บทที่ 1
เป๊ง! ยกที่หนึ่งเริ่มได้
ย้อนเวลากลับไปสองสัปดาห์ก่อน
ชนาพร จรัสกุล หรือเป็ด เป็นหนึ่งในกองบรรณาธิการคอลัมน์รักวัยใส และมีหุ้นส่วนในสำนักพิมพ์นิตยสารขวัญใจวัยทีนชื่อดังของประเทศอย่างไอเลิฟ (I Love) กำลังนั่งหน้าเครียดพลางยกนิ้วโป้งวนขมับสองข้างของตัวเองไปมาในห้องประชุม เหตุเพราะธุรกิจนิตยสารที่เธอกับเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยอีกสามคนสู้ปลุกปั้นกำลังเดินทางมาถึงทางตัน โดยผู้ถือหุ้นทั้งหมดได้แก่ชนาพร เกวลิน เฌอริมา และนัชชารี เห็นพ้องตรงกันที่จะประกาศปิดตัวนิตยสารขวัญใจวัยรุ่นสุดฮิตกลางเดือนหน้า
สาววัยยี่สิบหกปีอยู่ในอารมณ์ท้อถอย เดินโซเซออกมาจากตึกออฟฟิศ ฝีเท้าสองข้างที่เจ้าตัวรู้สึกว่ายิ่งก้าวเดินยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ หยุดยืนอยู่หน้าประตูทางออกที่เชื่อมกับลานจอดรถ ก่อนจะทอดถอนใจออกมาเสียงดังจนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำชั้นที่ยืนเฝ้าประตูอยู่ไม่ไกลสะดุ้งเฮือกแล้วหันมามอง ทว่าคนกำลังสิ้นหวังไม่คิดจะสนใจสรรพสิ่งรอบตัว หญิงสาวคิดย้อนไปถึงเหตุผลต่างๆ ที่ทำให้นิตยสารอย่างไอเลิฟเดินทางมาถึงจุดอวสาน ต้องปิดตัวลงเหลือเพียงตำนาน ก็จริงอยู่ที่ยุคสมัยเปลี่ยนไป พฤติกรรมของผู้บริโภคจึงเปลี่ยนแปลงตาม แต่มันไม่ใช่สาเหตุหลักที่ทำให้ธุรกิจต้องล้มเลิกหรอก
‘ข่าวดี ฉันได้ทุนไปเรียนต่อโทที่ลอนดอนแล้วโว้ย’ เกวลินกระโดดตัวลอยพลางกรี๊ดกร๊าด ก่อนจะยื่นหน้าจอมือถือที่เปิดอีเมลค้างเอาไว้ให้เพื่อนอีกสามคนดูหลักฐาน
‘ราเชดบอกว่าหลังแต่งงานกันแล้ว ฉันจะต้องย้ายตามเขาไปอยู่คูเวต’ นัชชารีสาวไทยผู้โชคดีเพราะถูกมหาเศรษฐีบ่อน้ำมันคุกเข่าขอแต่งงานเมื่อสามเดือนก่อน บอกเล่าแผนชีวิตคู่ของตัวเองด้วยประกายตาวิบวับ
‘แม่ของฉันเป็นมะเร็ง ฉันต้องกลับไปอยู่เชียงรายเพื่อดูแลท่านในวาระสุดท้าย’ เฌอริมาพูดด้วยหน้าตาเศร้าหมอง ก่อนเขื่อนน้ำตาที่เจ้าตัวกลั้นเอาไว้ตลอดหลายวันจะพังทลายลงในที่สุด
สีหน้าและน้ำเสียงของเกวลิน นัชชารี และเฌอริมายังคงลอยวนเวียนรบกวนระบบสมองของชนาพรเหมือนมีคนคอยกดปุ่มรีเพลย์ซ้ำแล้วซ้ำอีก และด้วยปัญหานานัปการที่รับรู้มาทำให้เธอตัดใจยอมปิดฉากธุรกิจกับเพื่อนสาวอีกสามคนลงในที่สุด
คนถูกความทุกข์รบกวนจิตใจอดจะถอนหายใจออกมาอีกรอบไม่ได้ ความจริงเธอเองก็คาดหวังกับไอเลิฟไว้มาก อุตส่าห์ลงทุนลงแรงปลุกปั้นจนนิตยสารเป็นที่รู้จัก ไม่คิดว่ามันจะเดินทางมาถึงจุดอวสานรวดเร็วปานนี้ พอคิดอย่างนั้นชนาพรก็ทำท่าจะถอนหายใจเฮ้อเป็นรอบที่สาม แต่ก็ตัดสินใจฝืนสูดออกซิเจนเข้ารูจมูกฟืดใหญ่แทน พลันนั้นในสมองก็นึกไปถึงตอนที่มารดาคะยั้นคะยอพาเธอไปดูดวงกับหมอโหราศาสตร์ชื่อดังเมื่อปลายปี ส่วนตัวหญิงสาวไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกนี้เท่าไหร่ แต่ที่ยอมไปเพราะตามใจมารดาจึงฟังบ้างเหม่อบ้าง ได้ยินแว่วๆ ว่าอุปนิสัยพื้นดวงเธอเป็นคนห้าวหาญบ้าบิ่น เอาตัวรอดได้ทุกสถานการณ์ ปีนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตด้านการงานและความรักแบบไม่คาดฝัน ไม่คิดเลยว่าคำทำนายของหมอคนนั้นจะแม่นเพียงนี้ ปัดโธ่เอ๊ย! การเปลี่ยนแปลงเรื่องงานครั้งใหญ่ ไอ้เราก็นึกว่าจะเจริญก้าวหน้า กลับกลายเป็นถอยหลังเข้าคลองเสียอย่างนั้น ริมฝีปากฉาบสีส้มอิฐบนล่างเม้มเข้าหากัน พานให้คิดว่าขนาดเรื่องงานยังวายป่วงขนาดนี้ แล้วเรื่องความรักเล่าจะขนาดไหนกัน
ชนาพรยืนสะบัดหัวไล่ความคิดไร้สาระ เนื่องจากรู้สึกว่าตัวเองกำลังจิตใจอ่อนไหวจนเริ่มงมงายเข้าไปทุกที พอคืนสติ หญิงสาวจึงกวาดสายตาไปทั่วลานจอดรถเพื่อมองหารถฟอร์จูนเนอร์สีบรอนซ์เทาของตน ก่อนจะเห็นมันจอดอยู่ในซองรอเจ้าของเดินไปหา ไม่ชักช้า เธอก้าวขาฉับๆ ตรงดิ่งไปยังยานพาหนะเป้าหมายทันที โดยลืมคำนึงถึงความปลอดภัยยามใช้ท้องถนน ส่งผลให้เจ้าตัวไม่ทันระวัง ไม่เห็นว่ามีรถคันหนึ่งกำลังขับพุ่งตรงมาทางเธอ
ปี๊นนน!
“กรี๊ดดด!”
ชนาพรหันไปมองยานพาหนะที่เสมือนมัจจุราชพรากชีวิตพลางกรีดร้องลั่นด้วยความตกใจถึงขีดสุด ริมฝีปากเปิดอ้าหวอ นัยน์ตาที่กำลังสับสนกับปัญหาชีวิตอยู่เบิกโพลง ก่อนจะคู้ตัวลง และสติสัมปชัญญะของเธอก็ดับวูบในเสี้ยววินาทีต่อมา