ทดลองอ่าน วาสคนเขลา – หน้า 42 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

14 วัน 14 เรื่อง

ทดลองอ่าน วาสคนเขลา

บทที่หก

หลี่เสวียนเอ๋อร์วางชามกับตะเกียบลงอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ หลังย่อตัวคำนับฮูหยินผู้เฒ่าเสิ่นแล้วก็ตรงไปที่ห้องหนังสือ

ยามนี้นางเป็นคนที่ไม่มีความสุขที่สุดในสกุลเสิ่น แม้ตัวจะอยู่ในคฤหาสน์ แต่นางรู้ข่าวลือภายนอกของนางจากปากของสาวใช้ เดิมทีควรจะได้แต่งงานแทนพี่รองอย่างสมเกียรติ แต่กลับกลายเป็นในท้องมีเลือดชั่ว สกุลเสิ่นจำยอมทิ้งพี่สาวมาแต่งงานกับน้องสาว

แต่ทั้งหมดนี้นางล้วนไม่สนใจ นางรักเสิ่นหรูป๋อด้วยใจจริง ทว่าหลังจากเสิ่นหรูป๋อรู้ว่าฉู่ซือหม่าผู้นั้นไปทาบทามสู่ขออีกฝ่ายถึงบ้านก็ทำตัวผิดแปลกไป สิ่งนี้ทำให้ในใจของนางมีไฟหึงหวงลุกโชน

หลังผลักเปิดประตูห้อง เดิมคิดว่าจะเห็นเสิ่นหรูป๋อหน้าตาโกรธเกรี้ยวท่าทางเศร้าสลด คิดไม่ถึงว่าเขากลับนั่งอยู่หน้าโต๊ะหนังสือดูภาพผังเรือรบที่นางวาด ท่าทางตั้งใจนั้น…ดูสง่างามยิ่ง

เขาเงยหน้าขึ้นเห็นหลี่เสวียนเอ๋อร์เข้ามา จึงพูดเสียงอ่อนโยนว่า “เสวียนเอ๋อร์ เจ้ามาพอดีเลย เรือรบนี้มีจุดหนึ่งดูเหมือนไม่สมบูรณ์ ข้าจำได้ว่าก่อนหน้านี้ดูภาพผังที่รั่วอวี๋วาด ตรงกระดูกงูเรือใหญ่นางมักจะออกแบบโครงแนวขวางไว้หลายท่อน…”

หลี่เสวียนเอ๋อร์ตอนนี้ในใจไม่อยากได้ยินชื่อหลี่รั่วอวี๋ที่สุด แต่ไม่อาจแสดงออกทางใบหน้าได้

“พี่รองมักจะชอบเติมของแปลกใหม่ แต่ใน ‘ตำราเรือย่ำคลื่น’ สกุลหลี่ของพวกเราไม่มีส่วนประกอบนั้น ตามภาพตัวอย่างที่บรรพชนทิ้งเอาไว้ ไม่มีทางผิดหรอก… หรูป๋อ ท่านกำลังไม่สบายใจหรือ สาเหตุมาจากซือหม่านั่นไปสู่ขอพี่รองใช่หรือไม่”

มือใหญ่ของเสิ่นหรูป๋อที่ถือพู่กันบีบแน่นขึ้น ก่อนจะเอ่ยพูดอย่างอ่อนโยน “แค่พักนี้มีงานยุ่งเหนื่อยไปบ้าง ตอนนี้เจ้ากับข้าแต่งงานกันแล้ว เจ้ากับลูกในท้องย่อมเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในใจข้า แต่ฉู่ซือหม่าทำไมมาทาบทามสู่ขอได้ หรือคิดว่าเมื่อใดพี่รองของเจ้ากลับฟื้นเป็นปกติ เขาจะได้เคล็ดวิชาสกุลหลี่กระมัง”

ในดวงตาหลี่เสวียนเอ๋อร์ฉายความว้าวุ่น แม้นางจะจำเคล็ดวิชาได้แม่นยำ แต่หากพี่รองสมองกลับมาเป็นปกติจริง และได้ที่พึ่งอย่างฉู่ซือหม่า ด้วยความฉลาดของพี่รองจะมีวันที่นางจะได้เชิดหน้าชูตาได้อย่างไร

นางคิดสักครู่จึงพูดขึ้นว่า “คงเป็นไปไม่ได้ ลี่จือสาวใช้ข้างกายข้ากับหลี่ฝูคนใช้แรงงานในเรือนหลังคฤหาสน์สกุลหลี่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน แม้ว่าลี่จือจะย้ายมาที่นี่พร้อมกับข้าตอนแต่งงาน แต่พวกเขาปกติก็ได้เจอกันพูดคุยกันที่ตลาด ได้ยินหลี่ฝูบอกว่าวันนั้นฮูหยินผู้เฒ่าหลี่ไม่ได้รับปากเรื่องการแต่งงาน และคุณหนูรองหลี่ยังพ่นลูกบ๊วยในถ้วยชาใส่ซือหม่าต่อหน้าท่านหญิงอีกด้วย…”

เสิ่นหรูป๋อแววตาสั่นไหว พลางพูดด้วยเสียงเข้ม “เมื่อเป็นเช่นนี้ เหตุใดเขายังดื้อดึงจะแต่งงานกับรั่วอวี๋อีก”

หลี่เสวียนเอ๋อร์ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ใช้เล็บแทงเข้าไปในฝ่ามือของตนเอง

เพราะข่าวลือเรื่องการทาบทามสู่ขอของซือหม่า เจ้าหนี้ที่ไปตามทวงหนี้เหล่านั้นจึงเพลาลง อย่างไรเสียหากซือหม่าแต่งกับคุณหนูรองหลี่ อำนาจบารมีเบื้องหลังสกุลฉู่จะล่วงเกินไม่ได้

