หลี่เสวียนเอ๋อร์พูดหนักแน่นว่า “ไม่ใช่เสวียนเอ๋อร์ใจแคบ แต่ข้าไม่ใช่พี่รองที่แสนเย็นชาผู้นั้น ในใจมีเพียงกิจการบรรพชนกับผลประโยชน์ทางการค้าของสกุลหลี่ จนลืมหน้าที่ความเป็นหญิง ชอบเปิดเผยหน้าตานอกบ้าน ข้ายินดีเป็นศรีภรรยาผู้หนึ่ง ติดตามอยู่เบื้องหลังคอยสนับสนุนให้สามารถโบยบินสูงขึ้น แต่ไม่รู้ว่าท่านจะยินดีทำความปรารถนานี้ของเสวียนเอ๋อร์ให้เป็นจริง แต่งเสวียนเอ๋อร์เข้าสกุลเสิ่นอย่างเปิดเผยหรือไม่”
นิ้วยาวของเสิ่นหรูป๋อเคาะแท่นฝนหมึกข้างโต๊ะเบาๆ บนใบหน้าแม้จะมีรอยยิ้ม แต่กลับไปไม่ถึงดวงตาแม้แต่น้อย “เสวียนเอ๋อร์กำลังข่มขู่ข้าอยู่หรือ”
หลี่เสวียนเอ๋อร์ลุกขึ้นเดินมาข้างกายเขา ทรุดตัวคุกเข่าข้างขาของเขา ใช้แก้มแตะเบาๆ ไปบนหลังมือของเขาที่วางอยู่บนตักพลางพูดเสียงอ่อนโยน “เสวียนเอ๋อร์ไม่ได้ข่มขู่ แค่อยากขอให้คุณชายรองเสิ่นแต่งข้าเป็นภรรยา ก่อนหน้านี้เพราะมีพี่รอง เสวียนเอ๋อร์จึงไม่กล้าทำให้คุณชายรองลำบากใจ แต่ตอนนี้ไม่เหมือนที่ผ่านมา พี่รองกลายเป็นแบบนี้แล้ว ไม่เห็นความเป็นไปได้ที่จะกลับมาดีเช่นเดิม ท่านเป็นคนมีปณิธานยิ่งใหญ่ อนาคตในราชสำนักต้องกุมอำนาจใหญ่แน่นอน ตอนนี้พี่รองช่วยอะไรไม่ได้ ภายหน้าหากคุณชายรองเลื่อนตำแหน่งเป็นขุนนางใหญ่ ไม่กลายเป็นที่น่าขันสำหรับเพื่อนร่วมงานไปหรือ แต่ถ้าไม่แต่งงานกับพี่รอง ก็จะกลายเป็นคนไม่ซื่อสัตย์ ไม่มีคุณธรรมไป สู้เอาแบบนี้ดีกว่า ข้ากับพี่รองไม่แบ่งเอกหรืออนุ แต่งเข้าสกุลเสิ่นพร้อมกันด้วยฐานะเสมอกัน เช่นนี้เท่ากับเป็นเรื่องเล่างดงามที่ท่านรักษาน้ำใจและคุณธรรมทั้งสองอย่างไว้ได้ครบถ้วนไม่ใช่หรือไร”
หลี่เสวียนเอ๋อร์พูดเรื่องเก่าขึ้นมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้หมากของนางเปลี่ยนจากลูกในท้องมาเป็นสุดยอดเคล็ดวิชาของสกุลหลี่ น้ำหนักเทียบกันไม่ได้เลย ตอนแรกนางยินดีแต่งเป็นอนุเข้าบ้านสกุลเสิ่น แต่กลับไม่สมปรารถนา ทั้งยังถูกพี่ใหญ่สกุลหลี่พูดฉีกหน้าอีก
เดิมคิดว่าเสิ่นหรูป๋อจะเห็นแก่ลูกในท้อง คิดหาหนทางที่ดีให้นาง แต่ปฏิกิริยาของชายหนุ่มทำให้นางผิดหวังมาก แม้แต่ความละอายใจน้อยนิดที่มีต่อพี่รองอยู่แต่เดิมก็ถูกบดจนแหลกเป็นผุยผง
มาถึงวันนี้ นางไม่สนใจผู้ใดอีกแล้ว ต้องวางแผนให้ดีเพื่อตนเอง ปฏิกิริยาของชายหนุ่มในตอนนี้พิสูจน์แล้วว่าความคิดในตอนแรกของนางที่เก็บไม้ตายอันนี้ไว้ให้ตนเองเป็นเรื่องที่ถูกต้องอย่างมาก! นางรู้จักเสิ่นหรูป๋อดี เขาเป็นชายที่มีปณิธานแรงกล้า และเหยื่อที่นางยื่นไปในตอนนี้ เขาไม่อาจต่อต้านได้แน่นอน!
