ทดลองอ่าน วาสนาคนเขลา บทที่เจ็ด-บทที่แปด – หน้า 16 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน วาสนาคนเขลา บทที่เจ็ด-บทที่แปด

ดังนั้นวันนี้พอไปถึงตลาด ฉู่จิ้งเฟิงก็ประคองหลี่รั่วอวี๋ลงจากรถม้า นำองครักษ์หลายคนพร้อมกับซูซิ่วและหล่งเซียงเดินเท้าเที่ยวตลาด

สถานที่นี้ห่างจากเจียงหนาน การกินการสวมใส่แตกต่างกับเมืองเหลียวเฉิงมาก หลี่รั่วอวี๋เห็นของกินอะไรก็รู้สึกแปลกใหม่ ในมือองครักษ์หลายคนข้างหลังหอบของห่อใหญ่ห่อเล็กเต็มไปหมดแล้ว

ในตอนนี้เอง ข้างหน้ามีเสียงประทัดดังขึ้น ที่แท้ข้างหน้ามียอดบุปผาของหอซิ่วชุนมาแสดงศิลปะการดีดพิณเดินหมากชงชาในงานเทศกาลฉีเฉี่ยว

ฉู่จิ้งเฟิงเดิมทีไม่อยากดู แต่จนใจที่หลี่รั่วอวี๋อยากรู้อยากเห็น จึงต้องพานางไปดู

เพราะป่วยหนักครั้งนี้ ปณิธานในการเป็นคนเข้มงวดที่ฉู่จิ้งเฟิงตั้งใจไว้จึงล้มเหลวไม่เป็นท่า ดังนั้นตลอดทางนี้จึงยอมทำตามใจนางทุกอย่าง

รอไปถึงหอซิ่วชุน ชาวเมืองทั่วไปดูได้แค่ตรงหน้าหอ แต่หากจ่ายเงินห้าสิบตำลึงก็ขึ้นไปชมใกล้ชิดบนชั้นสองได้ หากจ่ายหนึ่งร้อยตำลึงก็สามารถดื่มชาที่ฉู่หวั่นเหนียงยอดบุปผาเป็นคนชงในห้องส่วนตัว

ฉู่จิ้งเฟิงแม้จะไม่สนใจยอดบุปผาผู้นั้น แต่เห็นหลี่รั่วอวี๋เดินมาเหนื่อยแล้ว จึงสั่งให้กวนป้าที่อยู่ข้างหลังจ่ายเงินหนึ่งร้อยตำลึง จองห้องส่วนตัวที่ติดด้านหน้า แล้วสั่งจานผลไม้และของว่างให้หลี่รั่วอวี๋ไว้กินรองท้อง

ในตอนนี้เอง หลังจากเสียงพิณดังลอยมาก็เห็นหญิงสาวในชุดชายยาวสีแดงสดผู้หนึ่งเดินขึ้นบนแท่นสูง

หลังจากแสดงตัวแล้ว หญิงผู้นั้นก็ขยับตัวร่ายรำไปตามดนตรี การแต่งตัวของนางราวกับนางฟ้า เรือนร่างอ่อนราวไร้กระดูก แม้แต่หลี่รั่วอวี๋ก็ดูอย่างเพลิดเพลิน ขนมครึ่งชิ้นที่อมไว้ในปากถึงกับลืมกลืนไปเลยทีเดียว

เมื่อร่ายรำจบหนึ่งเพลง คนบนหอล่างหอพากันส่งเสียงดังไม่หยุด และมีเศรษฐีมือเติบในห้องส่วนตัวชั้นสองสั่งกระเช้าดอกไม้อันใหญ่มาตั้งกองไว้ข้างแท่นแสดง

หลังจากแสดงศิลปะการดีดพิณและเขียนอักษรแล้วก็เป็นการแสดงชงชา ฉู่หวั่นเหนียงผู้นั้นแม้จะอยู่ในหอคณิกา แต่อากัปกิริยาเหนือกว่าธิดาตระกูลใหญ่มาก นั่งอยู่หน้าโต๊ะชงชากิริยาทุกอย่างลื่นไหลไม่มีที่ติเลย

หลังจากหลี่รั่วอวี๋เห็นนางชงชาเสร็จหนึ่งกาก็เทให้ตนเองหนึ่งถ้วย แล้วยกขึ้นอย่างงดงาม เม้มชิมไปหนึ่งคำ รายละเอียดทุกอย่างเหมือนกับกฎเกณฑ์ที่ฉู่จิ้งเฟิงตั้งให้กับนาง

พอก้มหน้ามองดูตนเอง แม้เมื่อครู่จะระวังมากขึ้นแล้ว แต่ก็ยังทำเศษขนมตกลงบนตัว หลังจากเห็นอากัปกิริยาอันงดงามของยอดบุปผาแล้ว หลี่รั่วอวี๋ก็พอเข้าใจแล้วว่าเหตุใดพี่ฉู่จึงเข้มงวดกับนางเช่นนั้น

นางถอนหายใจแล้วหันไปพูดกับฉู่จิ้งเฟิง “พี่สาวคนสวยผู้นั้น… รู้ธรรมเนียม รั่วอวี๋เรียนรู้ไม่ได้ เหตุใดพี่ฉู่ไม่แต่งกับนางล่ะ”

