ทดลองอ่าน ลูบคมองครักษ์สวมรอย บทที่ 108 – หน้า 3 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ลูบคมองครักษ์สวมรอย บทที่ 108

3 of 3หน้าถัดไป

ลู่เหิงส่ายหน้า เสียงหัวเราะเบายิ่งถูกเปล่งออกมาจากโพรงอก “มีองค์ชายสามพระองค์กลับมิอาจลงมือได้ อย่างไรก็คงไม่อาจกล่าวหาว่ามารดาบังเกิดเกล้าขององค์ชายทั้งสามเป็นกบฏกระมัง การทำเช่นนี้โจ่งแจ้งเกินไป องค์ชายทั้งสามใครจะเป็นอาชาพันหลี่ยังไม่อาจรู้ แต่องค์หญิงใหญ่กลับได้รับความโปรดปรานมากที่สุดอย่างแท้จริง ฝ่าบาทเองก็ทรงเป็นเพราะองค์หญิงใหญ่จึงได้เสด็จไปวังของเฉาตวนเฟยบ่อยครั้ง หากสามารถอุ้มองค์หญิงใหญ่ไปได้ ไยต้องกังวลว่าตนเองจะให้กำเนิดพระโอรสไม่ได้เล่า”

หวังเหยียนชิงฟังเข้าใจแล้ว แต่เนิ่นนานที่มิอาจทำใจยอมรับ ฟางฮองเฮาฐานะสูงศักดิ์เป็นถึงฮองเฮาแต่กลับไร้บุตร นางเป็นคนที่เข้าวังมาเป็นกลุ่มแรก หลายปีมานี้ได้เห็นคนข้างกายตั้งครรภ์คนแล้วคนเล่า มีเพียงนางคนเดียวที่ไม่มีความเคลื่อนไหว จิตใจจะไม่บิดเบี้ยวได้อย่างไร ฮองเฮาทั้งสองพระองค์ก่อนหน้านี้ล้วนถูกปลดเพราะไร้บุตร ฟางฮองเฮาไม่มีทั้งความรักใคร่โปรดปรานจากฮ่องเต้ และไม่มีการสนับสนุนจากวงศ์ตระกูล หากนางไม่มีบุตรย่อมอยู่ไม่ไกลจากการถูกปลดแล้ว

บัดนี้ฮ่องเต้มีสามโอรสหนึ่งธิดา องค์ชายทั้งสามดูเหมือนจะสูงศักดิ์ แต่การวางเดิมพันในตอนนี้ยังเร็วเกินไป ต่อให้ฟางฮองเฮาโค่นล้มมารดาบังเกิดเกล้าขององค์ชายองค์หนึ่งได้และอุ้มเด็กมาเลี้ยงดูเองก็ไม่แน่ว่าอาจเป็นการตัดชุดแต่งงาน* ให้ลูกคนอื่น ในสถานการณ์นี้องค์หญิงใหญ่กลับมีประโยชน์มากที่สุด ฮ่องเต้รักใคร่เอ็นดูองค์หญิงใหญ่มาก หากมีองค์หญิงใหญ่อยู่ข้างกาย ฮ่องเต้เสด็จมาวังคุนหนิงบ่อยๆ ฟางฮองเฮายังต้องกลัวว่าตนจะไม่มีบุตรหรือ

ฉะนั้นฟางฮองเฮาจึงรีบร้อนสังหารเฉาตวนเฟยผู้เป็นมารดาบังเกิดเกล้าขององค์หญิงใหญ่อย่างทนรอไม่ไหว ทั้งได้กำจัดพระชายาคนโปรดและยังได้เด็กมาคนหนึ่ง หนึ่งการกระทำได้ผลลัพธ์ถึงสองอย่าง ส่วนหวังหนิงผินน่าจะเป็นเพราะในอดีตเคยบาดหมางกับฟางฮองเฮาจึงเป็นที่ระบายอารมณ์ของฟางฮองเฮาเท่านั้น

หวังเหยียนชิงจิตใจหนักอึ้ง ลู่เหิงตบๆ หลังมือนาง ปลอบว่า “ไม่ต้องกังวล ในเมื่อข้าเป็นคนพาเจ้าเข้าวังก็จะต้องรับเจ้าออกมาอย่างปลอดภัยแน่นอน”

