หลี่รั่วอวี๋กะพริบดวงตาที่มีน้ำตา เดิมในใจรู้สึกกลัวและกำลังจะร้องไห้ออกมา แต่คิดไม่ถึงว่าชายหนุ่มผมขาวจะเอ่ยเรียกนางขึ้นมาทันใด นับจากนางฟื้นขึ้นมา บ่าวไพร่สาวใช้ข้างกายล้วนเรียกนางว่า ‘คุณหนูรอง’ ดูแลเอาใจนางเป็นอย่างดี ตอนนี้ได้ยินชายหนุ่มเรียกเช่นนี้ เห็นได้ว่าเขารู้จักนาง ไม่มีทางทำร้ายนาง
เมื่อคิดเช่นนี้ หลี่รั่วอวี๋จึงฉีกยิ้มยิงฟันอย่างขลาดกลัว
แต่รอยยิ้มแสดงความเป็นมิตรนี้พอเข้าไปในตาของชายหนุ่มผู้นั้นกลับเหมือนการท้าทาย ดวงตาของเขาหรี่ลงเล็กน้อย ยืนขึ้นจากถังไม้อย่างช้าๆ พร้อมกับเสียงน้ำหยด เผยให้เห็นมัดกล้ามที่แข็งแกร่ง แต่บนร่างสูงใหญ่แข็งแรงนั่นมีบาดแผลสดใหม่เต็มไปหมด
เห็นทีเขาคงได้ยินชื่อเสียงของน้ำพุร้อนที่นี่ จึงมาแช่น้ำเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บเช่นกัน
ภายใต้แสงจันทร์ ชายหนุ่มผู้นี้แม้จะสวมเสื้อคลุมอาบน้ำ แต่เมื่อเสื้อคลุมอาบน้ำเปียกน้ำก็ดูเหมือนไม่ได้สวมอะไรเลย หากเป็นหญิงสาวธรรมดาทั่วไป ตอนนี้คงจะกรีดร้องเลื่อนสายตาหนีแล้ว แต่หญิงสาวที่ถูกคมกระบี่จ่อเอาไว้นี้ กลับยังคงเบิกดวงตาโต จ้องตรงไปใต้ท้องน้อยของเขา…
ชายหนุ่มผมขาวอ้าขายืนนิ่ง มองดูท่าทางของหลี่รั่วอวี๋ แล้วพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “ความกล้าของคุณหนูรองไม่ได้ลดลงเลย เดิมทีคิดจะเห็นแก่พระมาตุลาปล่อยเจ้าไปสักครั้ง แต่ในเมื่อเจ้ามาถึงที่เอง ก็ได้แต่โทษชะตาชีวิตแล้ว…”
เขาพูดพลางยื่นมือไปรับมีดสั้นวาววับเล่มหนึ่งที่องครักษ์ด้านข้างยื่นมาให้ คมมีดแหลมนั้นกรีดท้องตัดไส้ หรือควักลูกตาล้วนเป็นอาวุธที่เหมาะมือ
ชายฉกรรจ์ที่เดิมทีคุมตัวหลี่รั่วอวี๋เอาไว้ก็คลายกระบี่ในมือ ปล่อยให้หญิงสาวที่ไม่มีผู้ใดประคองล้มลงคุกเข่าบนพื้น ผู้เป็นนายเสียเชิงมามากเพราะหญิงสาวที่ไร้เรี่ยวแรงนางนี้ ตอนนี้สามารถคลายความคับแค้นใจได้อย่างไม่ง่ายนัก พวกเขาที่เป็นผู้ใต้บัญชาย่อมต้องเห็นดีด้วย ไม่ขัดขวางความสุขของผู้เป็นนาย
หลี่รั่วอวี๋คุกเข่าอยู่บนพื้น เจ็บจนร้องครางเบาๆ แต่นางคิดว่าเป็นเพราะชายหนุ่มผมขาวผู้นี้เอ่ยปาก คนเลวด้านหลังจึงปล่อยมือ ดังนั้นเขาต้องเป็นคนดีแน่นอน ในตอนนี้นางจึงช้อนตามองไปทางชายหนุ่มผมขาวที่มองนางอย่างเย็นชาอยู่ตลอด รู้สึกเพียงว่าดวงตาของเขาคู่นั้นน่าดูมากยิ่งขึ้น แต่เขาได้รับบาดเจ็บมากมายเช่นนี้คงเจ็บมากแน่นอน และคงเจ็บยิ่งกว่าบาดแผลบนลำคอของนางด้วย
ดวงตางดงามอย่างนั้น หากยิ้มออกมาต้องน่าดูยิ่งขึ้น… หลี่รั่วอวี๋ดวงตาเปล่งประกายขึ้นทันใด นึกถึงการเล่นที่เพิ่งเรียนรู้เมื่อตอนเช้าจึงยืนขึ้นอย่างช้าๆ
หลายวันมานี้นางมีสหายใหม่เพิ่มขึ้นไม่น้อย เข้ากับเพื่อนเล่นหลายคนของน้องชายได้ดี จึงเกิดความคิดอยากคบสหายขึ้นมาบ้าง
ในตอนนี้นางจึงยิ้มขัดเขินให้กับชายหนุ่มผมขาว สองมือบิดแขนเสื้อ แล้วขยับไปทางชายหนุ่มอย่างช้าๆ
ชายหนุ่มผมขาวดูเหมือนคาดไม่ถึงที่นางไม่หลบหลีก แต่เดินเข้ามาหาตนเอง แววตานั้นเปล่งประกาย ลดมือที่ถือมีดคมลง อยากดูว่านางคิดจะทำอะไร
เห็นเพียงหญิงสาวผอมบางในที่สุดก็ก้มหน้าเดินมาถึงตรงหน้าเขา ใบหน้าเล็กน่ารักเงยขึ้นเล็กน้อย ยิ้มให้เขาอย่างไร้เดียงสา โน้มตัวยื่นมืองามข้างหนึ่งออกมา นิ้วโป้งกับนิ้วชี้เกี่ยวกัน แล้วยื่นไปที่หว่างขาของเขาช้าๆ สอดผ่านเสื้อคลุมอาบน้ำ จากนั้นก็ดีดนิ้วทันที “คาบ…คาบลูกเจี๊ยบไป…”
เคร้งๆ… ที่ดังขึ้นพร้อมกับเสียงหัวเราะใสแจ๋วของหญิงสาว ก็คือเสียงดาบและกระบี่ที่ตกลงพื้น
ชายหนุ่มผมขาวช้อนดวงตาแดงก่ำขึ้นช้าๆ มองเห็นทหารฝีมือดีหลายนายของตนเองถือดาบโลหะไว้ไม่อยู่ อ้าปากกว้าง เบิกตาโตเท่าไข่ไก่หัวเราะขัน
ไม่โทษเหล่าผู้ใต้บัญชาที่น้อยนักจะเห็นผู้เป็นนายเสียหน้า… คุณหนูรองหลี่ผู้นี้เป็นบ้าไปแล้วหรือ กล้ามาหยอกล้อผู้มีใบหน้าปีศาจผีเห็นยังหวาดหวั่นจนตัวสั่นทั้งที่ไม่หนาวผู้นี้ และยังใช้วิธีน่าอับอายแบบนั้นด้วย ข้อมือปลายนิ้วของหญิงอ่อนแอผู้หนึ่งสามารถดีดออกดึงกลับได้อย่างเป็นธรรมชาติ ลงมือรวดเร็วจนไม่ทันตั้งตัว…