ทดลองอ่าน ลูบคมองครักษ์สวมรอย บทที่ 104 – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ลูบคมองครักษ์สวมรอย บทที่ 104

หวังเหยียนชิงอ่านปราดเดียวก็โยนจดหมายไปที่ไส้เทียนและเผาทิ้ง ฉกฉวยของผู้อื่นยังมีหน้าพูดออกมาอย่างมีเหตุมีผลเช่นนี้ จะย้ายหรือไม่ย้ายเป็นเรื่องของเขา มี ‘จวนของพวกเรา’ ที่ใดกัน

หวังเหยียนชิงไม่ไว้หน้าจดหมายที่ลู่เหิงส่งมาสักนิด ส่งมาหนึ่งฉบับก็เผาทิ้งหนึ่งฉบับ แต่กับดอกเหมยกิ่งนี้นางกลับรู้สึกปวดหัว

ดอกเหมยผลิบานอย่างงดงามจริงๆ สะพรั่งตระการตาเหมือนโลหิตสีแดงที่แผดเผาในเหมันต์อันหนาวเหน็บ โยนทิ้งบนพื้นออกจะน่าเสียดายเกินไป หวังเหยียนชิงจนปัญญา ได้แต่สั่งให้สาวใช้นำแจกันมาและปักกิ่งเหมยนั้นไว้

ลู่เหิงมารบกวนบ้างเป็นครั้งคราวเช่นนี้ ต่อให้คนไม่โผล่หน้า ตัวตนของเขาก็ไม่เคยหายไป ในเรื่องนี้หวังเหยียนชิงยังคงไร้เดียงสาเกินไป เจอเฒ่าเจ้าเล่ห์ในกลุ่มขุนนางอย่างลู่เหิงจึงถูกเขาจูงจมูกเดินโดยไม่รู้ตัว

ลู่เหิงผาดโผนอยู่ในวังหลวงและราชสำนัก กระจ่างแจ้งในหลักการของการมอบของขวัญนานแล้ว การมอบของขวัญจะมอบของกินไม่ได้เด็ดขาด ไม่เพียงเกิดเรื่องได้ง่าย กินหมดแล้วยังจบกัน ผู้รับจำไม่ได้โดยสิ้นเชิง ทั้งไม่อาจมอบแก้วแหวนเงินทอง เพราะของเหล่านี้สามารถนำออกไปใช้ได้ทุกเมื่อ มิอาจแยกแยะได้ ไม่สามารถสร้างความทรงจำอันลึกซึ้งให้แก่ผู้รับ

ดังนั้นของขวัญที่ลู่เหิงมอบให้จึงเป็นสิ่งที่มีลักษณะเฉพาะ ทั้งยังสามารถตั้งวางไว้ได้เป็นเวลานานอย่างโคมไฟและกิ่งเหมย เหมยแดงกิ่งหนึ่งปักไว้ในเรือนให้ความรู้สึกแตกต่างจากทุกสิ่ง สะดุดตาอย่างยิ่ง ขอเพียงนางมองมาก็จะต้องคิดถึงเขา

เช่นนี้มิใช่มีประโยชน์ยิ่งกว่าการมอบภูเขาเงินภูเขาทองหรือ

เวลาผ่านพ้นไปโดยไม่รู้ตัว เพียงพริบตาก็ถึงวันที่ยี่สิบเดือนหนึ่ง ถึงเวลากลับไปทำงานแล้ว ลู่เหิงทำเหมือนเดิมคือส่งคนนำของขวัญเล็กๆ น้อยๆ มาให้หวังเหยียนชิงและบ่นกับนางในจดหมาย

 

ตาเฒ่าพวกนั้นไม่สนใจสักนิดว่าที่ไหล่ข้ายังมีแผลอยู่ การประชุมขุนนางช่วงเช้าบรรยากาศตึงเครียด ไม่ง่ายเลยกว่าจะรับมือกับคนพวกนั้นเสร็จ กลับจวนแล้วยังต้องเผชิญหน้ากับความอ้างว้าง’

 

หากบอกว่าจดหมายหลายฉบับก่อนหน้าเขายังสวมอาภรณ์ไว้ชั้นหนึ่ง บัดนี้ก็คือเปิดเผยเจตนาอย่างโจ่งแจ้ง หวังเหยียนชิงอ่านจดหมายฉบับนี้แล้วรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของฮ่องเต้อย่างน่าประหลาด

หากลู่เหิงอาศัยปากของสาวใช้บอกใบ้เป็นนัยว่าเขาบาดเจ็บสาหัสเพียงใด รับมือกับความคลางแคลงใจทั้งในและนอกราชสำนักตามลำพังอย่างยากลำบากเพียงใด ในใจหวังเหยียนชิงจะต้องรู้สึกต่อต้านแน่นอน ทว่าหากเขาพูดออกมาด้วยตนเอง ใช้เรื่องบาดแผลมาขอความเห็นใจจากนางอย่างเปิดเผย หวังเหยียนชิงกลับมิได้ขุ่นเคือง