ลู่เหิงเบียดมาข้างกายหวังเหยียนชิงอย่างแนบเนียนอีกครั้ง หญิงสาวรู้สึกได้ แต่คำมั่นสัญญาในถ้อยคำของเขาจริงจังเกินไปจนทำให้นางมิอาจแข็งใจผลักเขาออก แม้ลู่เหิงมักบอกว่าตนเองไม่ใช่คนดี แต่ในแง่ของบุรุษ เขากลับไม่มีที่ติ

นี่คือคนเลวที่มีความรับผิดชอบคนหนึ่ง

หวังเหยียนชิงแค่สงสัยเจตนาของเขาเท่านั้น แต่กลับไม่เคยสงสัยเรื่องความปลอดภัยของตนเอง นางเชื่อว่าลู่เหิงไม่มีทางทอดทิ้งไม่ไยดีนาง ย้อนคิดถึงสองปีที่ผ่านมา นอกจากโกหกนางตั้งแต่ต้นจนจบแล้ว เรื่องอื่นเขาไม่เคยผิดต่อนางมาก่อน

ทว่าเขาดีต่อนางได้ก็ย่อมดีต่อสตรีอื่นได้เช่นกัน แม้กระทั่งความจริงเขายังไม่ยอมพูดกับนาง แล้วนางจะกล้ามอบทั้งชีวิตให้เขาได้อย่างไร ตัวหวังเหยียนชิงเองไม่ได้มีสิ่งใดเหนือกว่าผู้อื่น วันข้างหน้าย่อมมีสตรีที่อ่อนเยาว์กว่า งดงามกว่านางอีกมากมาย หากเขามีใจเป็นอื่น แอบเลี้ยงดูคนไว้ข้างนอกก็จะสามารถหลอกนางจนสับสนได้เช่นกันใช่หรือไม่

หวังเหยียนชิงรู้สึกว่าตนเองยังคงเป็นกบที่ถูกต้มในน้ำอุ่น ดิ้นรนแต่ในขณะเดียวกันก็ด้านชา นางถาม “วันนี้เหตุใดท่านจึงตั้งตัวเป็นศัตรูกับฟางฮองเฮา”

“มิใช่ตั้งตัวเป็นศัตรู” ลู่เหิงแย้ง “ข้ากำลังถามแทนฝ่าบาทต่างหาก เนื้อเน่าย่อมกลายเป็นหนอง พระทัยของฮ่องเต้ช้าเร็วก็ต้องเกิดความตะขิดตะขวง มิสู้พูดออกมาให้แจ่มแจ้งโดยเร็ว ดึงตัวข้าเองออกมาก่อน”

ดังนั้นตอนที่หวังเหยียนชิงถามถึงภูมิลำเนาของนางกำนัล ลู่เหิงจึงจงใจพูดว่านี่เป็นการหาเบาะแสอย่างหนึ่ง ทำให้จิตใจของฟางฮองเฮากับสวีสี่เยวี่ยปั่นป่วน เมื่อพวกนางประหม่าย่อมเกิดข้อผิดพลาด พอเกิดข้อผิดพลาด หวังเหยียนชิงย่อมจับผิดได้

หวังเหยียนชิงก้มหน้าลง ใคร่ครวญคำว่า ‘เนื้อเน่าย่อมกลายเป็นหนอง’

ลู่เหิงรู้สึกได้ว่าความคิดของนางล่องลอยออกไป ไม่แน่ใจนักว่าจะพูดออกไปเลยดีหรือไม่ แต่สุดท้ายยังคงตัดสินใจทำตามความรู้สึกของตนเอง “ข้ารู้ว่าเจ้าเองก็มีความตะขิดตะขวงใจกับข้า ระหว่างพวกเราเพิ่งเกิดเนื้อเน่า หรือว่าเน่าเฟะจนกลายเป็นหนองไปแล้ว”

“มีอะไรแตกต่างกันเล่า”

