จ้าวฉงอีกลับเห็นด้วยอย่างยิ่งยวด ท่าทางราวกับปกติวีรชนล้วนมีความเห็นตรงกัน พยักหน้าติดกันหลายครั้งพร้อมกล่าวสนับสนุน
“ใช่แล้วๆ”
ซูเจ๋อหลันอดจ้องน้องสาวอย่างขุ่นเคืองแวบหนึ่งไม่ได้
หลี่เจี่ยนกลับแย่งลูกธนูมาจากมือซูเจ๋อหลันทันควัน ก่อนจะส่งให้จ้าวฉงอี “แม่นางเสี่ยวหม่าน เจ้าดูสิ”
จ้าวฉงอีรับส่วนก้านธนูนั่นจากมือเขา แสร้งทำทีลูบคลำอยู่พักหนึ่ง ถึงค่อยกดเข้ากับส่วนหัวธนูในมือตนเองเบาๆ แว่วเสียงดัง ‘กริ๊ก’ แล้วชิ้นส่วนทั้งสองก็ประกอบรวมกันเป็นลูกธนูที่สมบูรณ์อีกครั้ง
หลี่เจี่ยนเห็นดังนั้นก็รู้สึกอัศจรรย์ใจนัก “แม่นางเสี่ยวหม่าน นี่มัน…”
จ้าวฉงอีส่งลูกธนูในมือที่ประกอบเสร็จเรียบร้อยให้หลี่เจี่ยน
หลี่เจี่ยนรับมาพิจารณาดูอย่างละเอียดอยู่นาน ถึงได้ค้นพบร่องรอยผิดสังเกตบนลูกธนูดอกนั้น “ออกแบบได้ประณีตเหลือเกิน…”
จ้าวฉงอีเห็นเขาเอาแต่ถอนหายใจอย่างตกตะลึง เนิ่นนานไม่คิดเชื่อมโยงไปยังทิศทางที่นางต้องการเสียที นางลังเลอยู่ว่าจะบอกให้ละเอียดอีกนิดดีหรือไม่ แต่ในฐานะซูเสี่ยวหม่านแห่งตำบลตงหลี ถ้าหากนางปากมากกว่านี้ก็จะดูน่าสงสัยขึ้นมาน่ะสิ
ขณะกำลังลังเลก็มีคนสองคนเดินเข้ามาจากข้างนอกกะทันหัน พวกเขาล้วนมีรูปร่างสูงโปร่ง สวมชุดขุนนางสีครามเข้มเกือบดำเหมือนกัน จ้าวฉงอีมองแค่แวบเดียวก็หลบไปอยู่ด้านหลังซูเจ๋อหลัน…ราวกับสาวน้อยที่ทั้งขี้ขลาดและหวาดกลัวคนแปลกหน้า
ซูเจ๋อหลันเห็นน้องสาวหวาดกลัวก็รีบปกป้องนางไว้ด้านหลังแล้วยืนขวางจนบังได้มิดชิด
สองคนนั้นเดินเคียงไหล่กันเข้ามา สีหน้าเย็นชาบึ้งตึง ทั่วร่างกายและบนใบหน้าเขียนไว้เด่นหราว่าคนแปลกหน้าห้ามเข้าใกล้ พอบรรดาเจ้าหน้าที่ที่ว่าการที่ยุ่งอยู่กับงานมองเห็นสองคนนี้ก็ต่างเดินอ้อมไป ส่วนพวกเขาก็ไม่ได้สนใจไยดีใครหน้าไหน เดินตรงเข้าไปยังห้องโถงด้านใน
“สองคนนั้นเป็นคนใหญ่คนโตของหน่วยเทียนฉี มาจากเมืองหลวง หยิ่งยโสน่าดูเชียวล่ะ” หลี่เจี่ยนรอให้พวกเขาเดินเข้าไปแล้วถึงได้ลดเสียงลงบอกเล่าแผ่วเบา “พวกเขาเหมือนกำลังตามหาใครบางคนอยู่ แต่หาไม่เจอสักที…” เขาขยิบตาให้ซูเจ๋อหลัน อธิบายให้ฟังว่าเพราะเหตุใดสองคนนั้นจึงมีสีหน้าไม่พอใจ
ซูเจ๋อหลันก็เคยได้ยินชื่อของหน่วยเทียนฉี หลังจากฟังคำอธิบายแล้วก็พยักหน้ารับรู้โดยไม่ได้เอ่ยถามมากความอันใด นั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาสมควรจะรู้
จ้าวฉงอีรอจนสองคนนั้นเดินหายลับไปแล้วถึงได้กล้าชะโงกศีรษะออกมา
ตามหาคน? หาใครกัน หาข้าใช่หรือไม่
แต่ตอนนี้สิ่งที่ยืนยันได้เพียงอย่างเดียวคือพวกเขาไม่ได้เปิดเผยภาพใบหน้าของนางและมอบรางวัลแก่ผู้พบเบาะแส มิเช่นนั้นหลี่เจี่ยนเห็นหน้านางแล้วคงไม่มีทางนิ่งเฉยได้ถึงเพียงนี้
การพบเจอคนของหน่วยเทียนฉีในที่ว่าการ บอกตามตรงว่าจ้าวฉงอีก็ไม่แปลกใจเท่าไรนัก อย่างไรเสียนางก็รู้มาแต่แรกแล้วว่าการกวาดล้างโจรภูเขามีผลงานของพวกเขารวมอยู่ในนั้นด้วย พี่ใหญ่ของพวกเขาอย่างโจวเวินหรานออกโรงเองเลยนะ! ทว่าตอนนี้พอเห็นหน้าพวกเขาแล้วจ้าวฉงอีก็พักความคิดอยากจะชี้แนะเตือนสติหลี่เจี่ยนต่อเอาไว้ก่อน ในเมื่อเรื่องนี้มีหน่วยเทียนฉีเข้ามาแทรกก็ไม่จำเป็นต้องให้นางปากมากอีก