บทที่สอง
ในเมืองเหลียวเฉิงมีของดีสามอย่าง แตงกรอบดอง เรือท้องแบน น้ำพุร้อนในหิน!
สองสิ่งแรกยังอธิบายได้ง่าย แตงกรอบดองก็คือการเอาผลแตงขนาดเท่านิ้วมือมาแช่ในน้ำเกลือที่มีแต่ในพื้นที่จนผิวเขียวมันเป็นประกาย กัดเพียงหนึ่งคำก็สามารถกินข้าวได้ถึงครึ่งชาม
และเรือท้องแบนก็คือผลงานของคุณหนูรองสกุลหลี่ ไม่เพียงมีตัวเรือที่เบา แต่ไม่ว่าจะเป็นน้ำตื้นหรือมีคลื่นใหญ่ก็สามารถล่องไปได้อย่างอิสระ เป็นของล้ำค่าในการตักตวงผลประโยชน์ของชาวประมงจริงๆ
ส่วนน้ำพุร้อนในหิน ก็คือข้อดีอีกอย่างของเมืองเหลียวเฉิง บนภูเขาเหล่าจวินเมืองเหลียวเฉิงมีน้ำพุร้อนธรรมชาติอยู่แห่งหนึ่ง ในหลุมหินธรรมชาติก้อนใหญ่สองก้อนมีน้ำพุร้อนที่ผุดออกมาจากใต้ดินมารวมตัวกัน น้ำพุร้อนนี้มีประสิทธิภาพในการรักษาอาการบาดเจ็บ เคยมีคนนอกพื้นที่มาตามคำเล่าลือว่าขอเพียงจ่ายเงินค่าธูปจำนวนมหาศาลให้แก่วัดหานเฟิงบนภูเขาเหล่าจวินก็สามารถไปแช่น้ำพุร้อนได้ครึ่งวันแล้ว
ตอนแรกที่หลี่รั่วอวี๋ตกจากหลังม้าได้รับบาดเจ็บ ไม่เพียงกระเทือนถึงสมอง แผ่นหลังก็ถูกหินคมบาดจนเป็นแผล แม้จะถูกส่งกลับคฤหาสน์มารักษาทันที แต่บาดแผลก็ยังบวมแดง ผิวขาวแต่เดิมมีบาดแผลนั้นอยู่คงไม่งาม น้ำพุร้อนในหินเหมาะกับการสมานแผลเป็นที่สุด ดังนั้นฮูหยินผู้เฒ่าหลี่จึงตั้งใจรีบพาหลี่รั่วอวี๋ไปแช่น้ำพุร้อนที่นี่ก่อนถึงกำหนดแต่งงาน
เสิ่นหรูป๋อจัดการทุกอย่างพร้อมสรรพ เขาไปติดต่อกับเจ้าอาวาสไว้ก่อน จองทั้งวัดเอาไว้ ถึงวันนั้นไม่รับแขกนอก จะได้ไม่มีผู้ใดมารบกวนหญิงสาวคฤหาสน์สกุลหลี่
หลี่รั่วฮุ่ยเพราะไม่อาจอยู่เมืองเหลียวเฉิงได้นาน หลังจากเยี่ยมน้องสาวและพูดกำชับมารดาแล้ว เมื่อวานก็รีบกลับไปแต่เช้า
ก่อนออกเดินทาง นางได้กำชับมารดาอีกครั้งว่าอย่าทำตามความต้องการของโจวอี๋เหนียงเด็ดขาด ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่แม้จะไม่คิดว่าโจวอี๋เหนียงคิดร้ายอะไร แต่คำพูดของบุตรสาวคนโตนางก็เก็บใส่ใจไว้แล้ว
ดังนั้นครั้งนี้จึงไม่ได้เรียกโจวอี๋เหนียงสองแม่ลูก เพียงแค่พาบุตรชายคนเล็กกับบุตรสาวคนรองมาแช่น้ำพุร้อนที่นี่ด้วยกัน
เพราะออกจากคฤหาสน์ ในคฤหาสน์นอกจากพ่อบ้านและบ่าวไพร่แล้ว ไม่มีเจ้านายที่เป็นบุรุษสักคน เสิ่นหรูป๋อจึงจงใจวางงานทุกอย่างแล้วคุ้มกันรถม้าของสกุลหลี่ไปที่วัดหานเฟิงเอง
บนเขานี้ไม่เหมือนที่อื่น แม้จะเป็นช่วงต้นฤดูร้อน แต่ความหนาวยังคงมีอยู่บ้าง รอจนหลี่รั่วอวี๋ลงจากรถ เสิ่นหรูป๋อก็เอาผ้าคลุมกันลมผืนบางมาคลุมร่างผอมบางของหลี่รั่วอวี๋เอาไว้
คงเพราะวันนี้เสิ่นหรูป๋อขยันกว่าที่ผ่านมา และทุกครั้งล้วนเอาของเล่นที่ทำให้หลี่รั่วอวี๋สนใจมา กิริยาก็ล้วนมีมารยาท ทำให้นางลืมเรื่องที่เขาเคยล่วงเกินนางไป ไม่ยู่ปากหลบเลี่ยงเขาเหมือนเมื่อหลายวันก่อน
เสิ่นหรูป๋อผูกเชือกผ้าคลุมให้หลี่รั่วอวี๋เสร็จแล้วก็มองใบหน้าเล็กของนางที่ส่งยิ้มให้เขาด้วยความสงสาร จากนั้นก็หมุนตัวไปพูดว่า “ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่ สินค้าชุดใหม่ที่เพิ่งมาถึงในร้าน ต้องให้ข้ากลับไปนับจำนวนรับของด้วยตัวเอง ไม่อาจอยู่เป็นเพื่อนฮูหยินกับรั่วอวี๋ได้แล้ว ข้าจะให้เสิ่นโม่อยู่ที่นี่ ถ้ามีเรื่องอะไรก็ให้เขามาแจ้งข้าได้เลย”
ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่ยิ้มรับคำ รู้สึกว่ามีลูกเขยที่ได้ดั่งใจเช่นนี้เหมือนมีบุตรชายมาครึ่งตัว
ระหว่างร่องหินสองแห่งบนเขานี้มีฉากหินกั้น หล่งเซียงกับพวกสาวใช้คอยปรนนิบัติหลี่รั่วอวี๋เติมยาสมุนไพรลงในน้ำอยู่ข้างๆ