“ไม่แตกต่างอันใด เพราะไม่ว่าใหญ่หรือเล็กข้าก็จะขูดเนื้อเน่าส่วนนั้นออกมาให้หมด” ลู่เหิงตัดสินใจเลิกเสแสร้ง กางแขนโอบกอดหวังเหยียนชิง วางคางบนศีรษะนาง “บางครั้งข้าก็เข้าใจความนึกคิดจิตใจของฟางฮองเฮาเหมือนกัน ความริษยาเป็นพลังที่น่ากลัวมากอย่างหนึ่ง สามารถบงการคนให้ทำเรื่องที่คิดไม่ถึงได้มากมาย ข้าอยากเคารพการตัดสินใจของเจ้า แต่จนแล้วจนรอดข้าก็ไม่เต็มใจที่จะปล่อยเจ้าไป การหลอกเจ้าเป็นความผิดข้า ไม่ว่าจะมีเหตุผลมากมายเพียงใด ทำแล้วก็คือทำลงไปแล้ว แต่ข้ายังอยากลองดูอีกสักครั้ง”

หวังเหยียนชิงเชิดลำคอเรียวยาว นั่งตัวตรง มิได้หลบเลี่ยงแต่ก็มิได้ตอบรับ ลู่เหิงกระชับวงแขนแน่น “เจ้าให้โอกาสข้าอีกครั้งได้หรือไม่ ให้ข้าได้ขอความรักและขอเจ้าแต่งงานอีกครั้ง ครั้งนี้เจ้ามีความทรงจำแล้ว รู้หมดแล้วว่าข้าเป็นคนเช่นไร จากนั้นเจ้าค่อยตัดสินใจว่าจะแต่งให้ข้าหรือไม่”

ความจริงหวังเหยียนชิงเองก็รู้สึกว่าระหว่างพวกเขาจำเป็นต้องสะสางให้เด็ดขาด นางสามารถอวยพรให้ฟู่ถิงโจวอย่างสงบได้ แต่สำหรับลู่เหิงกลับรู้สึกขัดแย้งมาโดยตลอด นางไม่อาจให้อภัยที่เขาหลอกลวงนาง แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่อาจแข็งใจตัดขาดกับเขา บางทีโอกาสครั้งนี้อาจเป็นทั้งการมอบโอกาสให้เขาและมอบโอกาสให้ตัวนางเอง

หวังเหยียนชิงถาม “หากครั้งนี้ข้ายังคงไม่เต็มใจ ท่านจะปล่อยข้าจากไปจริงๆ หรือ”

ลู่เหิงบีบนิ้วเข้าด้วยกันแน่น เขาอยากเดิมพันกับความใจอ่อนของนาง แต่ไม่ได้คิดจะตั้งเดิมพันไว้สูงถึงเพียงนี้ สุดท้ายชายหนุ่มก็คิดว่าไม่ยอมเสียสละเด็กย่อมมิอาจล่อหมาป่าได้ กัดฟันตอบว่า “ใช่”

“ดี” หวังเหยียนชิงพยักหน้าทันทีเช่นกัน ถามต่อ “กำหนดเวลาเท่าใด”

ลู่เหิงเลิกคิ้ว รู้สึกเหลวไหลเหลือเกิน “ยังต้องมีกำหนดเวลาด้วยหรือ”

“หากท่านจะตามตอแยข้าไปแปดปีสิบปี ข้าก็ต้องเสียเวลากับท่านไปทั้งชีวิตอย่างนั้นหรือ” หวังเหยียนชิงเปิดโปงหลุมพรางที่เขาซุกซ่อนไว้ เอ่ยอย่างไม่ไว้หน้า “ในเมื่อท่านเป็นคนเสนอ เช่นนั้นก็ให้ท่านเป็นคนกำหนดเวลา”

ฝ่ายที่ขอปรองดองต้องยื่นข้อเสนอก่อน นี่เป็นกฎ จุดอ่อนของลู่เหิงถูกผู้อื่นบีบไว้จึงได้แต่ข่มความเจ็บปวดยอมถอยก้าวใหญ่ ตอบอย่างกล้ำกลืนฝืนใจ “หนึ่งปี?”

หวังเหยียนชิงฟังแล้วแกะมือเขาออกทันที ลู่เหิงรีบโอบความอ่อนนุ่มหอมกรุ่นในอ้อมแขนเอาไว้แน่น พูดใหม่ “ครึ่งปี”

“ไม่ได้ อย่างมากที่สุดหนึ่งเดือน”

ลู่เหิงกอดคนไว้ไม่ยอมปล่อย “สามเดือน น้อยกว่านี้ไม่ได้แล้ว หากยังน้อยกว่านี้อีก คำพูดก่อนหน้านี้ถือว่าข้าไม่เคยพูดแล้วกัน ข้าไม่ปล่อยเจ้าไปแล้ว”

