่งกว่าการมอบภูเขาเงินภูเขาทองหรือ
เวลาผ่านพ้นไปโดยไม่รู้ตัว เพียงพริบตาก็ถึงวันที่ยี่สิบเดือนหนึ่ง ถึงเวลากลับไปทำงานแล้ว ลู่เหิงทำเหมือนเดิมคือส่งคนนำของขวัญเล็กๆ น้อยๆ มาให้หวังเหยียนชิงและบ่นกับนางในจดหมาย
‘ตาเฒ่าพวกนั้นไม่สนใจสักนิดว่าที่ไหล่ข้ายังมีแผลอยู่ การประชุมขุนนางช่วงเช้าบรรยากาศตึงเครียด ไม่ง่ายเลยกว่าจะรับมือกับคนพวกนั้นเสร็จ กลับจวนแล้วยังต้องเผชิญหน้ากับความอ้างว้าง’
หากบอกว่าจดหมายหลายฉบับก่อนหน้าเขายังสวมอาภรณ์ไว้ชั้นหนึ่ง บัดนี้ก็คือเปิดเผยเจตนาอย่างโจ่งแจ้ง หวังเหยียนชิงอ่านจดหมายฉบับนี้แล้วรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของฮ่องเต้อย่างน่าประหลาด
หากลู่เหิงอาศัยปากของสาวใช้บอกใบ้เป็นนัยว่าเขาบาดเจ็บสาหัสเพียงใด รับมือกับความคลางแคลงใจทั้งในและนอกราชสำนักตามลำพังอย่างยากลำบากเพียงใด ในใจหวังเหยียนชิงจะต้องรู้สึกต่อต้านแน่นอน ทว่าหากเขาพูดออกมาด้วยตนเอง ใช้เรื่องบาดแผลมาขอความเห็นใจจากนางอย่างเปิดเผย หวังเหยียนชิงกลับมิได้ขุ่นเคือง
หญิงสาวเกิดความหวาดระแวงขึ้นมาทันใด นางลืมหลักการต้มกบในน้ำอุ่น* ไปได้อย่างไรกัน หยางถิง หยางอิ้งหนิง และจางจิ้งกง ราชเลขาธิการทั้งสามคนยังเอาชนะเขาไม่ได้ แล้วนางเอาความมั่นใจมาจากที่ใดว่าจะหนีพ้นหลุมพรางของลู่เหิงได้
นางเพิ่งก้าวออกจากกรงขังสกุลฟู่ แล้วจะเป็นฝ่ายเดินเข้าไปในกรงทองอีกใบที่ลึกยิ่งกว่า ใหญ่ยิ่งกว่า และชวนฝันมากยิ่งกว่าอย่างนั้นหรือ
หวังเหยียนชิงคิดในใจว่าจะปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปไม่ได้ นางรวบรวมของขวัญที่ลู่เหิงส่งมาให้ เรียกคนเฝ้าประตูมา ตีหน้าขรึมเอ่ยว่า “ส่งของพวกนี้กลับคืนไปให้ใต้เท้าลู่ วันหน้าหากจวนสกุลลู่ส่งของมาอีก ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดล้วนไม่ต้องเอาเข้ามา”
คนเฝ้าประตูเห็นสีหน้าของหวังเหยียนชิงก็ตระหนักถึงความร้ายแรง เขารับคำอย่างพินอบพิเทา อุ้มกล่องของขวัญขึ้นมา ไม่กล้าโต้แย้งแม้แต่คำเดียว หวังเหยียนชิงตามพ่อบ้านมาแล้วถาม “สองวันนี้ที่ทำการต่างๆ เปิดทำการแล้วกระมัง”
พ่อบ้านได้ยินดังนั้นเดาไม่ถูกว่าหวังเหยียนชิงคิดจะทำสิ่งใด จึงตอบอย่างระวังรอบคอบ “ที่ทำการในนครหลวงน่าจะเปิดแล้วขอรับ แต่ประตูเมืองยังมีการควบคุมอยู่ หากจะออกไปทำธุระนอกเมืองเกรงว่าคงยังไม่ได้”
หวังเหยียนชิงพยักหน้า “ดีเลย เจ้าไปสอบถามที่ว่าการนครซุ่นเทียนดู การทำเรื่องถอดทะเบียนทาสให้บ่าวไพร่ช่วงนี้สามารถทำได้หรือยัง”
พ่อบ้านรับคำ เขามองหวังเหยียนชิงและทำท่าจะท้วงติงอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายยังคงหุบปากอย่างรู้กาลเทศะ ออกไปทำธุระตามที่หวังเหยียนชิงมอบหมาย
ทั้งที่เพียงแค่นางเอ่ยปากกับลู่เหิงคำเดียว ทุกอย่างก็สามารถจัดการได้โดยไม่ต้องเปลืองแรง หวังเหยียนชิงกลับเลือกที่จะไปสอบถามที่ว่าการนครซุ่นเทียนและจัดการเรื่องนี้ด้วยตนเอง
ราชสำนักกำลังถกเถียงกันเรื่องการปราบปรามวอโค่ว ทว่าเรื่องใหญ่ของบ้านเมืองหาได้ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านไม่ ราษฎรในนครหลวงยังคงสนใจเรื่องใกล้ตัว ประตูเมืองจะเปิดเมื่อใดยังสำคัญกว่าเรื่องที่ราชสำนักจะเปิดศึกกับวอโค่วหรือไม่ด้วยซ้ำ
หวังเหยียนชิงไม่ใส่ใจวอโค่วเช่นกัน หลายวันนี้นางหมดเวลาไปกับที่ว่าการนครซุ่นเทียนทั้งหมด นางไม่ได้เปิดเผยฐานะของตนเอง เพียงบอกว่าตนแซ่หวัง อยากจะถอดทะเบียนทาสให้บ่าวรับใช้เก่า การถอดทะเบียนทาสให้บ่าวไพร่มิใช่ไม่เคยมีมาก่อน ระเบียบขั้นตอนจึงกำหนดไว้แต่แรกแล้ว ทว่าครั้งนี้การทำงานของที่ว่าการนครซุ่นเทียนกลับราบรื่นเหนือความคาดหมาย จัดการเรื่องถอดทะเบียนทาสให้เฝ่ยชุ่ยเสร็จอย่างฉับไว