“สกุลเฉินของพวกท่านคิดจะขังภรรยาเอกไว้ต่างอนุนอกเรือน จากนั้นก็แต่งภรรยาใหม่แทนอย่างนั้นหรือ” กู้เจี้ยนหลีเดินขึ้นหน้าหนึ่งก้าว เข้าใกล้ฉินหมัวมัวมากขึ้นด้วยท่าทีกดดัน
ดวงตาของฉินหมัวมัวพลันสั่นไหว อธิบายขึ้นอย่างร้อนตัว “ที่กล่าวว่าหย่าร้างภรรยานั้นเป็นเพียงแผนการเฉพาะหน้าเท่านั้นเจ้าค่ะ ไม่เช่นนั้นพวกเราคงไม่เตรียมเรือนไว้นอกจวนหรอก ทุกอย่างล้วนทำเพียงชั่วคราว เพียงชั่วคราวเท่านั้น…”
“สกุลเฉินของพวกเจ้าอย่าได้แม้แต่จะคิด!” เถาซื่อโกรธจนควันออกหู “ใครคอยสนับสนุนสกุลเฉินของพวกเจ้า ใครช่วยพวกเจ้าสกุลเฉินใช้หนี้จนหมด! ตอนแรกเป็นใครกันที่คุกเข่าสาบานให้ฟ้าดินเป็นพยานว่าจะดีกับไจ้หลีของเรา ตอนนี้พอเกิดเรื่องกลับทำเช่นนี้ให้ผู้อื่นนึกรังเกียจ! อยากจะปัดสัมพันธ์ให้พ้นทาง แต่ก็ตัดใจทิ้งหงส์ฟ้าที่ตนได้ไปครอบครองไม่ลงเลยจะรั้งไจ้หลีไว้ให้เป็นอนุนอกเรือน ไม่มีใครน่ารังเกียจเท่าสกุลเฉินของพวกเจ้าอีกแล้ว! รอให้นายท่านของเราฟื้นขึ้นมาล้างมลทินก่อนเถิด รับรองไม่ปล่อยพวกเจ้าไว้แน่!”
“อ้อ” ฉินหมัวมัวอุทานออกมา ถ้อยคำต่อจากนั้นเต็มไปด้วยแววถากถางเยาะเย้ย “ล้างมลทิน? กู้ฮูหยิน ใต้หล้านี้เกรงว่าคงมีแต่พวกท่านเท่านั้นล่ะที่เชื่อว่าเขาถูกปรักปรำ…”
วาจานี้ล่วงล้ำมาเหยียบย่ำความบริสุทธิ์ของกู้จิ้งหยวนโดยตรง เถาซื่อจึงยิ่งโกรธเกรี้ยว ชี้หน้าด่าฉินหมัวมัวทันที “นางบ่าวชั้นต่ำเช่นเจ้าลองพูดอีกรอบดูสิ!”
ตอนนั้นเองกู้ไจ้หลีผลักประตูออกมาอย่างแรง ยืนอยู่หน้าประตูด้วยใบหน้าเรียบเฉย จากนั้นค่อยๆ ก้าวออกมา ทั่วร่างบอบบางเต็มไปด้วยกลิ่นอายเย็นชาสูงส่ง
“รบกวนฉินหมัวมัวนำหนังสือหย่าฉบับนี้กลับไปด้วย” กู้ไจ้หลียัดจดหมายฉบับหนึ่งใส่มือฉินหมัวมัว “จากนี้สกุลกู้เรากับสกุลเฉินของพวกท่านไม่เกี่ยวข้องกันอีก”
“นี่…” ฉินหมัวมัวมองหนังสือหย่าในมือตนเองคราหนึ่ง
กู้เจี้ยนหลีมองผู้เป็นพี่ เห็นน้ำตาของนางหยดลงอย่างรวดเร็วขณะหันกายเดินกลับไป
ฉินหมัวมัวคิดจะตามกู้ไจ้หลีไป กู้เจี้ยนหลีกลับเอาตัวเข้าขวาง แตกต่างจากโทสะของเถาซื่อ น้ำเสียงของกู้เจี้ยนหลีกลับเต็มไปด้วยความเย็นชาห่างเหิน “เชิญกลับไปได้แล้ว”
ฉินหมัวมัวมองกู้ไจ้หลีที่เดินจากไปไกลขึ้นทุกที จากนั้นมองไปยังเถาซื่อที่โทสะยังไม่คลาย สุดท้ายก็กลับมามองกู้เจี้ยนหลีซึ่งอยู่ตรงหน้า ถอนหายใจคราหนึ่งก่อนจะหมุนกายเดินจากไป
ทันใดนั้นกู้ชวนที่อยู่ในห้องพลันร้องขึ้นเสียงดัง กู้เจี้ยนหลีกับเถาซื่อต่างตกใจ พากันรีบวิ่งตามไปดู
ดวงตาฉินหมัวมัวพลันสว่างวาบ คิดจะตามไปดูอีกคน ทว่ากลับถูกลี่จื่อคว้าคอเสื้อจากทางด้านหลังโยนออกไปนอกประตูเรือนเสียก่อน
จากนั้นมีเสียงของกู้เจี้ยนหลีดังมาจากด้านใน “ลี่จื่อ รีบไปเชิญท่านหมอมาเร็ว!”
