ทดลองอ่าน สตรีอ่อนโยนล้วนแฝงพิษร้าย บทที่ 6 – หน้า 7 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน สตรีอ่อนโยนล้วนแฝงพิษร้าย บทที่ 6

เรือลำที่อีกฝ่ายนั่งก็เป็นเรือยาวเช่นกัน คนผู้นั้นศีรษะล้านเลี่ยน บนศีรษะส่องสว่างท่ามกลางแสงจันทร์…อ้อ! นางจำอีกฝ่ายได้แล้ว เขาคืออาจารย์อู๋จาก ‘ร้านตีเหล็กอู๋จี้’ จาก ‘ถนนตีเหล็กตลอดสาย’ นางเคยซื้อกรรไกรและมีดหั่นผักจากเขา คนผู้นี้ฝีมือดีเยี่ยมยิ่ง จนเป็นที่กล่าวขวัญกันว่าเป็นบุคคลที่ร้ายกาจที่สุดใน ‘ถนนตีเหล็กตลอดสาย’

ไม่รอให้อีกฝ่ายเปล่งเสียง นางก็ยิ้มและทักทายขึ้นก่อน “อาจารย์อู๋วันนี้มีเวลาว่าง ออกมาชมจันทร์เหมือนกันหรือ”

แล้วก็เห็นอาจารย์ตีเหล็กที่อายุราวสามสิบกว่าเขี่ยใบหู แล้วก็ลูบคลำหัวล้าน สักพักค่อยเอ่ยขึ้น…

“…เอ่อ ข้า…ข้าแซ่อู๋นามเถี่ย ปีนี้สามสิบสาม บ้านอยู่ที่ถนนตีเหล็ก กิจการตีเหล็กทำมาค้าขึ้นดี ปีหนึ่งได้เงินมาไม่น้อย มีอาหารและเสื้อผ้าไม่ขาดแคลน แต่…แต่ภรรยาด่วนจากไป ทิ้งลูกสาวอายุสิบสองปีไว้หนึ่งคน ข้าเห็นว่าแม่นาง…ท่าน ท่านชอบเด็กใช่หรือไม่”

เจียงหุยเสวี่ยอ้าปากค้าง หางตาชำเลืองไปทางท่านยายเฉียวโดยไม่ทันรู้ตัว หญิงชรายังคงชมจันทร์ เล่นน้ำอย่างสุขสำราญ

นางต้องรับมือด้วยตัวเองแล้ว

“น้องหลันลูกสาวของอาจารย์อู๋ ข้าเคยเจอมาก่อน เป็นแม่นางน้อยที่ดีมาก น้องหลันเล่นกับโม่เอ๋อร์ของข้าก็เข้ากันได้ดี ทั้งสองล้วนชอบวาดรูป น้องหลันเคยบอกว่าสมัยที่มารดาของนางยังอยู่เคยสอนนางไว้หลายอย่าง ทั้งวาดรูป อ่านหนังสือ เขียนหนังสือ ลูกสาวบ้านอาจารย์อู๋ ใครจะไม่ชมชอบ”

“ใช่ ใช่…มารดาของนางล้วนสอนมาดี นางพูดถูก พูดถูกจริงๆ ข้า…ข้า…ฮือๆๆ…” ชายหัวล้านพลันนั่งจ้ำลงกับพื้นเรือ ร้องไห้เสียงดัง “มารดาของอาหลัน ไฉนเจ้าถึงรีบจากไป ทิ้งข้าสองพ่อลูกไว้ไม่ไยดี เหตุใดเจ้าถึงใจร้ายเช่นนี้ ฮือๆๆ…”