 

ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่นั้นนอนไม่หลับอยู่หลายวัน เพิ่งส่งหมาป่าเลวร้ายแซ่เสิ่นตัวหนึ่งไป ก็มีเสือร้ายที่มีบารมีมากไม่อาจต้านได้มาอีกหนึ่งตัว นางเฝ้าครุ่นคิดว่าทำอย่างไรจึงจะปฏิเสธการแต่งงานครั้งนี้โดยไม่ล่วงเกินซือหม่า

ในตอนนี้เอง เทียบของท่านหญิงไหวอินก็ส่งมาถึง เชิญฮูหยินผู้เฒ่าหลี่พาหลี่รั่วอวี๋ไปเป็นแขกที่จวนกลางสวนของนางที่เมืองซูเฉิง

การเชื้อเชิญครั้งนี้ไม่อาจปฏิเสธได้เช่นกัน เพราะวันต่อมาฉู่ซือหม่าก็นำทหารองครักษ์มารอรับหญิงทั้งสองให้เร่งเดินทางไปที่เมืองซูเฉิงพร้อมกัน

ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่เดิมคิดจะบอกปัด แต่ฉู่ซือหม่ากลับพูดอย่างไม่สนใจว่าครั้งนี้พี่สาวยังเชิญใต้เท้าหลิวจากกรมโยธามาด้วย ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่จึงเกิดความคิดขึ้นในใจ ตอนนี้เงินก้อนใหญ่ที่ติดค้างกรมโยธาไว้ยังไม่ได้จัดการ หากสามารถขอร้องใต้เท้าหลิวได้ ไม่แน่ว่าอาจจะแก้สถานการณ์ยากลำบากของสกุลหลี่ได้

เมื่อคิดถึงตรงนี้ นางก็เกิดความคิดอยากไปร่วมงานขึ้นมา ซือหม่าผู้นี้แม้จะดูเยือกเย็นน่ากลัวไปบ้าง แต่ได้ใกล้ชิดกันอีกครั้งสองครั้ง กลับพบว่าแม้ว่าเขาจะไม่กระตือรือร้นอะไร แต่ก็มีมารยาท ทั้งที่มีตำแหน่งขุนนางสูงศักดิ์ ทว่ากลับไม่แสดงท่าทางของขุนนางชั้นสูงเลย ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่จึงค่อยๆ ลดความระวังในใจลงบ้าง

หลังจากที่ซือหม่าบอกว่าบุตรสาวคนโตของนางกับลูกเขยก็เดินทางไปที่เมืองซูเฉิงเช่นกัน นางจึงตัดความลังเลใจสุดท้ายทิ้งไป ในเมื่อหลี่รั่วฮุ่ยก็ไปด้วยและซือหม่าก็มารับถึงคฤหาสน์ด้วยตนเอง จะมีเหตุผลอะไรในการปฏิเสธอีกเล่า อีกทั้งเมืองซูเฉิงก็ห่างจากเมืองเหลียวเฉิงไม่ไกลนัก นั่งรถม้าสองชั่วยามก็ถึงแล้ว ดังนั้นนางจึงสั่งให้บ่าวไพร่สาวใช้เตรียมเสื้อผ้าที่จะเปลี่ยนและหีบเล็กใส่ของเพื่อออกนอกบ้าน ก่อนจะขึ้นรถม้าเดินทางไปที่เมืองซูเฉิง

ก่อนหลี่รั่วอวี๋ออกจากบ้าน เห็นฉู่จิ้งเฟิงยืนอยู่ข้างรถม้า ก็คิดถึงความไม่ยินดีในครั้งก่อนที่เขาสั่งให้คนจับนางขึ้นรถจึงก้มหน้าลงต่ำราวกับหนูที่ถูกแมวจับจ้อง รีบตามฮูหยินผู้เฒ่าหลี่มุดเข้าไปในรถม้า แล้วพลิกเปิดมุมหนึ่งของม่านหน้าต่าง เผยเพียงดวงตากลมโตมองเขาอย่างหลบๆ ซ่อนๆ

แต่ตอนที่เขาหันกลับมามอง มุมม่านหน้าต่างนั้นก็พลันปิดลงมิดจนอากาศไม่ถ่ายเท

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in 14 วัน 14 เรื่อง

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ห้วงฝันบันดาลรัก บทที่ 65-66

บทที่ 65 ต่อสู้ กรมซือเทียน ห้องโถงรับแขกของกองเสวียนอู่ เซี่ยหงเฉินถูกเชิญเข้ามาข้างใน ชาถูกยกมาให้อย่างรวดเร็ว เขามิได...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 96-97

บทที่ 96 ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เซิ่งฮูหยินโกรธจนร่างสั่น นางรีบคุกเข่าลงที่พื้นร้องขอความเมตตาและขออภัยฮุ่ยหมิ่นเซ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 98

บทที่ 98 เมื่อคิดได้เช่นนี้ โม่เซี่ยวเหนียงก็ลุกขึ้นนั่งให้ดี ก่อนจะยกเท้าถีบฮั่วสุยเฟิงที่นอนนิ่งอยู่ข้างๆ อย่างแรง ฮั่...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ห้วงฝันบันดาลรัก บทที่ 67-68

บทที่ 67 หลบหนี เซี่ยหลิงปี้ ‘สวม’ ร่างของเซี่ยหงเฉินเดินออกจากตำหนักหลัวฝูไปอย่างเปิดเผยเช่นนี้เอง ส่วนเซี่ยหงเฉินถูกกั...

community.jamsai.com