เมื่อกลับถึงเมืองซูเฉิง ท่านหญิงไหวอินออกมาต้อนรับน้องชายน้องสะใภ้ด้วยตนเอง พอเห็นหลี่รั่วอวี๋ร้องไห้ตาแดงก็พูดด้วยรอยยิ้ม “เหตุใดยังมีน้ำตานองอยู่ล่ะ จิ้งเฟิงรังแกเจ้าหรือ ข้าตีเขาดีหรือไม่”
หลี่รั่วอวี๋ส่ายหน้าอย่างน่ารักพลางพูด “เขาบอกว่าอีกสองสามวันจะพารั่วอวี๋ไปขี่ม้า…ยังมีวัวแพะอีกกองใหญ่”
ท่านหญิงไหวอินยิ้มตบหลังมือของนางเบาๆ แล้วถามฉู่จิ้งเฟิง “ทำไมหรือ เจ้าจะจากไปแล้วหรือ จะไม่อยู่ต่ออีกสักนิดหรือไร”
ฉู่จิ้งเฟิงส่ายหน้า “สกุลไป๋เดิมทีก็หวาดกลัวข้าอยู่แล้ว ถ้าอยู่นานจะยิ่งเกิดความเปลี่ยนแปลงได้ง่าย สู้รีบกลับเมืองโม่เหอดีกว่า ยิ่งไปกว่านั้น ข้ายังพาคนสำคัญไปผู้หนึ่งด้วย…”
พอพูดเช่นนี้ กวนป้าที่ยืนอยู่ด้านข้างได้ฟังรายงานจากองครักษ์แล้วก็พูดเสียงเบา “นายท่าน เอาตัวคนมาได้แล้ว อีกสองวันก็เดินทางออกนอกด่านได้แล้ว”
ฉู่จิ้งเฟิงพยักหน้า ท่านหญิงไหวอินฟังอยู่ด้านข้างก็รู้ดีเช่นกัน จึงยิ้มแล้วกล่าว “สกุลไป๋เสียเงินก้อนใหญ่ไปกับการต่อเรือรบ เจ้าไปถอนฟืนใต้กระทะ แม้แต่คนผู้นั้นก็ไม่เหลือให้พวกเขา ช่างเจ้าเล่ห์เหลือเกินจริงๆ”
ฉู่จิ้งเฟิงสบถเสียงเย็นชาพลางเอ่ย “ถ้าไม่เพราะคิดว่าเงินก้อนใหญ่นั้นเป็นของชาวเมืองเช่นกัน ก็จะรอให้พวกเขาต่อเรือรบเสร็จก่อนแล้วค่อยเปิดเผยความจริง ความมักใหญ่ใฝ่สูงของพระมาตุลาไป๋ไม่น้อยเลย สงครามทางเหนือเพิ่งสงบลง ก็คิดต่อเรือรบโดยไม่สนใจคำค้าน ต้องให้บทเรียนเขาเสียบ้าง ให้เขาสงบลงบ้างจึงจะดี”
หลี่รั่วอวี๋ฟังไม่เข้าใจว่าพวกเขาคุยอะไรกัน สนใจแต่เล่นเรือเล็กในมือของตนเองอยู่ข้างๆ แล้วตามพวกหล่งเซียงกลับห้องไป เรือเหล่านี้คนงานเรือเก่าแก่ผู้หนึ่งให้มาตอนไปที่อู่เรือเมื่อวาน มีเต็มหนึ่งหีบใหญ่ เดิมทีคนงานเรือผู้นี้จะทำให้หลานชายเล่น ผลปรากฏว่าเห็นคุณหนูรองหลี่จ้องเรือจำลองที่วางอยู่บนชั้นไม่วางตา จึงมอบเรือหีบนี้ให้คุณหนูรองทั้งหมด
พวกเขาคนงานเรือเก่าแก่เหล่านี้เห็นหลี่รั่วอวี๋ตั้งแต่เด็กจนโต แม้จะเป็นบุตรสาวของนายจ้าง แต่ปกติจะเข้าหาคนอื่นอย่างไม่วางท่า ตอนเพิ่งเริ่มเดินได้ก็มาเล่นที่อู่เรือกับนายท่านหลี่ ตอนนั้นนางก็เป็นเช่นนี้ ถือเรือจำลองเอาไว้ไม่ปล่อย…
ตอนที่ออกจากอู่เรือ เห็นหลี่รั่วอวี๋ฉีกยิ้มไร้พิษภัยให้พวกเขาราวกับเด็ก คนงานเก่าแก่หลายคนก็ร้องไห้ คุณหนูรองหลี่ที่พวกเขารักนับถือวันนี้กลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว จะไม่ให้คนรู้สึกปวดใจได้อย่างไร
หลี่รั่วอวี๋กลับไม่รับรู้ถึงความปวดใจของผู้อื่น กลับถึงห้องก็นอนคว่ำหน้าเล่นอยู่บนพื้นห้องหอ
