บทที่ 6
“ศิษย์พี่ระวัง!”
เมื่อดาบที่ผ่านการเคลือบยาพิษเล่มนั้นฟันมาถึง เมิ่งอวิ๋นเจิงรู้สึกตัวช้าไปชั่วครึ่งลมหายใจ
เขาได้ยินศิษย์น้องมู่ไคเวยร้องเตือนเสียงหลง ได้กลิ่นของยาพิษกระจายไปทั่ว ดาบเล่มนั้นเป็นประกายสีเขียวยามต้องแสงแดดที่ส่องลอดผ่านป่าและใบไม้ลงมา คงเป็นเพราะยาพิษเจอแสงแดด บวกกับการกวัดแกว่งที่รวดเร็วปานสายฟ้าและไม่หยุดหย่อนทำให้สถานการณ์พลิกแพลง เขาได้กลิ่นเหม็นคาวที่ฉุนขึ้นในฉับพลัน ลมที่เกิดจากการเหวี่ยงดาบฟาดฟันของอีกฝ่ายบาดมาถึงผิวหน้า คมดาบห่างจากช่วงคอของเขาไม่ถึงครึ่งนิ้วมือ
แต่เขากลับประชิดเข้าใกล้แทนที่จะล่าถอย กลับใช้มือเปล่ารับดาบ หลังจากแย่งดาบอาบยาพิษเล่มนั้นของอีกฝ่ายมาได้แล้ว ก็ออกท่ากรงเล็บพยัคฆ์ชิงใจ กรีดผิวเนื้อและตะปบกระดูกซี่โครงของคนร้ายไว้สามซี่ ยกตัวอีกฝ่ายขึ้นก่อนจะเหวี่ยงลงบนพื้นดัง ‘โครม!’ กระดูกซี่โครงของคนผู้นั้นหัก สันหลังถูกทำลาย หมดลมไปในทันที
“ศิษย์พี่!” หลังมู่ไคเวยวิ่งไปจัดการกับคนโฉดชั่วที่อีกฟากหนึ่งของป่า ก็เหินกลับมาเร็วเสียจนยังไม่ทันได้ยินเสียงฟ้าร้อง
“ไม่เป็นไร” ผู้ที่เมิ่งอวิ๋นเจิงจับได้คือหัวหน้าใหญ่ และเป็นผู้ที่มีวรยุทธ์สูงสุดในกลุ่มคนป่าเถื่อนของพื้นที่ทางตอนใต้แห่งนี้ แต่ไม่ว่าจะมีวรยุทธ์สูงเพียงใด เมื่อเทียบกับฝีมือของเขาก็ยังห่างชั้นกันมาก ไม่ควรจะปล่อยให้อีกฝ่ายมีโอกาสเข้ามาประชิดได้
เหตุผลที่มาทำคดีถึงทางตอนใต้นี้ สืบเนื่องจากในราชสำนักของฮ่องเต้ซิงอวี้แห่งเทียนเฉามียาลูกกลอนที่ไม่ทราบที่มาแน่ชัดปะปนเข้ามา ยาลูกกลอนที่ถูกตรวจสอบนี้ ตามคำวินิจฉัยของหมอหลวงที่เป็นผู้ตรวจบอกว่าเป็นยาขนานลับที่ใช้ปลุกอารมณ์ระหว่างบุรุษสตรี แม้ว่าจะไร้พิษ แต่หากกินเข้าไปจำนวนมากก็จะเสพติด ค่อยๆ บ่อนทำลายร่างกายไปทีละนิดจนถึงแก่น
ฮ่องเต้ซิงอวี้ที่ถูกลอบวางยา และป้อนยามานานสามเดือนจึงมีโทสะเป็นอย่างมาก สั่งประหารนางสนมที่วางยาปลุกกำหนัดโอรสสวรรค์ด้วยวิธีการแยกร่าง แม้จะเป็นยามค่ำคืนก็เรียกตัวมือปราบเทวดาและหัวหน้ากลุ่มสี่ปักษีแห่งหน่วยประตูหกบานเข้าวังไป และสั่งให้ทั้งสองร่วมกันสืบสวน
เมิ่งอวิ๋นเจิงกับศิษย์น้องและพี่น้องชาวหน่วยประตูหกบานแยกย้ายคนออกเป็นหลายสาย ใช้ยาสืบหาคน ตามหาเส้นทางที่ยาลูกกลอนเล็ดลอดเข้ามาในเมืองหลวงและปะปนเข้ามาในวังหลังของฮ่องเต้ สุดท้ายก็หาที่มาของยาได้ ยาลูกกลอนกระตุ้นอารมณ์ที่ทำให้ผู้คนเสพติดมาจากมือของคนโฉดชั่วในแดนป่าเถื่อนทางใต้กลุ่มนี้ พวกเขามีที่ทาง มียา และมีคน นอกจากจะทำยาปลุกกำหนัดแล้ว ยังทำยาลูกกลอนจากฝิ่นที่ทำให้คนเสพติดได้ง่ายมาใช้ควบคุมบริวาร
อันตรายของยาพิษนี้มากเกินจะจินตนาการ ครั้นฮ่องเต้ซิงอวี้คิดว่าตนอาจจะถูกคนควบคุมเอาไว้ ไม่อาจกระทำตามใจตนดั่งหุ่นไม้ที่ถูกเชิด ยามค่ำคืนก็หวาดผวาไม่อาจนอนหลับอย่างสงบสุข จึงสั่งให้เมิ่งอวิ๋นเจิงและมู่ไคเวยร่วมมือกับทหารที่ประจำการชายแดนทางใต้กับเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่น กำจัด ‘เนื้อร้าย’ ที่กระทำความชั่วอยู่ในแดนป่าเถื่อนทางใต้และเป็นภัยต่อราชสำนักให้สิ้นซาก
หลังจากเตรียมการอยู่ทางใต้ได้เดือนกว่า วันนี้จึงได้โจมตีแหล่งกบดานของโจร และจับกุมหัวหน้าโจร
ภูเขาแห่งนี้กว้างใหญ่มาก เป็นแหล่งซุกซ่อนโรคระบาดจำนวนนับไม่ถ้วน เมิ่งอวิ๋นเจิงคุมตัวหัวหน้าทั้งหลายไปให้เจ้าหน้าที่ทางการดูแล ใช้วิชาตัวเบาเหินเข้าป่าลึกไปเพื่อเสาะหา
ทุกอย่างสงบนิ่ง ไม่มีสิ่งใดผิดปกติ เมื่อหนึ่งเค่อผ่านไป เขากำลังจะกลับไปสมทบกับคนอื่น กลับเห็นศิษย์น้องตามมาข้างหลัง เขาหันกลับไป ศิษย์น้องรออยู่ที่นั่นพลางเอียงศีรษะชั่งใจ
เอาเถิด อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด