“พี่หญิง!” จู่ๆ กู้ชวนก็เข้ามากอดขาของนางไว้
น้องชายผู้นี้ซุกซนมาตั้งแต่เด็ก ไม่ค่อยเชื่อฟังนัก ทว่าตั้งแต่ตระกูลของนางเกิดเรื่อง เขาก็เงียบขรึมจนผิดวิสัย ทั้งวันแทบไม่ยอมพูดสักคำ ตอนนี้ดวงตาของเด็กน้อยแดงก่ำ เสียงเล็กๆ ยังกล่าวต่ออย่างหนักแน่น “ท่านรอข้านะ!”
กู้เจี้ยนหลีมองกู้ชวนผ่านชายผ้าคลุมหน้า จากนั้นลูบศีรษะเขาเล็กน้อยพลางกล่าว “เสี่ยวชวนโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ต้องปกป้องท่านพ่อกับท่านแม่ให้ดี”
กู้ชวนพยักหน้ารับโดยแรง
กู้เจี้ยนหลีหมุนกายเดินออกไปข้างนอก นางอดใจไม่หันกลับไปมอง ก้าวขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวอย่างมั่นคง จากนั้นเกี้ยวเจ้าสาวก็เคลื่อนที่โคลงเคลงห่างออกมาไกลขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งเสียงร้องเรียกที่เบื้องหลังก็เริ่มจะไม่ได้ยินแล้ว
กู้เจี้ยนหลีที่นั่งอยู่ในเกี้ยวปล่อยน้ำตาไหลรินเป็นสาย หยาดน้ำตามากมายเปรอะเปื้อนทั่วใบหน้างดงาม
สามเดือนที่ตกจากสวรรค์ร่วงสู่โคลนตมนี้นางมักจะกลั้นน้ำตาเอาไว้เสมอ วันนี้กลับกลั้นไม่อยู่เสียแล้ว
ผ้าคลุมสีแดงปกปิดใบหน้า เกี้ยวเจ้าสาวเสมือนปราการขวางกั้น ล้วนแต่ช่วยให้นางได้ร่ำไห้อย่างไร้เสียงจนสาแก่ใจ
เรื่องราวในอดีตราวกับปรากฏขึ้นตรงหน้า ทว่าดวงตาเอ่อคลอด้วยหยดน้ำ จะอย่างไรก็มองภาพช่วงเวลาอันงดงามเหล่านั้นได้ไม่ชัดเจน
กระทั่งร่ำไห้จนปลอดโปร่งแล้วกู้เจี้ยนหลีจึงหยิบผ้าเช็ดหน้าจากในแขนเสื้อออกมาบรรจงซับใบหน้า ดวงหน้าที่เคยชโลมไปด้วยน้ำตาคล้ายจะขาวนวลเนียนดุจหยกบริสุทธิ์เสียยิ่งกว่าเก่า หญิงสาวยกมุมปากขึ้นช้าๆ แย้มรอยยิ้มน้อยๆ อย่างสง่างาม
เกี้ยวเจ้าสาวของนางถูกหามเข้าจวนก่วงผิงป๋อทางประตูข้าง บรรยากาศเรียบง่ายชืดชา ปราศจากเสียงประทัดและความครื้นเครง
“ฮูหยินห้า ลงจากเกี้ยวได้แล้วเจ้าค่ะ”
มือข้างหนึ่งยื่นออกมาจากภายในเกี้ยว ซ่งหมัวมัว* ชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นค่อยเข้าไปประคอง นางประคองกู้เจี้ยนหลีเข้าไปในเขตเรือนเล็ก อดไม่ได้ที่จะอธิบายไปด้วย “สุขภาพของนายท่านห้าไม่ดีนักจึงไม่อาจเสียงดังรบกวน งานเลี้ยงจัดขึ้นที่เรือนชั้นนอก ส่วนพิธีการอื่นๆ ล้วนแต่ลดทอนลงเจ้าค่ะ”
กู้เจี้ยนหลีพยักหน้ารับเบาๆ พลางก้มมองทางเดินหินผ่านชายผ้าคลุมหน้า
ซ่งหมัวมัวยังเอ่ยบางอย่างต่อ ทว่ากู้เจี้ยนหลีไม่ได้ตั้งใจฟังนัก เป็นเพราะเข้าใกล้นายท่านห้าสกุลจีผู้นั้นขึ้นเรื่อยๆ ในใจนางจึงยิ่งหวาดหวั่น
พอเข้ามาถึงที่หมาย กลิ่นยาภายในห้องพลันพรั่งพรูเข้ามาปะทะจมูก
รอจนซ่งหมัวมัวประคองนางนั่งลงข้างเตียงใหญ่ กู้เจี้ยนหลีเหยียดหลังตรงทันที ทั้งร่างเครียดเกร็งไปหมด เหงื่อเย็นๆ ผุดพรายตรงหน้าผากไม่หยุด
คนผู้นั้น…อยู่ข้างๆ ข้าอย่างนั้นหรือ
คลองสายตาที่บดบังด้วยผ้าคลุมสีแดงพลันปรากฏภาพนายท่านห้าสกุลจีที่พบเจอในฝัน…อสุรกายตัวมหึมาที่มีสามเศียรหกกรตนนั้น
มือที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อกว้างกำผ้าเช็ดหน้าแน่น อาจเพราะออกแรงมากเกินไปเล็บจึงฉีก เจ็บเสียจนนางถึงกับสูดลมหายใจเย็นเฮือกหนึ่ง
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 14 ก.ย. 68