ทดลองอ่าน วาสนาคนเขลา บทที่เจ็ด-บทที่แปด – หน้า 11 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน วาสนาคนเขลา บทที่เจ็ด-บทที่แปด

เมื่อกลับถึงเมืองซูเฉิง ท่านหญิงไหวอินออกมาต้อนรับน้องชายน้องสะใภ้ด้วยตนเอง พอเห็นหลี่รั่วอวี๋ร้องไห้ตาแดงก็พูดด้วยรอยยิ้ม “เหตุใดยังมีน้ำตานองอยู่ล่ะ จิ้งเฟิงรังแกเจ้าหรือ ข้าตีเขาดีหรือไม่”

หลี่รั่วอวี๋ส่ายหน้าอย่างน่ารักพลางพูด “เขาบอกว่าอีกสองสามวันจะพารั่วอวี๋ไปขี่ม้า…ยังมีวัวแพะอีกกองใหญ่”

ท่านหญิงไหวอินยิ้มตบหลังมือของนางเบาๆ แล้วถามฉู่จิ้งเฟิง “ทำไมหรือ เจ้าจะจากไปแล้วหรือ จะไม่อยู่ต่ออีกสักนิดหรือไร”

ฉู่จิ้งเฟิงส่ายหน้า “สกุลไป๋เดิมทีก็หวาดกลัวข้าอยู่แล้ว ถ้าอยู่นานจะยิ่งเกิดความเปลี่ยนแปลงได้ง่าย สู้รีบกลับเมืองโม่เหอดีกว่า ยิ่งไปกว่านั้น ข้ายังพาคนสำคัญไปผู้หนึ่งด้วย…”

พอพูดเช่นนี้ กวนป้าที่ยืนอยู่ด้านข้างได้ฟังรายงานจากองครักษ์แล้วก็พูดเสียงเบา “นายท่าน เอาตัวคนมาได้แล้ว อีกสองวันก็เดินทางออกนอกด่านได้แล้ว”

ฉู่จิ้งเฟิงพยักหน้า ท่านหญิงไหวอินฟังอยู่ด้านข้างก็รู้ดีเช่นกัน จึงยิ้มแล้วกล่าว “สกุลไป๋เสียเงินก้อนใหญ่ไปกับการต่อเรือรบ เจ้าไปถอนฟืนใต้กระทะ แม้แต่คนผู้นั้นก็ไม่เหลือให้พวกเขา ช่างเจ้าเล่ห์เหลือเกินจริงๆ”

ฉู่จิ้งเฟิงสบถเสียงเย็นชาพลางเอ่ย “ถ้าไม่เพราะคิดว่าเงินก้อนใหญ่นั้นเป็นของชาวเมืองเช่นกัน ก็จะรอให้พวกเขาต่อเรือรบเสร็จก่อนแล้วค่อยเปิดเผยความจริง ความมักใหญ่ใฝ่สูงของพระมาตุลาไป๋ไม่น้อยเลย สงครามทางเหนือเพิ่งสงบลง ก็คิดต่อเรือรบโดยไม่สนใจคำค้าน ต้องให้บทเรียนเขาเสียบ้าง ให้เขาสงบลงบ้างจึงจะดี”

หลี่รั่วอวี๋ฟังไม่เข้าใจว่าพวกเขาคุยอะไรกัน สนใจแต่เล่นเรือเล็กในมือของตนเองอยู่ข้างๆ แล้วตามพวกหล่งเซียงกลับห้องไป เรือเหล่านี้คนงานเรือเก่าแก่ผู้หนึ่งให้มาตอนไปที่อู่เรือเมื่อวาน มีเต็มหนึ่งหีบใหญ่ เดิมทีคนงานเรือผู้นี้จะทำให้หลานชายเล่น ผลปรากฏว่าเห็นคุณหนูรองหลี่จ้องเรือจำลองที่วางอยู่บนชั้นไม่วางตา จึงมอบเรือหีบนี้ให้คุณหนูรองทั้งหมด

