ทดลองอ่าน วาสคนเขลา – หน้า 40 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

14 วัน 14 เรื่อง

ทดลองอ่าน วาสคนเขลา

หล่งเซียงเองก็คิดไม่ถึงเลยว่ายามนี้คุณหนูรองจะอยู่นิ่งอย่างดี แต่เป็นฮูหยินผู้เฒ่าหลี่เองที่กลับทำขายหน้าก่อน จึงรีบยื่นผ้าเช็ดหน้าไปให้อีกฝ่ายมือเป็นพัลวัน พลางช่วยลูบหลังให้ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่

องค์หญิงไหวอินไม่เคยคิดว่าคำพูดนี้ของนางจะทำให้ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่ตกใจจนเป็นเช่นนี้ ทำได้เพียงนั่งนิ่งรอให้ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่ปรับลมหายใจ

ไม่อาจโทษที่ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่ทำขายหน้า แต่ตีให้ตายนางก็คิดไม่ถึงว่าคนที่มาทาบทามจะนั่งอยู่ในโถงรับแขกคฤหาสน์สกุลหลี่ด้วยตนเอง

คนที่อยากแต่งงานกับบุตรสาวคือผีเห็นยังหวั่นแห่งต้าฉู่หรือ แม้แต่บัณฑิตเล่าเรื่องที่ดื่มยากล่อมประสาทยังพูดเรื่องเหลวไหลแบบนี้ออกมาไม่ได้เลย!

ในขณะที่ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่ทำอะไรไม่ถูกนี้เอง ฉู่จิ้งเฟิงก็เอ่ยปากตอบคำถามของนาง “ข้าปีนี้อายุยี่สิบห้า สุขภาพนับว่าแข็งแรง ไม่เคยแต่งภรรยา ที่บ้านก็ไม่มีอนุ ข้าชื่นชมคุณหนูรองหลี่มาตลอด แต่เสียดายที่นางได้หมั้นหมายไว้ก่อน เดิมคิดว่าต้องกอดความเสียใจไปชั่วชีวิต คิดไม่ถึงว่าคุณหนูรองหลี่จะถอนหมั้น จึงได้ตั้งใจมาทาบทามสู่ขอ ขอฮูหยินผู้เฒ่าหลี่อุ้มสมด้วย เช่นนี้แล้ว ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่ยังมีสิ่งใดต้องการถามอีกหรือไม่”

คำพูดนี้พูดอย่างจริงใจ แต่หากเปลี่ยนเป็นเด็กหนุ่มคนอื่นพูดประกอบด้วยท่าทางขวยเขิน คงจะให้ความรู้สึกลึกซึ้งเข้ากระดูกได้เพิ่มขึ้นหลายส่วน

ทว่าน่าเสียดายผู้ที่พูดในตอนนี้กลับเป็นฉู่จิ้งเฟิง ชายหนุ่มใบหน้าเย็นชาราวกับเทพพิฆาตอย่างนั้น ดวงตาหางคิ้วไม่ขยับแม้แต่น้อย เอ่ยชื่นชมคุณหนูรองหลี่ด้วยน้ำเสียงราบเรียบ พูดจบก็บีบถามฮูหยินผู้เฒ่าหลี่อีกว่ายังมีสิ่งใดต้องการถามอีกหรือไม่

ถึงแม้น้ำเสียงจะนับว่านอบน้อม แต่มองดูใบหน้าเย็นชาของเขาแล้วก็รู้สึกเหมือนถูกข่มขู่ บีบจนฮูหยินผู้เฒ่าหลี่รู้สึกอ้าปากไม่ขึ้น ทำได้เพียงมองไปยังท่านหญิงไหวอินอย่างหาคนช่วย

แท้จริงแล้วท่านหญิงไหวอินก็เข้าใจความรู้สึกของฮูหยินผู้เฒ่าหลี่ บางครั้งนางก็ถูกความเย็นเยือกราวน้ำแข็งของน้องชายบีบคั้นจนหายใจไม่ออก ไม่เช่นนั้นวันนี้นางคงไม่รีบเดินทางจากเมืองซูเฉิงมาที่นี่เพื่อทาบทามสู่ขอด้วยตนเองเพราะน้องชายเอ่ยปากขอร้องหรอก

ท่านหญิงไหวอินจึงเอ่ยปากด้วยความเข้าใจแก้สถานการณ์ได้ทันเวลา “ท่านแม่ของข้ากับท่านแม่ของจิ้งเฟิงเป็นพี่น้องสายเลือดเดียวกัน ท่านน้าของข้าจากโลกไปเร็ว ท่านพ่อของจิ้งเฟิงก็เสียไปตอนที่เขาอายุสิบเจ็ดปี เขาไม่มีท่านพ่อท่านแม่ ก็ต้องให้ข้าที่เป็นพี่สาวคนโตช่วยจัดการเรื่องการแต่งงานให้เขา แต่จิ้งเฟิงเป็นคนตาสูง ไม่มีผู้ใดเข้าตาสักคน ตอนนี้หาได้ยากที่มาหมายตาคุณหนูรองของท่าน เพราะคุณหนูรองกำลังป่วยอยู่ จิ้งเฟิงกังวลว่าฮูหยินผู้เฒ่าหลี่จะเคลือบแคลงความจริงใจของสกุลฉู่ จึงเอ่ยปากให้ข้ามาที่นี่เพื่อเป็นแม่สื่อ แสดงความจริงใจของพวกเรา ถ้ามีสิ่งใดไม่ควร ขอให้ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่อภัยด้วย”