หญิงสาวเกิดความหวาดระแวงขึ้นมาทันใด นางลืมหลักการต้มกบในน้ำอุ่น* ไปได้อย่างไรกัน หยางถิง หยางอิ้งหนิง และจางจิ้งกง ราชเลขาธิการทั้งสามคนยังเอาชนะเขาไม่ได้ แล้วนางเอาความมั่นใจมาจากที่ใดว่าจะหนีพ้นหลุมพรางของลู่เหิงได้

นางเพิ่งก้าวออกจากกรงขังสกุลฟู่ แล้วจะเป็นฝ่ายเดินเข้าไปในกรงทองอีกใบที่ลึกยิ่งกว่า ใหญ่ยิ่งกว่า และชวนฝันมากยิ่งกว่าอย่างนั้นหรือ

หวังเหยียนชิงคิดในใจว่าจะปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปไม่ได้ นางรวบรวมของขวัญที่ลู่เหิงส่งมาให้ เรียกคนเฝ้าประตูมา ตีหน้าขรึมเอ่ยว่า “ส่งของพวกนี้กลับคืนไปให้ใต้เท้าลู่ วันหน้าหากจวนสกุลลู่ส่งของมาอีก ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดล้วนไม่ต้องเอาเข้ามา”

คนเฝ้าประตูเห็นสีหน้าของหวังเหยียนชิงก็ตระหนักถึงความร้ายแรง เขารับคำอย่างพินอบพิเทา อุ้มกล่องของขวัญขึ้นมา ไม่กล้าโต้แย้งแม้แต่คำเดียว หวังเหยียนชิงตามพ่อบ้านมาแล้วถาม “สองวันนี้ที่ทำการต่างๆ เปิดทำการแล้วกระมัง”

พ่อบ้านได้ยินดังนั้นเดาไม่ถูกว่าหวังเหยียนชิงคิดจะทำสิ่งใด จึงตอบอย่างระวังรอบคอบ “ที่ทำการในนครหลวงน่าจะเปิดแล้วขอรับ แต่ประตูเมืองยังมีการควบคุมอยู่ หากจะออกไปทำธุระนอกเมืองเกรงว่าคงยังไม่ได้”

หวังเหยียนชิงพยักหน้า “ดีเลย เจ้าไปสอบถามที่ว่าการนครซุ่นเทียนดู การทำเรื่องถอดทะเบียนทาสให้บ่าวไพร่ช่วงนี้สามารถทำได้หรือยัง”

พ่อบ้านรับคำ เขามองหวังเหยียนชิงและทำท่าจะท้วงติงอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายยังคงหุบปากอย่างรู้กาลเทศะ ออกไปทำธุระตามที่หวังเหยียนชิงมอบหมาย

ทั้งที่เพียงแค่นางเอ่ยปากกับลู่เหิงคำเดียว ทุกอย่างก็สามารถจัดการได้โดยไม่ต้องเปลืองแรง หวังเหยียนชิงกลับเลือกที่จะไปสอบถามที่ว่าการนครซุ่นเทียนและจัดการเรื่องนี้ด้วยตนเอง

ราชสำนักกำลังถกเถียงกันเรื่องการปราบปรามวอโค่ว ทว่าเรื่องใหญ่ของบ้านเมืองหาได้ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านไม่ ราษฎรในนครหลวงยังคงสนใจเรื่องใกล้ตัว ประตูเมืองจะเปิดเมื่อใดยังสำคัญกว่าเรื่องที่ราชสำนักจะเปิดศึกกับวอโค่วหรือไม่ด้วยซ้ำ

หวังเหยียนชิงไม่ใส่ใจวอโค่วเช่นกัน หลายวันนี้นางหมดเวลาไปกับที่ว่าการนครซุ่นเทียนทั้งหมด นางไม่ได้เปิดเผยฐานะของตนเอง เพียงบอกว่าตนแซ่หวัง อยากจะถอดทะเบียนทาสให้บ่าวรับใช้เก่า การถอดทะเบียนทาสให้บ่าวไพร่มิใช่ไม่เคยมีมาก่อน ระเบียบขั้นตอนจึงกำหนดไว้แต่แรกแล้ว ทว่าครั้งนี้การทำงานของที่ว่าการนครซุ่นเทียนกลับราบรื่นเหนือความคาดหมาย จัดการเรื่องถอดทะเบียนทาสให้เฝ่ยชุ่ยเสร็จอย่างฉับไว

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com