จู่ๆ จีอู๋จิ้งก็หัวเราะเสียงต่ำคราหนึ่ง ลมหายใจที่ผ่อนออกรินรดลงบนท้ายทอยของนางชวนให้รู้สึกจักจี้
ดวงตาจิ้งจอกของจีอู๋จิ้งปรือขึ้นครึ่งหนึ่ง ริ้วสีแดงก่ำจางลงแล้ว ยามนี้เขาก็ถามขึ้นว่า “กลัวแล้วหรือ”
กู้เจี้ยนหลีตะแคงหันหลังให้จีอู๋จิ้งไม่ขยับเขยื้อน ไม่เพียงไม่ขยับแต่ยังไร้ซึ่งวาจา นอนเงียบๆ อยู่บนเตียงที่มืดมิดเพราะปลดม่านมุ้งลงหมด
จีอู๋จิ้งไม่ได้เข้านอน เขาแนบหน้าผากกับท้ายทอยของหญิงสาวพลางหลุบตาไม่ยอมขยับเขยื้อนเช่นกัน กระทั่งรู้สึกได้ว่ามือของนางขยับเล็กน้อย
กู้เจี้ยนหลีพลิกข้อมือ จากนั้นก็บิดมือน้อยๆ ของตนเองออกจากการเกาะกุมของชายหนุ่มอย่างระมัดระวังจนฝ่ามือของเขาว่างเปล่าลง จีอู๋จิ้งไม่ได้ขยับตัว ซ้ำยังไม่ได้คว้าข้อมือนางไว้
ฝ่ามือของกู้เจี้ยนหลีแสบร้อนไปหมดทั้งยังปวดมาก แม้จีอู๋จิ้งจะเช็ดให้แล้ว แต่นางยังคงรู้สึกว่าสกปรกอย่างยิ่ง นางดึงชายเสื้อของเขาที่ร่นขึ้นเล็กน้อยเข้ามาใกล้ จากนั้นก็ถูฝ่ามือกับชายเสื้อโดยแรง
ถูแล้วถูอีก ถูแรงๆ เช่นนั้นไม่หยุด
นางเอ่ยเสียงงึมงำ “ท่านช่างน่ารำคาญจริงๆ”
จีอู๋จิ้งหลุดหัวเราะเสียงต่ำ หน้าผากที่แนบอยู่กับท้ายทอยขยับเล็กน้อยตามการหัวเราะ ทำเอากู้เจี้ยนหลีรู้สึกจักจี้ยิ่งกว่าเดิม
“กู้เจี้ยนหลี”
“เอาแต่เรียกข้าแล้วก็ไม่พูด จะทำอะไรกันแน่!” ภายในน้ำเสียงกระเง้ากระงอดของกู้เจี้ยนหลีแฝงแววไม่สบอารมณ์อยู่เล็กน้อย
“กู้เจี้ยนหลี”
กู้เจี้ยนหลียกมือทั้งสองปิดหูอย่างกรุ่นโกรธ
สายตาของจีอู๋จิ้งกวาดผ่านมือแดงๆ ของนางแล้วกล่าวขึ้นช้าๆ “มือเจ้าสกปรก จะเปื้อนไปถึงหูแล้ว”
กู้เจี้ยนหลีตัวแข็งค้าง รีบปล่อยมือโดยเร็วแล้วคว้ามือของเขาขึ้นมาเช็ดหูตนเองแทน
ฝ่ามือของจีอู๋จิ้งปัดผ่านใบหูร้อนผ่าวของนางไปมา เขาเงียบไปครู่หนึ่งก่อนกล่าวว่า “มือข้าก็สกปรก”
กู้เจี้ยนหลีขบริมฝีปากพลางผลักมือของเขาออก จากนั้นก็ขยับยุกยิกคลุมโปงนอนราวกับแมลงน้อยตัวหนึ่ง ก่อนหลับตาลงโดยแรง นางรับรู้อย่างเลือนรางว่าที่แท้ ‘แมลง’ ตัวนั้นไม่เพียงยืดได้หดได้ ยังสามารถพ่นน้ำสกปรกออกมาตอนที่เป็นไข้ด้วย ร่างกายบุรุษช่างน่ากลัวและซับซ้อนจริงๆ
น่าเสียดายรูปโฉมงดงามเย้ายวนของเขา บนร่างกายกลับยังมีอวัยวะที่อัปลักษณ์เช่นนี้
ดังนั้นมีบุตรสาวจะดีกว่า
กู้เจี้ยนหลีคิดเช่นนี้
เดิมทีนางคิดว่าตนเองจะรังเกียจอับอายจนหลับไม่ลง ทว่าสุดท้ายกลับหลับไปอย่างรวดเร็ว บางทีอาจเพราะเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางกลับจวน
นางหลับไปอย่างรวดเร็วจนจีอู๋จิ้งประหลาดใจอยู่เล็กน้อย ท่ามกลางความมืดมิดชายหนุ่มยกมุมปากขึ้นข้างหนึ่งเป็นรอยยิ้มมีเลศนัย
เช้าตรู่วันถัดมากู้เจี้ยนหลีตื่นเร็วกว่าจีอู๋จิ้ง เดิมทีเมื่อคืนนางก็พักผ่อนค่อนข้างเร็ว เวลาตื่นจึงเร็วขึ้นกว่าปกติเล็กน้อย นางคลึงดวงตาด้วยความสะลึมสะลือก่อนบิดขี้เกียจ จากนั้นค่อยหันมองจีอู๋จิ้งแวบหนึ่งอย่างเพิ่งรู้ตัว เห็นเขายังหลับอยู่ก็ลอบมองดูฝ่ามือตนเอง
ทั้งที่มองไม่เห็นร่องรอยใดอีกแล้ว นางกลับรู้สึกว่าฝ่ามือคันยุบยิบ
ไม่อยากคิดถึงอีกแล้ว
กู้เจี้ยนหลีมุ่นคิ้วพลางคลำหาไม้เท้าที่หัวเตียง จากนั้นก็เดินออกไปโดยพยายามเบาเสียงที่สุด เพิ่งจะเดินมาถึงด้านนอกก็ทำให้จี้ซย่าตกใจแล้ว อีกฝ่ายรีบเข้ามาประคองนางนั่งลงก่อนเตรียมน้ำให้นางล้างหน้าล้างตา
ตอนนี้เองหลินหมัวมัวก็รีบเข้ามารายงานด้วยหน้านิ่วคิ้วขมวด “ฮูหยินเจ้าคะ คุณชายหกก่อเรื่องอีกแล้ว ยามนี้ถูกฮูหยินผู้เฒ่ากักตัวไว้จะลงโทษเจ้าค่ะ!”
ครั้งก่อนกู้เจี้ยนหลีเคยกำชับไว้ว่าหากเกิดเรื่องเช่นนี้อีกให้มารายงานนาง หลินหมัวมัวลังเลอยู่นาน สุดท้ายก็ยอมมารายงาน