หลี่รั่วอวี๋พลิกเปิดม่านเขียว มองไปโดยรอบอย่างงุนงง นับจากฟื้นขึ้นจากการหมดสติไปหนึ่งเดือนเต็ม ทุกครั้งที่ตื่นลืมตาตอนเช้า สมองจะถูกความว้าวุ่นและความว่างเปล่ามาแทนที่ ความรู้สึกเงียบเหงาไร้ที่พึ่งนั้นไม่รู้ว่าจะบรรยายอย่างไร ก็เหมือนตอนนี้ที่ถูกความมืดปกคลุม ความเย็นจากพื้นหินทะลุผ่านใต้ถุงเท้าส่งผ่านไปถึงหัวใจที่ว่างเปล่านั้น
นางกะพริบตาช้าๆ ท่ามกลางความมืดแล้วเริ่มลุกขึ้นคลำทาง เดินเท้าเปล่าออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ
ค่ำคืนที่วัดบนภูเขาในพุ่มดอกไม้เต็มไปด้วยหิ่งห้อยที่มีแสงสว่างดวงน้อยๆ กำลังเต้นรำภายใต้แสงจันทร์ และท่ามกลางแสงจันทร์ นางสวมชุดนอนตัวบางหลวมโคร่งปล่อยผมสยายเดินไปในลานเรือน
บนภูเขานี้กลับมีเสียงสะท้อนอย่างชัดเจน จนสามารถได้ยินเสียงพูดคุยเบาๆ ของบ่าวที่เฝ้ายามหน้าประตูเรือนจากที่ไกลๆ
นับจากนางฟื้นขึ้นมาก็ชอบอยู่คนเดียว จึงปลีกตัวจากบ่าวไพร่ หมุนตัวเดินไปหลังเขาที่ติดกับตัวเรือนอย่างช้าๆ
เมื่อเดินเข้าไปใกล้ตามสัญชาตญาณแล้วก็ได้ยินเสียงน้ำไหลมาจากบนเขา… หลี่รั่วอวี๋เม้มริมฝีปากที่แห้งผาก ยื่นมือเกาะไปบนผนังผาแล้วปีนขึ้นไปราวกับแมวน้อยที่คล่องแคล่วตัวหนึ่ง จากนั้นก็เดินไปบนทางหินกรวดที่มีดอกกล้วยไม้ปกคลุมตามเสียงน้ำนั้นไป ไม่รู้ว่าเดินไปนานเท่าใด ตอนที่เสียงน้ำเข้ามาใกล้ เลี้ยวผ่านหินใหญ่ก้อนหนึ่ง ด้านหลังเป็นสถานที่อาบน้ำที่เงียบสงบแห่งหนึ่ง แตกต่างกับสถานที่อาบน้ำของสกุลหลี่ในตอนเช้า ที่นี่เหมือนจะสร้างขึ้นชั่วคราว ถังไม้ใบใหญ่รองรับน้ำที่ใช้กระบอกไม้ไผ่ดึงน้ำลงมาจากที่สูง
และในตอนนี้คนที่หลับตาแช่น้ำอยู่ในถังอาบน้ำคือชายที่มีรูปร่างสูงใหญ่… ชายผมขาว
เห็นผมที่สยายอยู่บนไหล่ที่มีมัดกล้ามแข็งแรงไม่ใช่เพียงแค่ขาว แต่มีสีเงินที่ทำให้ตาพร่า ส่องประกายเย็นชาอยู่ภายใต้แสงจันทร์ ตัดกับกล้ามเนื้อแน่นตึงสีแทนนั้นอย่างประหลาด
หากจะบอกว่าเป็นเพราะอายุมากจึงมีผมขาวก็ว่าไม่ได้ ดูคิ้วที่เรียวงาม รูปโฉมที่งามสง่านั้นแล้ว ไม่เหมือนคนแก่เลย แต่เหมือนชายงามที่อยู่ในวัยแรกรุ่นมากกว่า…
ไม่รู้เพราะเหตุใด หลี่รั่วอวี๋รู้สึกว่าชายหนุ่มใต้แสงจันทร์ที่น่าประหลาดนั้นน่ามองเหลือเกิน… ดังนั้นจึงอดใจไม่ไหวเดินเข้าไปอีกหลายก้าว แต่ตอนที่เท้าเปลือยเปล่าของนางเหยียบไปบนกิ่งไม้ ชายหนุ่มที่หลับตาอยู่ตลอดก็ลืมตาขึ้นทันที ในดวงตาเฉี่ยวราวหงส์ราวกับแฝงด้วยประกายงดงามของผลึกแก้ว…
แววตาประหลาดคู่นั้น สีของนัยน์ตาทั้งสองข้างไม่เหมือนกันนัก ข้างหนึ่งเป็นสีดำ แต่นัยน์ตาอีกข้างหนึ่ง… กลับเป็นสีแดงจางๆ ราวทับทิม
ค่ำคืนบนเขาเช่นนี้ หากเป็นคนอื่นมาเห็นชายหนุ่มนัยน์ตาปีศาจผมขาวผู้หนึ่งอาบน้ำ เกรงว่าคงสงสัยว่าเป็นปีศาจในเขา ตกใจจนล้มกลิ้งหนีอย่างทุลักทุเลไปแล้ว ทว่าคนที่ลอบมองชายหนุ่มอาบน้ำในตอนนี้กลับเป็นคนปัญญาอ่อนสมองเสื่อมผู้หนึ่ง เมื่อชายหนุ่มผู้นั้นมองมาด้วยสายตาเย็นเยือก นางยังไม่รู้จักหลบเลี่ยง และยังคงเหม่อมองชายหนุ่มดังเดิม
ในตอนนี้เอง คมกระบี่เย็นเยือกก็มาพาดอยู่บนลำคอระหงของหลี่รั่วอวี๋แล้ว
“อย่าขยับ!”
ไม่รู้ว่ามีชายฉกรรจ์ในชุดทะมัดทะแมงผู้หนึ่งโผล่เอากระบี่มาจ่อที่คอหลี่รั่วอวี๋ตั้งแต่เมื่อใด กระบี่ที่แหลมคมกรีดผิวเนียนนั้นเล็กน้อยแล้ว ความเจ็บที่ส่งมาทำให้ในดวงตาโตของนางมีน้ำตารื้นขึ้นมาอย่างทนไม่ไหว…
ในตอนนี้ชายฉกรรจ์อีกคนก็ยกตะเกียงเล็กดวงหนึ่งขึ้นมา ก่อนจะขยับมาทางหลี่รั่วอวี๋ แสงไฟส่องไปบนใบหน้าของนาง ส่องให้เห็นใบหน้าซีดขาวไร้เรี่ยวแรงนั่น
ชายผมขาวผู้นั้นเห็นหน้าตาผู้บุกรุกอย่างชัดเจนแล้ว ดวงตาที่ฉายประกายสีแดงจางๆ แต่เดิมดูเหมือนเคร่งเครียดขึ้นเล็กน้อย เมื่อแสงสีแดงสว่างขึ้น ดวงตาปีศาจคู่นั้นก็ยิ่งทำให้คนไม่กล้าจ้องมองโดยตรง เขายกมุมปากบางขึ้นพลางพูดขึ้นเสียงเข้ม “คุณหนูรอง ไม่เจอกันเสียนานเลย!”