คำพูดปฏิเสธที่เตรียมมาอย่างดีของฮูหยินผู้เฒ่าหลี่ไม่ได้ใช้ประโยชน์เลย

หากดูแค่ตัวฉู่จิ้งเฟิง เรื่องชาติกำเนิดที่ดีไม่ต้องพูดถึง ตอนนี้ยังเป็นถึงซือหม่าในราชสำนัก กุมอำนาจสำคัญเอาไว้ หากมองข้ามผมขาวเต็มหัวตั้งแต่อายุน้อยนั้นไป ก็นับเป็นคนมีความสามารถ ที่สำคัญไปกว่านั้นคือคนสูงศักดิ์ระดับนี้กลับยังไม่มีภรรยาเอกไม่มีอนุ ช่างเป็นของล้ำค่าในโลกมนุษย์จริงๆ…

แต่เพราะเป็นบุคคลระดับนี้มีดีทุกอย่างจนไม่อาจหาที่ดีกว่านี้ได้แล้ว จึงยิ่งทำให้เกิดความสงสัย

มังกรในหมู่คนเช่นนี้ เหตุใดจึงได้อยากจะแต่งงานกับบุตรสาวโง่เขลาของนาง และก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน เขาเองที่เป็นคนสั่งให้จับตัวหลี่รั่วอวี๋ไปด้วย!

คิดถึงข่าวลือที่บุตรสาวคนรองกับซือหม่าผู้นี้มีความบาดหมางกัน ความจริงใจในการมาทาบทามสู่ขอครั้งนี้จึงกลายเป็นเหมือนหลุมพรางลึกล้ำไม่อาจคาดเดาได้ไปทันที

ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่รู้สึกว่าสมองของตนเองที่ถูกเลี้ยงดูอยู่ในเรือนหลังมากว่าครึ่งชีวิตราวกับมีน้ำจากแม่น้ำไหลทะลักเข้ามาทำให้สับสนวุ่นวายไปในชั่วพริบตา จิตใต้สำนึกบอกว่าจะรับการแต่งงานที่อาจถึงแก่ชีวิตนี้ไม่ได้ แต่หากปฏิเสธ ก็ต้องมีเหตุผลที่เหมาะสม…

ภายใต้สายตาเย็นชาของซือหม่าผู้นั้น ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่ใคร่ครวญคำพูดของเขาเมื่อครู่อีกรอบ ที่สุดก็หา ‘จุดด่างพร้อย’ ที่เหมาะสมได้แล้ว จึงเอ่ยปากพูดว่า “ยากนักจะสามารถได้รับความรักจากซือหม่า แต่ว่าบุตรสาวข้าอายุยังน้อย ไม่ค่อยเหมาะสมกับอายุของใต้เท้า”

ความหมายของคำพูดนี้ ก็คือรังเกียจที่ฉู่จิ้งเฟิงอายุมากไปหน่อย ท่านหญิงไหวอินได้ฟังคำพูดนี้แล้วก็รู้สึกไม่พอใจอยู่บ้าง แต่ในเมื่อระเบิดอารมณ์ไม่ได้ จึงถอนใจแล้วพูดว่า “เป็นเพราะสีผม ทำให้จิ้งเฟิงดูอายุมาก จะว่าไปแล้ว เป็นความผิดของโจรชั่วหยวนซู่นั่น ถ้าไม่ใช่เพราะตอนนั้นจิ้งเฟิงขนส่งสัมภาระการทหารไม่ทันเวลา… ร้อนใจจะรีบฝ่าวงล้อม ก็คงไม่เอาตัวเข้าเสี่ยงจนถูกพิษประหลาด ทำให้ผมกลายเป็นสีเงินทั้งหัว…”

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in 14 วัน 14 เรื่อง

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ห้วงฝันบันดาลรัก บทที่ 65-66

บทที่ 65 ต่อสู้ กรมซือเทียน ห้องโถงรับแขกของกองเสวียนอู่ เซี่ยหงเฉินถูกเชิญเข้ามาข้างใน ชาถูกยกมาให้อย่างรวดเร็ว เขามิได...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ห้วงฝันบันดาลรัก บทที่ 63-64

บทที่ 63 วุ่นวาย ชีวิตของหวงหร่างค่อยๆ สูญสลายไป นางยกมือขึ้นดึงเข็มใบชาโปร่งใสบนศีรษะออกมาเบาๆ หยดน้ำที่ละลายมาจากเข็มใ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 96-97

บทที่ 96 ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เซิ่งฮูหยินโกรธจนร่างสั่น นางรีบคุกเข่าลงที่พื้นร้องขอความเมตตาและขออภัยฮุ่ยหมิ่นเซ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 98

บทที่ 98 เมื่อคิดได้เช่นนี้ โม่เซี่ยวเหนียงก็ลุกขึ้นนั่งให้ดี ก่อนจะยกเท้าถีบฮั่วสุยเฟิงที่นอนนิ่งอยู่ข้างๆ อย่างแรง ฮั่...

community.jamsai.com