ทว่าข่วนจนเป็นเช่นนี้เสิ่นหรูป๋อกลับไม่ขุ่นไม่เคือง เพียงขยับแขนเล็กน้อย ไม่ได้หลบหลีก ปล่อยให้หลี่รั่วอวี๋ข่วน ปากก็พูดอย่างอ่อนโยน “รั่วอวี๋เด็กดี เมื่อครู่เพิ่งหกล้ม ไม่รู้ว่าบาดเจ็บถึงเอ็นถึงกระดูกหรือไม่ รอข้าอุ้มเจ้าเข้าห้อง ตามท่านหมอมาตรวจอาการสักหน่อย เด็กดี อีกครู่จะปล่อยเจ้าลงนะ…”
ว่ากันว่าเมื่อตกทุกข์จะเห็นความจริงใจ สองเดือนมานี้ ไม่ว่าหลี่รั่วอวี๋จะหมดสติไม่ยอมฟื้นหลังตกจากหลังม้า หรือเมื่อฟื้นแล้วก็กระเทือนถึงสมอง ทั้งจำคนไม่ได้และไม่พูดจา เสิ่นหรูป๋อผู้นี้ล้วนไม่ทอดทิ้ง และไม่แสดงท่าทางรังเกียจแต่อย่างใด
ผู้ใดบ้างจะไม่รู้ว่าเสิ่นหรูป๋อผู้นี้มีความสามารถทั้งบุ๋นบู๊ และมีความสง่างาม รูปโฉมหล่อเหลาเรียกได้ว่าเป็นชายงาม หากไม่ใช่เพราะหลายปีมานี้สกุลเสิ่นตกต่ำลงมาก บุตรชายสกุลเสิ่นที่บรรพบุรุษเคยเป็นขุนนางถึงขั้นอัครเสนาบดีคงไม่ยอมแต่งเข้าสกุลหลี่แน่นอน
เดิมทีบ่าวไพร่ในคฤหาสน์ก็เป็นเหมือนฮูหยินผู้เฒ่าหลี่ ตอนแรกที่ได้ยินว่าคุณชายรองเสิ่นยอมรับเงื่อนไขสุดโหดของคุณหนูก็ล้วนติดใจสงสัยว่าคุณชายรองเสิ่นหรูป๋อที่ชะตากำหนดให้ไม่อาจสืบทอดสกุลเสิ่นอันรุ่งเรือง ซ้ำยังไม่ติดอันดับในการสอบที่เมืองหลวงจะพุ่งเป้ามาที่ทรัพย์สมบัติสกุลหลี่จึงยอมแต่งเข้าสกุลหลี่
แต่หลายปีมานี้ เห็นคุณชายลูกขุนนางผู้นี้ที่เดิมทีไม่รู้เรื่องการค้าขายเลย ทำกิจการสาขาร้านหลายแห่งได้รุ่งเรืองภายใต้การชี้แนะของคุณหนูของตน พลิกสภาพเลวร้ายของสกุลเสิ่นที่มีรายได้ไม่พอรายจ่ายจนต้องขายทรัพย์สินของบรรพบุรุษได้อย่างสิ้นเชิง เพียงพอจะทำให้เห็นว่าคุณชายรองผู้นี้ไม่ใช่ลูกเศรษฐีที่ทำอะไรไม่เป็น
ได้ยินว่าคุณชายใหญ่สกุลเสิ่นที่ถูกลดตำแหน่งจะฟื้นตัวได้แล้ว เพราะได้รับความรักชื่นชมจากสกุลไป๋ จึงขึ้นตำแหน่งกลับเข้าเมืองหลวงตามเดิม
สกุลเสิ่นใกล้จะฟื้นคืนอำนาจดังเดิมแล้ว ในตอนนี้คุณหนูรองกลับป่วยร้ายแรง หากคุณชายรองเสิ่นล้มเลิกการแต่งงาน ถอนการหมั้นหมายที่เดิมไม่ค่อยเหมาะสมกันอยู่แล้ว คนรอบข้างก็ไม่อาจพูดอะไรได้
แต่คุณชายรองเสิ่นกลับมาดูอาการป่วยของคุณหนูรองแทบทุกวัน มีความรักลึกซึ้งไม่คิดทอดทิ้ง ทำให้คนรู้สึกซาบซึ้งใจ แม้คุณหนูรองจะโชคร้าย แต่กลับได้ว่าที่สามีที่มีน้ำใจและคุณธรรมเช่นนี้ ก็นับว่ามีครึ่งชีวิตที่เหลือนั้นมั่นคงแล้ว…
คิดถึงตรงนี้ หล่งเซียงก็ขอบตาแดงขึ้นมาอีกครั้ง ทนไม่ไหวจนน้ำตาไหลแทนคุณหนูรองไปหลายหยด
รอจนเสิ่นหรูป๋ออุ้มหลี่รั่วอวี๋เข้าเรือนชั้นใน วางตัวนางลงบนเตียงแล้ว ดวงตาโตของหลี่รั่วอวี๋ก็แดงก่ำ คว้าหมอนนุ่มปักลายบนเตียงทุ่มใส่เสิ่นหรูป๋ออย่างไม่ไยดี
เสิ่นหรูป๋อไม่ได้หลบหลีก ปล่อยให้นางทุบตีไม่หยุด ในใจกลับคิดว่า… นิสัยนี้ยังคงไม่เปลี่ยนไปเลย ยังคงแข็งกร้าวไม่ยอมถูกทำร้ายแม้แต่น้อยเช่นเดียวกับตอนก่อนจะได้รับบาดเจ็บ
หล่งเซียงทนดูไม่ไหวจึงรีบไปขวางหน้าเสิ่นหรูป๋อ พูดปลอบเสียงอ่อนโยนอยู่ครู่ใหญ่ จึงทำให้หลี่รั่วอวี๋สงบอารมณ์ลงได้ ม้วนผ้าห่มแพรบนเตียง ปล่อยให้ผมยาวคลอเคลียผืนผ้า ขดตัวอยู่ตรงมุมเตียง
ในตอนนี้เอง บ่าวก็มารายงานเสิ่นหรูป๋อว่าฮูหยินผู้เฒ่าหลี่กลับคฤหาสน์มาแล้ว