ตอนนี้นางหลี่เสวียนเอ๋อร์ไม่มีทางเป็นอนุอีกแล้ว นางจะเป็นภรรยาเอกที่มีฐานะเทียบเท่ากับพี่รอง!
เสิ่นหรูป๋อลังเลใจขึ้นมาจริงดังคาด พูดตามจริงแล้ว เพราะเรื่องเรือนี้ทำให้เขาปวดหัวมานานมากแล้ว เรื่องวันนี้ที่หลี่เสวียนเอ๋อร์บอกว่านางได้ตำราเรือมาแล้ว เป็นการเปิดเส้นทางการอยู่รอดตรงหน้าเขาอย่างไม่ต้องสงสัย…
เขาจ้องมองใบหน้าอมยิ้มของหลี่เสวียนเอ๋อร์ ปกปิดความรังเกียจในใจเอาไว้อย่างระมัดระวัง ก่อนจะประคองนางขึ้นมากอด จากนั้นพูดข้างหูนาง “เอ๋อหวงหนี่ว์อิงเป็นเรื่องที่ดี ถ้าเสวียนเอ๋อร์ยินดี ข้าจะไม่ยินดีทำได้อย่างไร เสวียนเอ๋อร์จะได้ตามที่หวังแน่นอน…”
ตอนที่หลี่เสวียนเอ๋อร์จะกลับไป ได้พูดคำมีความนัยแฝงกับเสิ่นหรูป๋อว่า “คุณชายรองหมายปองในตัวพี่รองข้ามานานแล้ว เสวียนเอ๋อร์ก็รู้ดี แต่รีบร้อนเช่นนี้ไม่เหมือนตัวท่านที่เป็นคนสุขุมมาตลอด ท่านใช้ข้ออ้างว่าเพื่อคุ้มครองพี่รองถึงได้คุมตัวนางเอาไว้ ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่ร้อนใจจนนอนไม่หลับทั้งคืน นางเป็นแม่บ้านแม่เรือนไม่รู้ว่าพี่รองล่วงเกินฉู่ซือหม่าเอาไว้มาก ในใจเห็นเรื่องชื่อเสียงเป็นเรื่องที่สำคัญมากกว่าอะไร ถ้าข้าเป็นคุณชายรอง จะรีบส่งพี่รองกลับไป สิ่งที่ทำมาจะได้ไม่สูญเปล่า!”
พูดจบนางก็เหลือบมองเขาแวบหนึ่ง แล้วให้สาวใช้อิงเถาประคองขึ้นรถม้าไป
เสิ่นหรูป๋อยืนอยู่กลางลานบ้าน รอรถม้านั้นเคลื่อนไปไกลแล้วจึงค่อยๆ หมุนตัวกลับ ความโกรธบนใบหน้าหล่อเหลาของเขาในตอนนี้ไม่ได้ปิดบังไว้อีกต่อไป
แต่คนที่ใจเขาโกรธไม่ใช่คนที่เพิ่งจากไป แต่เป็น…คนที่ถูกขังอยู่ในห้องที่เรือนด้านหลัง ภาพผังนี้วาดเสร็จเมื่อสี่เดือนก่อน หลี่รั่วอวี๋เป็นคนมอบให้กับมือเขาเอง แต่จากคำพูดของหลี่เสวียนเอ๋อร์วันนี้ ภาพผังไม่เพียงไม่สมบูรณ์ ยังมีข้อบกพร่องมากมายอีกด้วย… ตอนนั้นนางยังไม่รู้เรื่องของเขาเลยมาปรึกษาเรื่องเตรียมสินสอดอย่างมีความสุข… แต่นางด้านหนึ่งยิ้มสดใสแสดงออกถึงความสุขของว่าที่เจ้าสาวที่รอคอยการแต่งงาน อีกด้านหนึ่งลอบคอยระแวงระวังและลอบทำร้ายเขาอย่างนั้นหรือ
หลี่รั่วอวี๋ ที่แท้เจ้าเปลี่ยนใจไปนานแล้วหรือไร คิดจะเล่นงานข้าเสิ่นหรูป๋อจนถึงขั้นใดกัน