ทดลองอ่าน ลูบคมองครักษ์สวมรอย บทที่ 57-58 – หน้า 5 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ลูบคมองครักษ์สวมรอย บทที่ 57-58

บทที่ 58

ผู้ใหญ่บ้านพาลู่เหิงไปดูแม่น้ำโดยรอบ ใต้เท้าผู้บัญชาการมีความสนใจเช่นนี้ นายอำเภอกับเจ้าเมืองจะไม่ไปด้วยได้อย่างไร เจ้าเมืองเฉิงได้แต่ทำหน้าขมขื่น มุดเข้าไปในเกี้ยวที่ลมลอดเข้ามามิได้ มุ่งหน้าเข้าไปในป่าเขาท่ามกลางแสงแดดแรงกล้า

ลู่เหิงและเจ้าเมืองพาผู้ติดตามส่วนใหญ่ไปด้วย พอพวกเขาจากไป หมู่บ้านเหอกู่ก็เงียบสงบ หมู่บ้านแห่งนี้เพิ่งจะมีห้าสิบเอ็ดครัวเรือนที่สูญเสียบิดา สามีหรือบุตรชายไป ทุกบ้านต่างแขวนธงขาวซึ่งกำลังโบกสะบัดอยู่กลางแสงอาทิตย์ร้อนแรงในเดือนเจ็ด ดูวังเวงทีเดียว

พิจารณาจากมุมนี้ หวังเหยียนชิงนับว่าโชคดี นางไม่ต้องเหน็ดเหนื่อย สามารถนั่งอยู่ใต้ชายคาหลบร้อนได้อย่างสบายใจ นางคิดในใจ นางกับพี่รองโตมาด้วยกันจริงๆ ความรู้ใจหาใช่สิ่งที่ผู้อื่นจะเทียบได้ นางยังไม่ได้พูดอะไรสักคำ พี่รองก็เข้าใจความคิดของนางแล้ว

แม้จะถูกหยิกที่แขนหนึ่งทีจนตอนนี้ยังชาอยู่เล็กน้อยก็ตาม

บ้านของผู้ใหญ่บ้านต้องต้อนรับแขกผู้สูงศักดิ์กะทันหัน พานให้บรรยากาศตึงเครียดขึ้นทันตา ผู้ใหญ่บ้านไปนำทางให้ใต้เท้าทั้งหลาย ที่บ้านจึงเหลือเพียงเฉียนซื่อภรรยาสูงวัย อู๋ซื่อลูกสะใภ้ และหลี่เจิ้งเจ๋อหลานชายวัยห้าขวบ เฉียนซื่อเชิญหวังเหยียนชิงนั่งอย่างประหม่าอยู่บ้าง ร้องสั่งลูกสะใภ้ “ไปอุ้มเจิ้งเจ๋อมาเร็วเข้า มาโขกศีรษะให้ผู้สูงศักดิ์”

หวังเหยียนชิงได้ยินดังนั้นก็รีบพูด “อย่าเลยไท่ไท่ผู้เฒ่า ข้าเป็นเพียงสาวใช้ของใต้เท้าลู่ หาใช่ผู้สูงศักดิ์ไม่”

เฉียนซื่อกลับยืนกราน รับตัวหลานชายมาด้วยตนเองและพากันคารวะหวังเหยียนชิง เจ้าเมืองเป็นบุคคลที่ร้ายกาจที่สุดในบรรดาคนที่เฉียนซื่อรู้จัก แม้กระทั่งเจ้าเมืองยังเคารพนบนอบใต้เท้าผู้อ่อนเยาว์ท่านนั้น ฐานะและที่มาที่ไปของคนเหล่านี้หาใช่สิ่งที่เฉียนซื่อสามารถคาดเดาได้ ดังคำกล่าวที่ว่า ‘คนเฝ้าประตูจวนอัครเสนาบดีมีตำแหน่งขุนนางขั้นเจ็ด คนข้างกายคนใหญ่คนโตต่อให้เป็นเพียงสาวใช้ก็ทำจากทองคำ’

