แม้จะโง่ทึ่มไป แต่ความรู้สึกของความเป็นหญิงยังคงอยู่ ส่วนที่ถูกแตะย่อมมีปฏิกิริยาตอบสนอง หลี่รั่วอวี๋รู้สึกร้อนรนใจจึงออกแรงข่วนหน้าฉู่จิ้งเฟิง
รอยเก่าบนหน้าฉู่จิ้งเฟิงยังไม่จาง จะเติมรอยใหม่อีกไม่ได้ เขาจึงชักมือออกจากใต้กระโปรงมาคว้าข้อมือนางเอาไว้
หลี่รั่วอวี๋ถูกเขาลูบส่วนต้องห้าม ไม่รู้ว่าเหตุใดใบหน้าจึงร้อนผ่าว แต่ร่างของชายหนุ่มร้อนยิ่งกว่า เขาพาดอยู่บนตัวนางพลางหายใจหอบ หลี่รั่วอวี๋ช้อนตามองไปอย่างสงสัย กลับพบว่าเขาหลับตาแน่น รับรู้ว่านางไม่ขัดขืนอีกแล้ว จึงพลิกตัวไปนอนอยู่ข้างกายนาง
หลี่รั่วอวี๋ดึงกระโปรงพลางพลิกตัวมาทับแผ่นอกของเขา ในตอนนี้แสงแดดส่องเข้ามาในรถ ส่องกระทบใบหน้าของเขา จมูกโด่งสูง และริมฝีปากบางล้วนน่าดูมาก ยังมีดวงตาที่ปิดสนิทนั้น…
หลี่รั่วอวี๋สงสัยว่าเหตุใดเขาจึงอยากจะจูบนาง จึงใช้ปากเล็กจูบแก้มและปลายจมูกของเขาอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็แตะที่ริมฝีปากเขาราวผีเสื้อเกาะ รู้สึกว่ามันก็เท่านี้ ไม่เห็นมีรสชาติหวานเป็นพิเศษอะไรเลย
ฉู่จิ้งเฟิงนอนนิ่งอยู่กับที่ปล่อยให้นาง ‘ลวนลาม’ แต่พยายามสะกดไฟปรารถนาที่คนร่างเล็กเป็นคนปลุกปั่นนั้นให้สงบลง แม้จะไม่ส่องกระจก เขาก็รู้ว่าดวงตาประหลาดของเขาคงเปลี่ยนสีไปอีกแล้ว ทั้งยังเห็นว่าใกล้จะเข้าเมืองเหลียวเฉิงแล้ว หากทำให้หลี่รั่วอวี๋ตกใจร้องไห้อีก คงไม่ต้องเข้าบ้านแม่ยายจริงๆ แล้ว
พอเข้าเมืองเหลียวเฉิง รถม้าก็ลดความเร็วลง เมืองเหลียวเฉิงไม่ใหญ่ ชาวเมืองมีชีวิตเรียบง่าย เพิ่งกินเลี้ยงที่อุดมสมบูรณ์ของซือหม่าไป รสชาติสุราและเนื้อชั้นดีในปากยังไม่ทันจางหาย จะไม่นึกถึงความดีของคนเขาได้อย่างไร เมื่อเห็นขบวนรถหรูหราเข้าเมืองมาก็เดาได้ว่าซือหม่าพาเจ้าสาวคนใหม่กลับมาเยี่ยมบ้านเกิด
เพียงชั่วครู่เด็กกลุ่มหนึ่งก็วิ่งตามขบวนรถกันอย่างสนุกสนาน สองฟากถนนมีชาวบ้านเบียดกันมาแสดงความยินดี ราวกับมาต้อนรับเขยของคนเมืองเหลียวเฉิงทั้งเมือง
ไปถึงหน้าประตูใหญ่ ฉู่จิ้งเฟิงก็สั่งการพ่อบ้านที่สอบถามประเพณีของเมืองเหลียวเฉิงมาอย่างดี ให้มอบเงินขวัญถุงให้กับพวกเด็กๆ ที่วิ่งตามหลังรถ
เงินขวัญถุงสำหรับการแต่งงานนี้ปกติแล้วให้คนละหนึ่งอีแปะก็พอ แต่พ่อบ้านกลับให้ทองเท่าเมล็ดถั่ว ไม่ว่าผู้ใดก็มีสิทธิ์ได้ ทำให้ทุกคนพากันโจษจันว่าคุณหนูรองหลี่แต่งเข้าบ้านคนมีฐานะสูงศักดิ์แล้วจริงๆ!
ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่สั่งให้คนสาดน้ำล้างทางไว้แต่เช้า รอให้บุตรเขยพาบุตรสาวคนรองกลับมาเยี่ยมบ้าน
ก่อนเข้าเมือง ฉู่จิ้งเฟิงให้หล่งเซียงแต่งหน้าให้คุณหนูใหม่ จัดแต่งเสื้อผ้ากระโปรงให้เรียบร้อย ในตอนนี้ลงจากรถม้าก็กลายเป็นฮูหยินน้อยที่มีความงามสง่า
ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่มองดูบุตรสาวเรียก “ท่านแม่” อย่างเบิกบานใจ ท่าทางผิวพรรณเนียนนุ่มอมชมพู หัวใจที่ลอยคว้างก็วางลงได้ครึ่งหนึ่ง เรียกให้บุตรสาวกับฉู่ซือหม่าบุตรเขยสูงศักดิ์ล้างมือเข้าบ้านอย่างสบายใจ
เพราะกลับมาบ้านเกิด บุตรสาวจะนอนห้องเดียวกับบุตรเขยไม่ได้ จะได้ไม่นำเอาโชคลาภของบ้านเกิดไปด้วย ดังนั้นฮูหยินผู้เฒ่าหลี่จึงจัดให้ฉู่จิ้งเฟิงนอนในห้องหลักที่ว่างโล่งห้องหนึ่งในคฤหาสน์ ส่วนบุตรสาวคนรองนอนในห้องเดิมของนางตอนที่ยังไม่แต่งงาน
รอตกกลางคืน ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่จึงหาเวลาว่างเข้าห้องไปพูดคุยกับบุตรสาวคนรอง
หลี่รั่วอวี๋เพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ สวมชุดลำลองสีกลีบบัว นั่งอยู่ข้างแท่นไม้คล้องนกเล่นกับนกแก้วจี๋เฟิง ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่เดินเข้าไปโอบตัวบุตรสาวคนรอง หลังจากถามเรื่องอาหารการกินสองสามวันนี้ที่เมืองซูเฉิงแล้ว นางก็มองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นสาวใช้แปลกหน้าที่คอยปรนนิบัติบุตรสาวสองสามคนนั้นไม่อยู่จึงลอบถามว่า “ซือหม่าดีกับลูกหรือไม่”