14 วัน 14 เรื่อง
ทดลองอ่าน วาสคนเขลา
ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่ได้ฟังคำบอกของพ่อบ้านก่อนหน้าว่าคนท่านนี้มาเพื่อทาบทามสู่ขอ เทียบที่ฉู่ซือหม่ายื่นมาให้ก็สอดกระดาษสีเหลืองที่เขียนดวงเกิดเอาไว้อย่างชัดเจน แต่ผู้ที่จะรบกวนสองท่านนี้ได้เป็นคุณชายชื่อดังคนใดกัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่รู้สึกงุนงงจับต้นสายปลายเหตุไม่ถูกจริงๆ
ตอนนี้ท่านหญิงไหวอินไม่พูดเรื่องการทาบทามเลย แต่บอกว่าอยากจะพบหลี่รั่วอวี๋ อีกทั้งเหตุผลก็บอกอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง นางจึงไม่มีเหตุผลใดที่จะปฏิเสธได้
ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่มองฉู่ซือหม่าด้วยสีหน้าลำบากใจแวบหนึ่ง “ไม่รู้ว่าท่านหญิงได้ฟังซือหม่าพูดถึงหรือไม่ว่า บุตรสาวข้าน้อยประสบอุบัติเหตุ ตอนนี้โง่เขลาเซ่อซ่าไปบ้าง เกรงว่าจะเสียมารยาทต่อหน้าท่านหญิง”
ท่านหญิงไหวอินอมยิ้ม “จิ้งเฟิงพูดถึงอาการป่วยของนางแล้ว ได้ยินว่าดีขึ้นบ้างแล้ว ดังนั้นจึงมารบกวน ตั้งใจมาเยี่ยมคุณหนูรองสักหน่อย”
ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่เห็นท่านหญิงไหวอินยืนยันเช่นนี้ จึงสั่งให้สาวใช้เข้าไปเรือนด้านหลังพาหลี่รั่วอวี๋ออกมา
เวลานี้หลี่รั่วอวี๋กำลังยุ่ง หลายวันก่อนนางเห็นกล่องหนังสือของเสียนเอ๋อร์จึงรู้สึกอิจฉามาก จึงอ้อนวอนฮูหยินผู้เฒ่าหลี่ให้เตรียมให้ตนเองบ้างหนึ่งกล่อง สองวันนี้ได้มาแล้วหากว่างก็จะเปิดกล่องฝนน้ำหมึก จากนั้นจะพาดตัวบนโต๊ะหนังสือในห้องหนังสือฝึกเขียนตัวอักษร
ตอนที่เรือนด้านหน้ามาตามตัวหลี่รั่วอวี๋ ภายในห้องหมึกพู่กันกำลังปลิวว่อน
หล่งเซียงได้ยินว่าโถงด้านหน้าท่านหญิงไหวอินเป็นแขกทรงเกียรติมาเยี่ยมเยือนก็ร้อนใจไม่มีเวลาสนใจว่าคุณหนูของตนเองกำลังสนุกกับการสาดน้ำหมึก จึงรีบดึงตัวหลี่รั่วอวี๋กลับห้องนอนไปเช็ดมือเช็ดเท้าจนสะอาด เลือกชุดสีเขียวเม็ดถั่วที่ขับผิวของหลี่รั่วอวี๋ที่สุดกับกระโปรงยาวคลุมพื้นสีดอกอิงฮวามาเปลี่ยนให้ ผมยาวหนายังไม่ทันได้ใส่น้ำมันจัดแต่งทรง ทำได้เพียงพรมน้ำดอกกุหลาบเพื่อไม่ให้ผมยุ่ง ก่อนจะเหลือหน้าม้าไว้เพื่อเกล้าผมขึ้นอย่างง่ายๆ แล้วปักปิ่นหยกรูปดอกไห่ถัง* ที่มีเกสรโผล่ตรงกลาง
รอจนผมแห้งแล้ว ผมที่ฟูฟ่องก็ลีบติดข้างแก้มขาวนวล ทำให้ใบหน้าดูงดงามยิ่งขึ้น มีความงดงามน่ารักสดใสของหญิงสาวมากขึ้น
หล่งเซียงคิดว่าความสามารถในการหวีแต่งทรงผมของตนเองเป็นอันดับต้นๆ ในเรือนหลังทั่วทั้งเมืองเหลียวเฉิง น่าเสียดายที่มาอยู่ข้างกายหลี่รั่วอวี๋คุณหนูที่ไม่รักการแต่งตัว ทำให้เสียฝีมือติดตัวนี้ไปอย่างเปล่าประโยชน์ คุณหนูออกไปอู่เรือจนผิวดำคล้ำทุกวันนั้นไม่ว่า ทว่านางยังยุ่งแต่เรื่องกิจการจนไม่มีเวลาใส่ใจเรื่องการแต่งตัว ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่เตรียมเครื่องประดับปิ่นปักผมให้นางมากมายก็ถูกเก็บไว้ในกล่องเครื่องประดับ ทุกครั้งที่หล่งเซียงเห็นก็จะรู้สึกเจ็บปวดแทนเครื่องประดับงดงามเหล่านี้
ทว่าคุณหนูในตอนนี้เข้าหาได้ง่ายกว่าเมื่อก่อนแล้ว ทั้งยังไม่ต้องออกไปทำงานเหน็ดเหนื่อยแต่เช้าตรู่อีก ทุกวันจะนอนจนเต็มอิ่ม ผิวพรรณสดใสมีน้ำมีนวล หลังตื่นนอนก็มานั่งหน้าโต๊ะเครื่องแป้งอย่างดียอมให้นางแต่งนั่นเติมนี่ให้
หล่งเซียงมีความคิดของตนเองว่าสมองของคุณหนูตอนนี้ใช้การได้ไม่ดี แต่ใบหน้าต้องรักษาให้ดี สตรีงดงามไปถึงที่ใดก็มีแต่คนรัก ตามสายตาของนาง คุณหนูถึงแม้จะโง่เขลาไปนิด แต่มีความฉลาดกว่าสตรีโง่งมที่รู้จักแต่นินทาเรื่องภายในบ้านของคฤหาสน์อื่นในเมืองเหลียวเฉิงมากนัก!