พวกเขาคนงานเรือเก่าแก่เหล่านี้เห็นหลี่รั่วอวี๋ตั้งแต่เด็กจนโต แม้จะเป็นบุตรสาวของนายจ้าง แต่ปกติจะเข้าหาคนอื่นอย่างไม่วางท่า ตอนเพิ่งเริ่มเดินได้ก็มาเล่นที่อู่เรือกับนายท่านหลี่ ตอนนั้นนางก็เป็นเช่นนี้ ถือเรือจำลองเอาไว้ไม่ปล่อย…

ตอนที่ออกจากอู่เรือ เห็นหลี่รั่วอวี๋ฉีกยิ้มไร้พิษภัยให้พวกเขาราวกับเด็ก คนงานเก่าแก่หลายคนก็ร้องไห้ คุณหนูรองหลี่ที่พวกเขารักนับถือวันนี้กลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว จะไม่ให้คนรู้สึกปวดใจได้อย่างไร

หลี่รั่วอวี๋กลับไม่รับรู้ถึงความปวดใจของผู้อื่น กลับถึงห้องก็นอนคว่ำหน้าเล่นอยู่บนพื้นห้องหอ

ซูซิ่วกลัวว่าฮูหยินน้อยจะได้รับไอเย็น จึงสั่งคนไปยกพรมขนหนาม้วนหนึ่งที่ทางซีอวี้ส่งมาบรรณาการจากคลังเก็บของส่วนตัวท่านหญิงไหวอินมาปูไว้บนพื้นหน้าเตียง ให้ฮูหยินน้อยได้นอนเล่น

หล่งเซียงล้างผลหลี่ หวานมาถ้วยหนึ่ง กลัวว่าคุณหนูจะเผลอกลืนเม็ดลงคอ จึงใช้มีดไผ่เล็กๆ คว้านเม็ดออก จากนั้นก็คลุกน้ำตาลกรวดก่อนจะเอามาให้กิน

หลี่รั่วอวี๋กึ่งเอนตัวนอนบนพรมนุ่ม ใช้มือหยิบผลหลี่ขึ้นมากิน จากนั้นก็แกะเรือจำลองนั้นจนหลุดกระจัดกระจาย เพราะเล่นของเล่นเป็นประจำ จึงทำให้หลี่รั่วอวี๋ฟื้นตัวได้ไม่เลว จากตอนแรกที่กินน้ำมักจะถือถ้วยได้ไม่มั่น ถึงตอนนี้สามารถประกอบเรือเล็กที่แกะหลุดเหล่านี้ให้เป็นเหมือนเดิมได้แล้ว เพียงแค่บางครั้งมือจะสั่นอยู่บ้าง ทำให้เสียบเสากระโดงเรือผิดตำแหน่งจนหักเป็นสองท่อน

หลี่รั่วอวี๋มองดูเรือที่ซ่อมกลับเหมือนเดิมไม่ได้อีกแล้วก็ให้รู้สึกรำคาญใจ จึงออกแรงขว้างเรือที่ประกอบได้เพียงครึ่งหนึ่งทิ้งไป

เรือน้อยขว้างใส่ตัวฉู่จิ้งเฟิงที่เพิ่งเดินเข้ามา ถูกเขารับเอาไว้ได้พอดี

“ไม่ได้ดั่งใจก็ขว้างปาข้าวของหรือ ไปเรียนธรรมเนียมนี้มาจากที่ใดกัน” เสียงพูดของชายหนุ่มทุ้มต่ำ ในดวงตาเปล่งประกายที่น่ากลัว

หลี่รั่วอวี๋แม้จะโง่เขลาทึ่มทื่อ แต่ดูสีหน้าเก่งที่สุด ตอนที่เขาตีหลังมือนางก็มีสีหน้าน่ากลัวแบบนี้เช่นกัน นางจึงก้มหน้าลงแล้วซ่อนมือไว้ด้านหลัง

ฉู่จิ้งเฟิงย่อมเห็นกิริยาเล็กน้อยนี้ แต่บนสีหน้ากลับไม่อ่อนลง เขามองดูบนพรมสูงค่าที่เปื้อนน้ำหวานจากผลหลี่คลุกน้ำตาล เหยียบแล้วพื้นรองเท้ารู้สึกเหนียว อกเสื้อของนางเปื้อนเป็นดวงๆ ดูเลอะเทอะเป็นอย่างมาก

