เมิ่งอวิ๋นเจิงทำลายความเงียบขึ้น “ทำให้เจ้ามีงานเพิ่มเช่นนี้ รบกวนแล้ว”
นางส่ายศีรษะ “ทราบว่ามีคนชอบ ข้าก็ภาคภูมิใจ ความจริงแล้วข้าพอใจมาก”
นัยน์ตาเขาเป็นประกาย รอยยิ้มบนริมฝีปากหยั่งลึกขึ้น “ข้าจะกินให้อร่อย ขอบคุณ”
เจียงหุยเสวี่ยพยักหน้าคราหนึ่ง โน้มลำคอลงอย่างกระดาก สิ่งที่เข้าสู่สายตาก็คือเสื้อฤดูร้อนสีดำบนตัวเขา เป็นตัวที่นางตัดเย็บให้เขาก่อนหน้านี้ เสื้อผ่านการซักจนสีซีด ชายเสื้อยังมีส่วนที่รุ่ยออกมาสามสี่แห่ง นางเอ่ยขึ้นโดยไม่ต้องคิด…
“ให้ข้าตัดเสื้อให้ท่านเพิ่มเถิด ตอนนี้ฝีมืองานเย็บผ้าของข้าก้าวหน้าขึ้นมาก ขนาดพวกท่านยายยังชื่นชม ข้าว่าข้าต้องทำได้ดีกว่าตัวนี้แน่นอน”
“หากเจ้ายังไม่เหนื่อย เช่นนั้นก็ได้” เขาหลุบตาลง พิศดูปิ่นไม้ลายดอกเหมยบนผมนาง เป็นของที่เขามอบให้ ปิ่นอันนั้นช่างเข้ากับนางจริงๆ อ่อนโยนและงดงาม แต่…อืม…จะดูเรียบง่ายเกินไปหรือไม่ ควรจะซื้อปิ่นประดับมุกหยกมาแลกคืนดีหรือไม่
ทางด้านนี้ หญิงสาวช้อนตาขึ้นมองเขา พูดเสียงเบา “ข้าไม่เหนื่อย ทำงานของสตรี เช่น ตัดเสื้อ เย็บผ้า น่าสนใจดี หากไปนั่งทำรวมกับพวกท่านยาย ยังได้ยินข่าวเล็กข่าวน้อยทั่วทั้งเมืองหลวง มีสีสันยิ่งกว่าฟังเรื่องของคนเล่านิทานอีก” พูดพลางก้มหน้ามอง “อืม…ยังมีรองเท้ายาว คู่นี้ก็เก่าแล้ว พื้นรองเท้าก็ชำรุดไปตั้งมาก ควรจะเปลี่ยนคู่ใหม่ได้แล้ว พรุ่งนี้ข้าจะเริ่มทำเลย ท่านเมิ่งกลับมาครั้งหน้าต้องได้เปลี่ยนคู่ใหม่แน่”
เมิ่งอวิ๋นเจิงยิ้มน้อยๆ “ดี เช่นนั้นเงินค่าเส้นด้ายและผ้า ให้ข้าเป็นคนจ่าย”
นางเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง คิ้วขนงเรียวงามขมวดเป็นปมน้อยๆ “ไม่ได้ ทุกครั้งที่ท่านกลับมายังเมืองหลวง ก็ไม่ลืมนำของกิน ของใช้ หรือว่าของเล่นกลับมาให้ ท่านไม่คิดเงิน ข้าก็ไม่คิดเงิน อีกอย่างทุกครั้งที่ท่านมากินโจ๊ก ก็วางเงินค่าโจ๊กไว้ข้างชามเปล่าเป็นประจำ เงิน…เงินนั่นก็ให้มาเยอะเกินไป พอข้าจะคืนให้ ท่านก็ไม่ยอมรับไว้ เพราะฉะนั้น..เอาตามนี้ เสื้อผ้าและรองเท้าเป็นข้าอยากทำให้ท่านเอง ข้าอยากให้ท่านเปลี่ยนเป็นชุดใหม่เอง ท่านจะให้เงินไม่ได้นะ”
วาจาของนางทำให้อกซ้ายของเขาเต้นแรงขึ้นมาคราหนึ่ง
หลังเจียงหุยเสวี่ยปล่อยให้วาจาหลุดออกไปโดยไม่ได้กลั่นกรอง พลันรู้สึกว่าตนเองหน้าแดงหัวสมองร้อนรุ่ม
นางฝืนทำท่าทีสงบนิ่ง หลังจากเสยผมไปทัดไว้ที่ใบหู ก็จงใจเปลี่ยนเรื่องพูด “พรุ่งนี้ท่านเมิ่งออกจากเมืองหลวงเดินทางลงใต้ ได้ยินว่าแม่นางมู่ก็ได้รับคำสั่งให้ร่วมเดินทาง ออกจากเมืองไปพร้อมกับท่าน”
“ศิษย์น้องสืบทอดตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มสี่ปักษีของหน่วยประตูหกบานต่อจากอาจารย์ผู้มีพระคุณเมื่อหลายปีก่อน ตอนนี้กลายเป็นผู้บัญชาการของกลุ่มสี่ปักษีแล้ว ฝ่าบาทชื่นชมนาง สั่งให้นางมาช่วยข้า”
“เวลานี้อากาศทางใต้ทั้งอับชื้นและร้อนอบอ้าว ง่ายต่อการติดโรคระบาด ท่านเมิ่งกับแม่นางมู่โปรดรักษาตัวด้วย”
“เมื่อวานเจ้าให้ถุงเครื่องหอมสำหรับไล่งูและแมลงมาตั้งหลายใบ ข้าจะพกบางส่วนไปด้วย” ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดน้ำเสียงของเขาพลันเปลี่ยนเป็นแหบแห้ง
“อืม เช่น…เช่นนั้นก็ดีแล้ว” นางผงกศีรษะอย่างแรง
ยามมองดูใบหน้าของหญิงสาวที่เป็นสีแดงจัดกับดวงตาคู่งามที่ดูคล้ายมีและคล้ายไม่มีเจตนาที่จะหลบสายตาของเขา ในอกเขาเหมือนกับมีอะไรมากดทับ ราวกับว่าเขาอยากจะพูดอะไรสักอย่างกับนาง แต่ชั่วเวลาหนึ่งกลับไม่รู้ว่าคืออะไรกันแน่
“แม่นางเจียง…” ไม่ทันรู้ตัวเขาก็ร้องเรียกไปแล้ว
“เจ้าค่ะ” นางเกร็งไปทั้งตัว สองมือลอบกุมไว้ด้วยกัน “ท่านเมิ่งมีเรื่องอะไรจะฝากฝังหรือ”