ด้วยความคิดที่อยากจะให้ผู้เป็นนายงดงามเสมอนี้ หล่งเซียงทาสผู้ซื่อสัตย์จึงใช้ไข่มุกขนาดเท่าเล็บมือหนึ่งเม็ดมาบดใส่น้ำแป้งแล้วชโลมใบหน้าคุณหนู ทำให้ผิวคุณหนูที่ตากแดดจนดำคล้ำขาวนวลขึ้น
วันนี้การบำรุงมานานนับว่ามีที่ให้ใช้งานแล้ว มีแขกทรงเกียรติมาเยี่ยมคุณหนูโดยเฉพาะ ดูท่าแล้วคงจะมาแนะนำคนดีที่จะมาแต่งงานกับคุณหนู ท่านหญิงไหวอินน่าเชื่อถือมากกว่าแม่สื่อถามท้องถนน นางย่อมต้องแต่งตัวคุณหนูให้ดูงดงามเป็นพิเศษ!
ตลอดทางเดินไปถึงโถงด้านหน้า นางก็พูดปากเปียกปากแฉะกำชับคุณหนูว่าอีกครู่ต้องทำตัวดีๆ อย่างไร คารวะทักทายอย่างไร จากนั้นก็นั่งลงบนเก้าอี้ห้ามขยับไปมาเด็ดขาด
รอจนเข้าไปในโถงด้านหน้าก็พบว่าความเหน็ดเหนื่อยของหล่งเซียงไม่เสียเปล่า ท่านหญิงไหวอินเห็นท่าทางงดงามของคุณหนูรองแล้วดวงตาพลันเปล่งประกายพลางพยักหน้าให้เบาๆ ส่วนซือหม่า ใบหน้าเย็นชานั้นจ้องคุณหนูไม่วางตาเช่นกัน ผ่านไปครู่ใหญ่จึงหลุบตาลง ก้มหน้าเป่าใบชาที่ลอยอยู่ในถ้วย
หลี่รั่วอวี๋เดิมทีคิดจะฟังคำของหล่งเซียง เข้าไปคารวะทักทายแขกอย่างดี แต่คิดไม่ถึงว่าพอช้อนตาขึ้นก็เห็นฉู่จิ้งเฟิงนั่งอยู่ในโถงรับแขก จึงหยุดชะงักไม่เดินเข้าไป
นางไม่ได้ลืมว่าหลายวันก่อนได้อยู่ใกล้กับเขา คนผู้นี้เดี๋ยวหนาวเดี๋ยวร้อน เดิมทีเห็นเขาซื้อของเล่นน่ารักมากมายให้ตนเอง ก่อนจากมายังมอบ ‘เหยี่ยว’ ให้นางอีกหนึ่งตัว ก็ค่อยๆ เกิดความรู้สึกอันดีต่อเขา แต่ตอนที่นางใกล้จะขึ้นรถม้า บังเอิญหันหน้าไปมอง เขายืนนิ่งอยู่บนชั้นสองของที่พักรับรองกำลังมองนางอยู่ ในดวงตาปรากฏประกายสีแดงอีกแล้ว…
หลี่รั่วอวี๋แม้จะสมองไม่ค่อยดีนัก แต่ก็คิดได้ว่าตอนที่ในดวงตาของเขามีประกายสีแดง มีความหมายในทางไม่ดี ถูกเขาจ้องอย่างนั้น แม้จะเข้าไปในรถม้าแล้ว นางก็ยังรู้สึกว่าสายตาร้อนแรงของคนผู้นั้นเผาตัวรถจนเป็นรู จึงอยากให้รถม้ารีบจากไป ไปให้ไกลจากเขา
ตอนนี้นางมีความคิดเด็กๆ แม้ทุกวันจะเล่นของเล่นที่เขามอบให้ แต่ก็ลืมน้ำใจของเขาไปหมดแล้ว ผ่านไปนานเพิ่งได้เจอเขาอีกครั้ง ในสมองจำได้แต่ตอนที่จากมา สายตาแดงก่ำจะกินคนของเขา ความลึกล้ำในแววตานั้นคล้ายกับเสิ่นหรูป๋ออยู่บ้าง ตอนที่จ้องนางทำให้นางรู้สึกไม่สบายตัวและรำคาญใจเหลือเกิน!
แต่ตอนนี้เขามาจ้องหน้านางแบบนี้ ทำท่าเหมือนนางเป็นขนมโก๋เมล็ดซิ่ง* เคลือบน้ำผึ้ง อยากจะกัดสักคำ… หลี่รั่วอวี๋เบ้ปาก ในใจรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก
หล่งเซียงเห็นคุณหนูยืนนิ่งอยู่ตรงประตูโถงก็รู้สึกร้อนใจ กลัวว่าคุณหนูจะงอแง ทำขายหน้าต่อหน้าแขกทรงเกียรติ จึงได้จูงมือคุณหนูและดันให้นางเดินไปข้างหน้าพลางพูดเสียงเบาว่า “ฮูหยินเตรียมผลไม้มากมายให้แขก อีกครู่ดูว่าคุณหนูชอบกินอันไหน หล่งเซียงจะไปหยิบชิ้นใหญ่มาให้ดีหรือไม่”
Comments