“ได้เลยเจ้าค่ะ!” ลี่จื่อฉีกยิ้ม กระโดดโลดเต้นออกไปตามหาหมออย่างสบายอารมณ์
“เร็วหน่อย!” กู้เจี้ยนหลีเอ่ยสำทับเป็นครั้งที่สอง
พอลี่จื่อได้ยินเช่นนั้นจากที่กระโดดโลดเต้นอยู่ก็รีบพุ่งออกไปราวกระต่ายออกวิ่ง ผ่านไปครู่เดียวก็ดึงคอเสื้อหมอผู้หนึ่งเป็นการ ‘เชิญ’ กลับมา
ภายในห้องกู้ไจ้หลีเอนพิงหัวเตียงมองสีหน้าเป็นกังวลของเถาซื่อกับกู้เจี้ยนหลี นางยกยิ้มเล็กน้อยก่อนเอ่ยขึ้น “ข้าไม่เป็นไรเสียหน่อย”
“ไม่เป็นไรแล้วจะเป็นลมล้มพับกะทันหันได้อย่างไร” เถาซื่อไม่เห็นด้วย
ด้านกู้เจี้ยนหลีเอ่ยถามท่านหมอ “พี่สาวข้าเป็นอย่างไรบ้าง”
ท่านหมอจับชีพจรอยู่นาน ในที่สุดก็ปล่อยมือแล้วประสานมือกล่าว “ยินดีด้วย ฮูหยินท่านนี้ตั้งครรภ์แล้วขอรับ”
ทุกคนในห้องได้ยินแล้วต่างนิ่งอึ้งไปพร้อมกัน
กู้ไจ้หลีเม้มปากแน่นอย่างไม่อยากเชื่อ นางลองมาหลายวิธีการแล้วแต่สามปีที่ผ่านมาก็ไม่เคยตั้งครรภ์ ยามนี้กลับตั้งครรภ์ขึ้นมาเสียอย่างนั้น
กู้เจี้ยนหลีลอบมองสีหน้าของผู้เป็นพี่สาวก่อนถามย้ำกับท่านหมออีกครั้ง “ท่านมั่นใจหรือ”
“แน่นอนว่ามั่นใจ!”
ท่ามกลางความเงียบหลังจากนั้นกู้ไจ้หลีพลันถอนใจเสียงเบาคราหนึ่งแล้วเอ่ยปากอย่างเรียบเฉย “ท่านหมอ รบกวนท่านเขียนเทียบยาขับเลือดให้ข้าด้วย”
“หา?! นี่…” ท่านหมอมองสีหน้าคนนั้นทีคนนี้ที ก่อนจะกระจ่างแจ้งโดยพลัน
กู้เจี้ยนหลีมุ่นคิ้ว อยากเตือนอีกฝ่ายแต่ไม่รู้ควรเตือนเช่นไร ซ้ำยังไม่รู้ว่าควรเตือนดีหรือไม่ จึงเอาแต่มองสีหน้าเรียบนิ่งของพี่สาว ก่อนจะกุมมือนางเอาไว้พลางถามเสียงอ่อน “พี่หญิง ท่านคิดดีแล้วหรือ”