ซูซิ่วกลัวว่าฮูหยินน้อยจะได้รับไอเย็น จึงสั่งคนไปยกพรมขนหนาม้วนหนึ่งที่ทางซีอวี้ส่งมาบรรณาการจากคลังเก็บของส่วนตัวท่านหญิงไหวอินมาปูไว้บนพื้นหน้าเตียง ให้ฮูหยินน้อยได้นอนเล่น
หล่งเซียงล้างผลหลี่ หวานมาถ้วยหนึ่ง กลัวว่าคุณหนูจะเผลอกลืนเม็ดลงคอ จึงใช้มีดไผ่เล็กๆ คว้านเม็ดออก จากนั้นก็คลุกน้ำตาลกรวดก่อนจะเอามาให้กิน
หลี่รั่วอวี๋กึ่งเอนตัวนอนบนพรมนุ่ม ใช้มือหยิบผลหลี่ขึ้นมากิน จากนั้นก็แกะเรือจำลองนั้นจนหลุดกระจัดกระจาย เพราะเล่นของเล่นเป็นประจำ จึงทำให้หลี่รั่วอวี๋ฟื้นตัวได้ไม่เลว จากตอนแรกที่กินน้ำมักจะถือถ้วยได้ไม่มั่น ถึงตอนนี้สามารถประกอบเรือเล็กที่แกะหลุดเหล่านี้ให้เป็นเหมือนเดิมได้แล้ว เพียงแค่บางครั้งมือจะสั่นอยู่บ้าง ทำให้เสียบเสากระโดงเรือผิดตำแหน่งจนหักเป็นสองท่อน
หลี่รั่วอวี๋มองดูเรือที่ซ่อมกลับเหมือนเดิมไม่ได้อีกแล้วก็ให้รู้สึกรำคาญใจ จึงออกแรงขว้างเรือที่ประกอบได้เพียงครึ่งหนึ่งทิ้งไป
เรือน้อยขว้างใส่ตัวฉู่จิ้งเฟิงที่เพิ่งเดินเข้ามา ถูกเขารับเอาไว้ได้พอดี
“ไม่ได้ดั่งใจก็ขว้างปาข้าวของหรือ ไปเรียนธรรมเนียมนี้มาจากที่ใดกัน” เสียงพูดของชายหนุ่มทุ้มต่ำ ในดวงตาเปล่งประกายที่น่ากลัว
หลี่รั่วอวี๋แม้จะโง่เขลาทึ่มทื่อ แต่ดูสีหน้าเก่งที่สุด ตอนที่เขาตีหลังมือนางก็มีสีหน้าน่ากลัวแบบนี้เช่นกัน นางจึงก้มหน้าลงแล้วซ่อนมือไว้ด้านหลัง
ฉู่จิ้งเฟิงย่อมเห็นกิริยาเล็กน้อยนี้ แต่บนสีหน้ากลับไม่อ่อนลง เขามองดูบนพรมสูงค่าที่เปื้อนน้ำหวานจากผลหลี่คลุกน้ำตาล เหยียบแล้วพื้นรองเท้ารู้สึกเหนียว อกเสื้อของนางเปื้อนเป็นดวงๆ ดูเลอะเทอะเป็นอย่างมาก
หลี่รั่วอวี๋ฟังคำพูดเข้าใจ แม้ความเข้าใจจะมีจำกัดราวกับเด็กเล็ก แต่หากเพราะนางป่วยจึงละเลยเรื่องนี้ไป เกรงว่าจะยิ่งไม่มีระเบียบมากขึ้น
แม่ยายของเขานั้นเป็นคนตามใจลูก ที่ก่อนหน้านี้หลี่รั่วอวี๋เป็นคนมีระเบียบได้เกรงว่าคงเป็นเพราะพ่อตาของเขาที่ล่วงลับไปสอนได้ดี ตอนนี้ท่านพ่อตาไม่อยู่แล้ว มีฮูหยินผู้เฒ่าหลี่ดูแลเลี้ยงดูลูกเพียงคนเดียว เอาใจหลี่รั่วอวี๋จนมีสภาพเหมือนเสียนเอ๋อร์น้องภรรยาของเขา ทั้งวันเอาแต่ร่ายรำอาวุธ ขึ้นต้นไม้ปีนกำแพง ทำอะไรตามอำเภอใจเหลือเกิน
ครั้งก่อนแม้จะเข้าใจนางผิด แต่อารมณ์ไม่ดีก็ลงมือตีคนเช่นนั้นอย่างไรเสียก็เป็นเรื่องไม่เหมาะสม เมื่อวานที่อู่เรือก็เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่ผู้ใดเอามาก็ตามจะยื่นมือไปหยิบ กินจนเศษอาหารเลอะเทอะเต็มตัวไปหมด