หลี่รั่วอวี๋ฟังคำพูดเข้าใจ แม้ความเข้าใจจะมีจำกัดราวกับเด็กเล็ก แต่หากเพราะนางป่วยจึงละเลยเรื่องนี้ไป เกรงว่าจะยิ่งไม่มีระเบียบมากขึ้น

แม่ยายของเขานั้นเป็นคนตามใจลูก ที่ก่อนหน้านี้หลี่รั่วอวี๋เป็นคนมีระเบียบได้เกรงว่าคงเป็นเพราะพ่อตาของเขาที่ล่วงลับไปสอนได้ดี ตอนนี้ท่านพ่อตาไม่อยู่แล้ว มีฮูหยินผู้เฒ่าหลี่ดูแลเลี้ยงดูลูกเพียงคนเดียว เอาใจหลี่รั่วอวี๋จนมีสภาพเหมือนเสียนเอ๋อร์น้องภรรยาของเขา ทั้งวันเอาแต่ร่ายรำอาวุธ ขึ้นต้นไม้ปีนกำแพง ทำอะไรตามอำเภอใจเหลือเกิน

ครั้งก่อนแม้จะเข้าใจนางผิด แต่อารมณ์ไม่ดีก็ลงมือตีคนเช่นนั้นอย่างไรเสียก็เป็นเรื่องไม่เหมาะสม เมื่อวานที่อู่เรือก็เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่ผู้ใดเอามาก็ตามจะยื่นมือไปหยิบ กินจนเศษอาหารเลอะเทอะเต็มตัวไปหมด

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 84.1-84.2

    By

    บทที่ 84.1 ชายาเป่ยเจิ้นอ๋องมองชุดรัดเอวแขนหลวมทำจากผ้าพลิ้วกรุยกรายลายปักซูซิ่ว บนร่างองค์หญิงอวี๋หยางอีกครา ดูคล้ายกับแบบที่ซูลั่วอวิ๋นสวม...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 83.1-83.2

    By

    บทที่ 83.1 หานเหยาได้ยินน้องชายพูดขึ้นมา นางก็เอ่ยอย่างลิงโลด “ดี! พี่สะใภ้ ท่านไม่ต้องกลับไปที่หมู่บ้านเฟิ่งเหว่ยแล้ว ที่นั่นวุ่นวายเหลือเก...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 82.1-82.2

    By

    บทที่ 82.1 ที่แท้จ้าวกุยเป่ยคิดว่าให้สัญญากับหานเหยาไว้ว่าจะมารับลูกอมก็จำเป็นต้องรักษาคำพูดหรือไร หานหลินเฟิงคร้านจะแยแสบุรุษหัวทึบผู้นี้ เ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 5-6

    By

    บทที่ 5 ราตรีวุ่น แววตาเสิ่นเฉียนมืดทะมึน กัดริมฝีปาก ปลายคางเกร็งแน่นเผยความแข็งกร้าวอยู่ในที “ที่แท้ถูกเด็ดปีกหมดสิ้นแล้วเนรเทศมาให้ข้านี่...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 81.1-81.2

    By

    บทที่ 81.1 ฉิวเจิ้นเพ่งตามองดูแล้วก็พบว่าไม่เพียงกำแพงของค่ายเสบียงมีการต่อเติมให้สูงขึ้น ยังขุดคูลึกรอบตัวกำแพงทั้งด้านนอกด้านในเพิ่มอีกสอง...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 3-4

    By

    บทที่ 3 หงหลวนแต่งงาน ลมราตรีพัดกรู แสงจันทร์สาดส่อง ภายในหอตั้นเสวี่ยของจวนสกุลเซี่ยเวลานี้ เซี่ยจิ่นสองมือไพล่หลัง ฟังน้องชายตัวน้อยเซี่ยซ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 1-2

    By

    บทที่ 1 ลมตะวันตกพัดมา สุริยันจมลับประจิม แสงสายัณห์สาดส่องขอบฟ้า เสิ่นเฉียนเปลี่ยนม้าไปตัวหนึ่งแล้วในจุดพักม้า เช่นนี้จึงเร่งมาถึงนอกเมืองห...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

community.jamsai.com