โจวเวินหราน เจ้าหมอนั่นแม้นิสัยใจคอกับชื่อเสียงล้วนไม่ดีงาม แต่ความสามารถในการทำงานนับว่าไม่เลวเลย ถ้าไม่อย่างนั้นเขาอาศัยแค่มิตรภาพน้อยนิดในวัยเยาว์กับฮ่องเต้คงไม่มีทางได้รับความโปรดปรานมาง่ายดายถึงเพียงนี้ และยังเข้ามารับผิดชอบหน่วยงานสำคัญอย่างหน่วยเทียนฉีแทนฮ่องเต้เช่นนี้ นับเป็นคนสนิทของฮ่องเต้อย่างแท้จริง
“แม่นางเสี่ยวหม่าน เจ้าไม่ต้องกลัวนะ สองคนนั้นเป็นคนใหญ่คนโตจากเมืองหลวง ครั้งนี้สามารถกวาดล้างโจรภูเขากลุ่มนั้นได้อย่างราบรื่นก็ต้องขอบคุณพวกเขามากเลยล่ะ” หลี่เจี่ยนเห็นแม่นางน้อยสกุลซูผู้นั้นแอบเหม่อลอยอยู่หลังพี่ชาย คิดว่าคงตกใจกลัวเข้าแล้ว จึงเอ่ยปลอบโยนนาง
จ้าวฉงอีกะพริบตาปริบๆ ค่อยพยักหน้าตอบ พอเห็นเขาท่าทางพูดคุยด้วยง่ายก็ถามทันที “ศพของโจรภูเขาพวกนั้นเล่า”
หลี่เจี่ยนแทบสำลัก ไม่คิดว่าสาวน้อยหน้าตางดงามจะถามคำถามโหดร้ายเช่นนี้ออกมาได้ แต่คิดว่าบางทีเป็นเพราะนางต้องเผชิญกับเหตุการณ์ร้ายแรงคราวนั้นมา จะเกลียดชังพวกโจรภูเขาก็สมเหตุสมผลอยู่ จึงกล่าวปลอบโยนต่อสักหน่อย
“ศพพวกนั้นถูกรวบรวมมาครบก็เผาทิ้งในที่เกิดเหตุไปแล้ว”
“ทั้งหมดเลยหรือ” จ้าวฉงอีซักถามต่อ
“ทั้งหมดเลย” หลี่เจี่ยนพยักหน้า
จ้าวฉงอีรู้สึกเสียดายอยู่บ้าง หากไม่สามารถตรวจดูศพเหล่านั้นกับตาตนเองก็ไม่มีวันรู้ว่าตกลงพวกเขาเป็นชาวหนานเซียงหรือไม่กันแน่…ทว่าในเมื่อเรื่องนี้มีคนของหน่วยเทียนฉียื่นมือเข้ามา นางก็คงไม่จำเป็นต้องมากังวลอีก
ในตอนนี้เองเจ้าหน้าที่ที่ว่าการไปนำหยกประดับกลับมาแล้ว หลี่เจี่ยนมอบมันให้ซูเจ๋อหลัน “เช่นนั้นรบกวนพี่ซูส่งหยกประดับนี้คืนเจ้าของเดิมแล้ว”
ซูเจ๋อหลันส่งเสียงตอบกลับพร้อมรับหยกประดับมา เมื่อเห็นจ้าวฉงอีมองตามด้วยความอยากรู้อยากเห็นก็รีบร้อนเก็บหยกไป ไม่ยอมปล่อยให้นางเห็นผ่านตา…ในเมื่อรู้ว่าน้องสาวเกิดความคิดที่ไม่เหมาะไม่ควร เขาในฐานะพี่ชายคนโตแน่นอนว่าต้องหยุดยั้งความคิดของนาง!
ซูเจ๋อหลันครุ่นคิดอย่างเย็นชาไร้น้ำใจ
หลังเก็บหยกประดับเรียบร้อย เห็นภายในที่ว่าการงานยุ่งล้นมือไปหมด ซูเจ๋อหลันจึงพาน้องสาวกล่าวอำลา เผื่อเลี่ยงไม่ให้นางสร้างความวุ่นวายเพิ่ม…อีกอย่างพาน้องสาวออกมาด้วย เขาจะกลับไปช้ามากไม่ได้ มิเช่นนั้นมารดารู้เข้าต้องตีเขาขาหักแน่
จ้าวฉงอีสืบเบาะแสตามที่ต้องการได้แล้ว ทั้งยังหวั่นเกรงคนจากหน่วยเทียนฉีเล็กน้อย อย่างไรเสียพวกเขาก็ปรากฏตัวแล้ว โจวเวินหรานยังจะอยู่อีกไกลได้หรือ ดังนั้นนางจึงก้าวขึ้นรถม้าอย่างเชื่อฟัง ไม่ได้สร้างปัญหาอะไรเพิ่ม
ระหว่างรถม้าวิ่งไปเสียงดังกุกกัก จ้าวฉงอีเลิกผ้าม่านขึ้น กวาดมองไปรอบๆ ตลอดเส้นทาง
บนท้องถนนมีบรรยากาศตึงเครียดอย่างบอกไม่ถูก ในฝูงชนคล้ายมีสายลับเพิ่มขึ้นมามากมาย พวกเขาแฝงตัวอยู่ท่ามกลางชาวบ้านธรรมดา แยกแยะตัวตนออกมาได้ยากพอสมควร ทว่าระหว่างเคลื่อนไหวอาจเผยให้เห็นพิรุธบางอย่าง
“บนถนนมีคนแปลกหน้าเพิ่มขึ้นมากเลย” ซูเจ๋อหลันที่บังคับรถม้าอยู่ด้านหน้าพลันเอ่ยขึ้น จากนั้นก็สั่งกำชับน้องสาวอีกรอบ “เสี่ยวหม่าน เมื่อครู่หัวหน้ามือปราบหลี่ก็บอกแล้ว ตอนกวาดล้างโจรภูเขามีพวกมันหลบหนีมาได้คนหนึ่ง ระยะนี้เจ้าพยายามอย่าออกไปที่ใดตามลำพัง”
จ้าวฉงอีเอ่ยตอบรับอย่างไม่ใส่ใจนัก พอสังเกตเห็นมีคนมองมาทางนี้นางจึงปล่อยผ้าม่านลง
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 20 ก.ย. 68