เจียงหุยเสวี่ยตกใจก่อนเป็นอย่างแรก ตามด้วยลอบระบายลมหายใจออกจากปาก

ด้วยระยะห่างเพียงหนึ่งลำเรือ นางพูดปลอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “อาจารย์อู๋อย่าเศร้าเสียใจไปเลย น้องหลันรูปร่างหน้าตาเหมือนมารดา แต่ว่าใกล้ชิดกับบิดาของนาง ท่านมีลูกสาวที่ดีเช่นนี้ ใครๆ ก็ต้องชอบอยู่แล้ว”

“ฮือ…ใช่ แม่นางพูดถูก…ฮือๆ…” พลางปาดน้ำตาโดยแรง

แม้ว่าจะรู้จัก แต่ก็ไม่ได้คุ้นเคยกัน ไม่รู้จะพูดอะไรไปมากกว่านี้ ประจวบกับนายเรือหันเรือยาวจากไปพอดี เจียงหุยเสวี่ยจึงทำคารวะน้อยๆ ชายที่ร้องไห้น้ำมูกน้ำตา ถือเป็นการแสดงมารยาท

นางคิดว่าเรื่องราวคงดำเนินต่อไปเช่นนี้ เรือที่มา ‘ตักจันทร์’ ในทะเลสาบเยาเยวี่ยมีเป็นจำนวนมาก นับเท่าใดก็นับไม่ถ้วน เรือที่ตามกล่องไม้ใส่ของขวัญหมั้นหมายกล่องเดียวกันก็มีอยู่เป็นประจำ อย่างไรก็ต้องพึ่งพาอาศัยความสามารถ แต่การที่มีคนกวาดของขวัญหมั้นหมายมาให้อยู่บ่อยครั้ง เพื่อให้นางตักของได้ง่าย เช่นนี้…นางจะความรู้สึกช้าอย่างไรก็ต้องรู้ได้ว่าสถานการณ์ไม่ปกติ

หลังจากที่นางแยกอาจารย์อู๋ช่างตีเหล็กก็เผชิญสถานการณ์เดียวกันนี้อีกสามครั้งติดกัน ผู้ที่มาล้วนเป็นบุรุษ มีทั้งชาวบ้าน ทั้งคนมีการศึกษา นางเริ่มรู้สึกไม่เป็นสุข จึงเลิก ‘ตักจันทร์’ แล้ว นั่งลงตรงหน้าท่านยายเฉียว กดดันให้หญิงชรากล่าววาจาออกมา

“…ท่านยาย?” ความเคลือบแคลงล้นใจ รู้สึกวิตกกังวล แต่น้ำเสียงที่นางใช้ถามไม่อาจดัดให้ฉุนเฉียวและแข็งกระด้างได้ ยังคงเป็นเสียงอ่อนโยนมาก แต่ฟังดูสิ้นความอดทนและระอาใจเล็กน้อย

ท่านยายเฉียวรู้ว่าความจริงถูกเปิดเผยแล้ว จะแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ได้อีก ฉีกยิ้มพลางหัวเราะแหะๆ จนคิ้วทั้งสองโก่งเป็นสะพานโค้ง ดวงตาหรี่ลงเป็นเส้นบาง ยิ้มจนริ้วรอยบนใบหน้าปรากฏชัดขึ้นมา

“ไอ้หยา! แม่นางคนดี ยายทำเช่นนี้ก็เพราะคิดแทนเจ้า เจ้าดูตัวเจ้าสิ เป็นสาวใหญ่อายุยี่สิบมาเป็นปีแล้ว วันทั้งวันก็ขลุกอยู่แต่ในตรอกซงเซียง ไม่ยอมออกไปที่ใด แล้วจะได้ทำความรู้จักคนหนุ่มดีๆ บุรุษดีๆ จากที่ใดกันเล่า” แล้วดึงมือหญิงสาวมาตีเบาๆ

“ฟังคำยายนะ มา ‘ตักจันทร์’ ครานี้ให้พูดคุยกับคนให้มากหน่อย ใครนั่งเรือผ่านมา เจ้าก็ไม่ต้องเอียงอาย พูดคุยให้มากเข้าไว้ถึงจะดี ก็แค่ดูกันเอาไว้ ไม่แน่ อาจพบพานคนที่ดูแล้วถูกใจ พาเราไปขึ้นฝั่ง เจ้าชอบใครให้บอกยาย ยายจะช่วยทำให้ถูกต้องเหมาะสมเอง”

…ดูกัน? คนที่ดูแล้วถูกใจ?