ไฟโทสะพุ่งขึ้นในใจของหวังเหยียนชิง นี่เขากำลังทำการค้าที่ไม่มีต้นทุนอยู่หรือไร แต่คนเราเมื่อหน้าไม่อายย่อมไร้เทียมทานในใต้หล้า หวังเหยียนชิงแกะมือเขาไม่ออก เขากลับอาศัยช่วงที่นางดิ้นรนแนบชิดเข้ามามากกว่าเดิม หญิงสาวได้แต่รับปากอย่างจนใจ “ได้ ตกลงตามนี้ กำหนดเวลาคือสามเดือน หลังจากนี้จะแยกหรือจะอยู่ย่อมตัดสินได้ ผู้ใดก็ห้ามเสียใจภายหลังทั้งนั้น”

เป็นครั้งแรกที่ลู่เหิงรับภารกิจที่หนักหนาสาหัสถึงเพียงนี้มา เมื่อมีกำหนดเวลา เขาจะล้มเหลวไม่ได้ ทั้งยังไม่มีโอกาสให้แก้ตัว แต่ช่วยไม่ได้ นี่เป็นผลจากเมล็ดพันธุ์ที่เขาหว่านเอาไว้เอง ชายหนุ่มได้แต่ยอมรับอย่างจำใจ “ตกลง”

หลังจากพวกเขาต่อรองกันเสร็จ หวังเหยียนชิงจึงพบว่ารถม้าหยุดลง ถึงคฤหาสน์แล้ว หญิงสาวกระทุ้งเขาหนึ่งทีด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์ “ปล่อยมือ ข้าจะลงจากรถแล้ว”

ลู่เหิงถอนหายใจ ในอดีตพวกเขาเกือบจะก้าวไปถึงขั้นตอนสุดท้ายอยู่แล้ว บัดนี้ทุกอย่างสูญเปล่าไม่พอ แม้กระทั่งกอดยังเป็นเพียงความหวังลมๆ แล้งๆ ลู่เหิงนึกเสียใจภายหลังอยู่บ้าง แต่ดีร้ายอย่างไรเขาก็ยังมียางอาย สุดท้ายจึงปล่อยมือจากหวังเหยียนชิงช้าๆ พลางพูด “พรุ่งนี้ต้องไปตรวจสอบคนข้างกายหยางจินอิง ข้าจะมารับเจ้ายามเฉิน”

การที่สวีสี่เยวี่ยโกหกบอกได้เพียงหวังหนิงผินและเฉาตวนเฟยรับเคราะห์อย่างไม่สมควร ส่วนเบาะแสเกี่ยวกับพวกหยางจินอิงทั้งสิบหกคนนั้นยังคงว่างเปล่า ฟางฮองเฮาทำลายหลักฐานทิ้งทั้งหมด หากพวกเขาอยากรู้ความจริงย่อมได้แต่หาเบาะแสนำมาประกอบกัน

หวังเหยียนชิงพยักหน้า หยิบชุดคลุมกันลมขึ้นมาและเดินออกไปข้างนอก ลู่เหิงส่งนางถึงประตูข้าง หยุดฝีเท้าที่นอกประตูอย่างรู้ตัวดี องครักษ์ถือโคมไฟคุ้มกันหวังเหยียนชิงเดินเข้าไปภายในจวน นางเดินไปหลายก้าว หยุดและหันกลับมามอง เห็นลู่เหิงยังคงยืนอยู่ที่เดิม

ลู่เหิงคลี่ยิ้มให้นาง “รีบกลับไปเถิด จะได้รีบเข้านอน”

หวังเหยียนชิงรับคำว่า “อืม” แต่กลับมิได้ขยับ นางลังเลครู่หนึ่งก่อนพูดเสียงค่อย “อย่าลืมใส่ยาด้วย”

 

* จวิน เป็นหน่วยชั่งของจีน 30 ชั่งเท่ากับ 1 จวิน

* มาจากสำนวน ‘ตัดชุดแต่งงานให้ผู้อื่น’ หมายถึงลำบากลำบนหรือเหนื่อยเปล่าเพื่อผู้อื่น แต่ไม่เกิดประโยชน์อะไรต่อตนเอง

 

 

ติดตามตอนต่อไปวันที่ 17 .. 66 เวลา 12.00 .

3 of 3หน้าถัดไป

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com