หวังเหยียนชิงรีบลุกขึ้นหยุดยั้งการกระทำของเฉียนซื่อ “ไท่ไท่ผู้เฒ่า ท่านทำอะไร รีบลุกขึ้นเถิด ทำให้เด็กตกใจหมดแล้ว”

หวังเหยียนชิงยกเอาหลานชายของพวกเขามาอ้าง ในที่สุดเฉียนซื่อจึงได้หยุด หวังเหยียนชิงลอบโล่งอก นางบอกให้เฉียนซื่อและอู๋ซื่อรีบนั่งลง หลังจากวุ่นวายอยู่นาน ในที่สุดพวกนางก็นั่งลงพูดคุยดีๆ

ยื้อยุดกันไปมารอบหนึ่ง ร่างกายของหวังเหยียนชิงมีเหงื่อบางๆ ซึมออกมาชั้นหนึ่ง นางหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาซับเหงื่อ อู๋ซื่อเห็นดังนั้นก็รีบพูด “แม่นางรอประเดี๋ยว ข้าจะไปหาพัดมาให้…”

อู๋ซื่อว่าพลางเลิกม่านวิ่งเข้าไปในห้องด้านใน รื้อหาของเสียงดังอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะหยิบพัดผ้าไหมเล่มหนึ่งออกมา “แม่นาง นี่เป็นของที่บ้านเดิมของข้าส่งมาให้ เห็นว่าเป็นแบบที่ทางนครหลวงนิยมกัน แม้แต่ในตัวเมืองยังไม่มีของแบบใหม่นี้ ข้าไม่เคยนำออกมาใช้เลย ให้ท่านเอาไปใช้ก่อน”

หวังเหยียนชิงกล่าวขอบคุณและลุกขึ้นรับไว้ นางกวาดตามองลวดลายบนพัด เป็นแบบของนครหลวงจริงๆ ทว่าเป็นของปีที่แล้ว ปีนี้นิยมลวดลายอื่นแล้ว หวังเหยียนชิงมิได้เปิดโปง เพียงยิ้มพูดด้วยสีหน้าประหลาดใจ “เป็นแบบใหม่จริงๆ ด้วย บ้านเดิมของอู๋เหนียงจื่ออยู่ในนครหลวงหรือ ข่าวสารถึงได้ฉับไวปานนี้”

หวังเหยียนชิงเอ่ยคำพูดนี้เพื่อสร้างความสนิทสนม นางจะมาสืบข่าว คงมิอาจมาถึงก็ล้วงความลับของผู้อื่นทันที จะอย่างไรก็ต้องเอ่ยวาจาน่าฟังผูกสัมพันธ์กันก่อน บ้านเดิมและนครหลวงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมาก

อู๋ซื่อผลิยิ้มกระหยิ่มใจตามคาด เรื่องนี้อยู่ในความคาดหมายของหวังเหยียนชิงอยู่แล้ว แต่ที่เหนือความคาดหมายคือสีหน้าของเฉียนซื่อที่อยู่ด้านข้างกลับฉายความรู้สึกซับซ้อนขึ้นแวบหนึ่ง

เปลือกตานางหรี่ลงเล็กน้อย ตาขาวเหลือกขึ้นคล้ายจะเหยียดหยัน แต่ริมฝีปากนางกลับกระดกยิ้ม ทว่าเพียงพริบตาก็หายไป

การค้นพบนี้สร้างความประหลาดใจให้หวังเหยียนชิงอย่างมาก นางลอบสังเกตเฉียนซื่อ ขณะเดียวกันก็ได้ยินอู๋ซื่อเล่าด้วยน้ำเสียงที่พยายามจะสำรวม แต่ยังคงไม่อาจปกปิดแววโอ้อวดเอาไว้ได้ “บ้านเดิมของข้ามีคนรู้จักอยู่ในนครหลวง ทำการค้าเล็กๆ มักจะเดินทางไปมา ข้าบอกไปหลายรอบแล้วว่าข้าไม่ได้ใช้ของเล่นจุกจิกพวกนี้ พี่ชายกลับเอามาให้ข้าอยู่เรื่อย”

หวังเหยียนชิงยิ้มผงกศีรษะ “ที่แท้เป็นเช่นนี้เอง บ้านเดิมของอู๋เหนียงจื่อช่างดีต่อท่านจริงๆ”

ตามคาด หวังเหยียนชิงเอ่ยคำพูดนี้จบ แววเหยียดหยันบนใบหน้าเฉียนซื่อยิ่งชัดเจนกว่าเดิม ในฐานะแม่สามี ไม่ชอบที่ลูกสะใภ้ยกยอบ้านเดิมของตนเป็นเรื่องปกติ แต่อารมณ์ที่แสดงออกมาควรจะเป็นขุ่นเคืองหรือรำคาญมากกว่า เหตุใดจึงเป็นความดูแคลนเล่า

ตามความเห็นของหวังเหยียนชิง ทรัพย์สินในบ้านของผู้ใหญ่บ้านยังมิได้มากพอที่จะดูถูกบ้านเดิมของลูกสะใภ้ที่เป็นพ่อค้าคนกลางซื้อขายสินค้าจากนครหลวงกระมัง อีกทั้งตอนที่เฉียนซื่อได้ยินลูกสะใภ้พูดว่าบ้านเดิมของนางมีเงิน ดวงตาฉายแววดูแคลน แต่มุมปากกลับกลั้นยิ้มไว้ไม่อยู่

นางยิ้มอะไรของนาง

หวังเหยียนชิงครุ่นคิดในใจเงียบๆ นี่เป็นเรื่องน่ายินดีที่คาดไม่ถึง ไม่น่าเชื่อว่าจะพบจุดสำคัญของเรื่องราวไวปานนี้

อู๋ซื่อเล่าถึงบ้านเดิมของตนอย่างลำพองใจ พูดไม่ถึงสองประโยคก็ถูกเฉียนซื่อขัดจังหวะ “เดือนเจ็ดแล้ว อีกสองเดือนฉีเอ๋อร์ก็ต้องสอบเคอจวี่แล้ว”

คำพูดนี้ของเฉียนซื่อแทรกเข้ามาอย่างชัดเจนยิ่งนัก อู๋ซื่อชะงัก หวังเหยียนชิงยิ้มถาม “ไท่ไท่ผู้เฒ่าหมายถึงคุณชายของพวกท่านหรือ ได้ยินว่าคุณชายเล่าเรียนอยู่ที่สำนักศึกษาระดับอำเภอ ผลคะแนนยอดเยี่ยม การสอบชิวเหวยครั้งนี้คิดว่าคงติดอันดับต้นๆ เป็นแน่”

นี่เป็นหัวข้อสนทนาที่เฉียนซื่อชื่นชอบ นางคุยเรื่องของหลี่ฉีผู้เป็นบุตรชายไม่หยุด รอยยิ้มบนใบหน้าอู๋ซื่อชะงักค้างเหมือนดอกไม้กระดาษ เวลานี้หลี่เจิ้งเจ๋อวิ่งเข้ามาชวนมารดาเล่น อู๋ซื่อปัดมือเด็กน้อยออก ดุเสียงค่อย “อย่าซน ไม่เห็นหรือว่ามีแขกผู้สูงศักดิ์อยู่”

หลี่เจิ้งเจ๋อถูกมารดาปฏิเสธ วิ่งออกไปด้วยอารมณ์ขุ่นมัว เฉียนซื่อทนเห็นหลานรักหมดสนุกไม่ได้ รีบร้องเรียก แล้วไล่ตามออกไป “คนดีของย่า”

เฉียนซื่อออกไปแล้ว อู๋ซื่อยิ้มให้หวังเหยียนชิงอย่างขออภัย “แม่นางอย่าได้ถือสา แม่สามีอายุมากแล้ว เจอใครก็ชอบคุยแต่เรื่องในอดีตไปเรื่อย”

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com