เจียงหุยเสวี่ยหมดคำพูดอย่างสิ้นเชิง นาง…นาง ‘ถูกหลอกให้ขึ้นเรือโจร’ สินะ!

“ท่านยาย!” นางร้องอย่างร้อนใจ แทบจะร้องไห้อยู่รอมร่อ เวลานี้หญิงสาวจึงค่อยสังเกตเห็นว่าบนทะเลสาบมีเรือชนิดต่างๆ ประมาณสิบลำไล่ตามเรือที่นางอยู่ ทั้งจากระยะไกลบ้างใกล้บ้าง เกือบจะกลายเป็นรูปแบบของการโอบล้อม บนเรือทุกลำล้วนมองเห็นเงาร่างของบุรุษยืนอยู่ที่หัวเรือ ไม่พบเห็นสตรีสักนาง เห็นได้ชัดว่าไม่ได้มาเพื่อ ‘ตักจันทร์’

นางมองไปรอบๆ อย่างรวดเร็วอีกครั้ง มองเห็นบัณฑิตหนุ่มที่แนะนำตัวเองในตอนแรก แล้วก็เห็นเรือของอาจารย์อู๋จอดอยู่รอบนอกยังไม่จากไปไหน ยังมีเหล่าบุรุษที่เมื่อครู่เพิ่งเข้ามาคุยกับนางอย่างต่อเนื่อง พวกเขาต่างไม่มีเจตนาที่จะจากไป เหมือนว่า…ราวกับว่า…จะรอไปจนกว่านางจะตัดสินใจ

“ท่านยาย ตกลงว่า…ตกลงว่าคืนนี้มากันกี่คนกันแน่ อ้อ ไม่…ท่านไม่ต้องบอกข้า ข้าจะกลับแล้ว…อ๊ะ โม่เอ๋อร์กับหนิวนิวยังอยู่บนเรืออีกลำ ข้าจะพาพวกนางกลับไป นี่ก็ดึกมากแล้ว” นางสูดหายใจเข้าลึกๆ ฝืนทำใจให้สงบ อยากให้นายเรือช่วยด้วยการพายเรือยาวฝ่าวงออกไปตามหาโม่เอ๋อร์

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 131-132

บทที่ 131 จะว่าไปแล้วการที่นางเข้ามาในจวนโม่เป่ยอ๋องได้นั้นช่างเป็นความบังเอิญนัก ครั้งหนึ่งในระหว่างปฏิบัติการลับ นางบั...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 133-134

บทที่ 133 เนื่องจากเหตุการณ์เชี่ยวจือถูกสวมรอย จวนโม่เป่ยอ๋องที่ภายนอกดูเงียบสงบ ความจริงแล้วมีการปรับเปลี่ยนกฎระเบียบทั...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ห้วงฝันบันดาลรัก บทที่ 97-98

บทที่ 97 กรงเล็บมาร หวงหร่างลูบชายกระโปรงของชุดกระโปรงตัวหนึ่ง ชายกระโปรงตัวนั้นประดับด้วยขนวิหค นุ่มนิ่มเป็นพิเศษ ส่วนใ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ลำนำฝูหรงเคียงกระเรียน บทที่ 17.1

บทที่ 17.1 ตกปลาตามลำพังท่ามกลางสายลมและหิมะ ‘เส้นแบ่ง’ คำนี้ราวกับจี้เข้าไปตรงใจกลางกะโหลกศีรษะของหยางหลุน เขารีบกล่าวก...

community.jamsai.com