หลี่รั่วอวี๋เสียงใสแจ๋ว กอปรกับฉู่หวั่นเหนียงแสดงศิลปะการชงชา เน้นเรื่องความสงบของจิตใจ ฟังเสียงน้ำเดือดชงชา รับรู้ถึงความงามของชา ดังนั้นตอนแสดงการชงชา แขกที่มาดูอยู่ชั้นล่างแยกย้ายกันไปแล้ว ปิดประตูหน้าต่างที่เชื่อมกับถนนแล้ว ภายในห้องจึงเงียบสงบอย่างมาก

ดังนั้นเสียงของหญิงสาวจึงดังเป็นพิเศษ ทำให้ฉู่หวั่นเหนียงช้อนตาขึ้นมองมา ดวงตาคู่นั้นสั่นไหว ถึงกับไม่อาจเลื่อนสายตาหนีได้

ฉู่จิ้งเฟิงนวดขมับ คิ้วเรียวสองข้างขมวดเข้าหากัน ในใจคิดว่า… เป็นปัญญาอ่อนเสียที่ไหน เป็นคนจำแค้นฝังใจมาก อะไรเล็กน้อยก็ต้องแก้แค้น!

คำพูดนี้มีเหตุมีผลมาก นางคณิกาชื่อดังเหล่านี้ไม่ด้อยไปกว่าหญิงในตระกูลใหญ่เลย มีผู้ใดบ้างที่ไม่ได้เรียนดีดพิณเดินหมากเขียนอักษรวาดภาพอย่างดีมาแต่เด็ก มารยาทการรับรองคนรับของล้วนเป็นเลิศ และในตอนนี้ก็ฉวยโอกาสในเทศกาลฉีเฉี่ยวขึ้นแท่นแสดง แสดงความสามารถรอบด้านของตนเองก็เพื่อล่อให้เหล่าภมรทองจำนวนมากเข้ามาในหอสูบวิญญาณแห่งนี้เท่านั้นเอง!

เมื่อคิดได้ดังนี้ ตนเองบังคับให้หลี่รั่วอวี๋เรียนรู้เป็นศิลปะที่ใช้เพื่อทำให้ผู้อื่นชื่นชอบ แต่ภรรยาของเขาฉู่จิ้งเฟิงจะต้องให้ผู้อื่นมาชื่นชอบเพื่ออะไรกัน

ฉู่จิ้งเฟิงเป็นคนทำอะไรตามใจตนเองอยู่แล้ว ตอนนี้คิดตกในจุดนี้แล้ว จึงรู้สึกว่าการกระทำของตนเองเมื่อหลายวันก่อนนั้นหาเรื่องใส่ตัว ทำเรื่องไม่จำเป็น ทั้งยังทำให้ภรรยาต้องป่วยหนัก ปลายคางที่ค่อนข้างเรียวแหลมตอนนี้ยังมีท่าทางเหมือนคนป่วยอยู่หลายส่วน…

กวาดตาดุมองสายตาตื่นตะลึงของแขกที่มาหาความสำราญเหล่านั้นที่มองมาทางหลี่รั่วอวี๋ เขาหยิบงอบเย็บชายผ้าคลุมหน้าที่อยู่ด้านข้างขึ้นมาสวมให้หลี่รั่วอวี๋แล้วก็พูดเสียงเบาด้วยท่าทีอ่อนโยน “รั่วอวี๋พูดถูกต้องแล้ว ธรรมเนียมเหล่านั้นใช่จะมีแต่ธิดาตระกูลใหญ่เท่านั้นที่เรียนรู้ได้ ต่อไปจะไม่บังคับรั่วอวี๋เรียนรู้แล้ว เช่นนี้ดีหรือไม่เล่า”

หลี่รั่วอวี๋ยื่นมือไปพลิกเปิดผ้าคลุมหน้า ยิ้มงดงามให้ฉู่จิ้งเฟิงอย่างซาบซึ้งใจ ทำให้แขกเหล่านั้นเห็นแล้วใจสั่น ลอบคิดว่า… โอ้ นึกว่าฉู่หวั่นเหนียงผู้นี้งามเป็นนางล่มเมืองแล้ว แต่กลับกลายเป็นดอกโบตั๋นที่งามสง่าไร้ความโดดเด่น ส่วนหญิงสาวในห้องผู้นั้นกลับมีความพิเศษ เพียงแค่มองก็รู้สึกว่ารูปโฉมงดงามแม้จะไม่ยั่วยวน นี่จึงจะเป็นความงามที่เรียกว่ามัจฉาจมวารี ปักษีตกนภาได้เลยกระมัง

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน อุบายรักลิขิตเสน่หา บทที่ 20

บทที่ 20 ความรักลึกซึ้งแนบแน่น เฮ่อหลันฉือไม่มีท่าทางประหนึ่งไม่ยี่หระต่อความตายแต่บนใบหน้ายังคงดูสงบนิ่งอย่างเห็นได้ชัด...

ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก

ทดลองอ่าน ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก บทที่ 137-138

บทที่ 137 ยามนั้นอวี้ฉือเฟยเยี่ยนเองก็เปลี่ยนเป็นชุดพันรอบอกสำหรับเล่นน้ำแล้ว นางเกิดมาแขนขายาว ดังนั้นท่อนล่างถัดจากเสื...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน อุบายรักลิขิตเสน่หา บทที่ 21

บทที่ 21 แยกจากยากยิ่งเช่นกัน ระยะนี้ในคณะละครโรงน้ำชาของเมืองหลวงเริ่มมีละครยอดนิยมเรื่องใหม่ชื่อ ‘ทำลายบุพเพสันนิวาส’ ...

community.jamsai.com