แสงอาทิตย์ที่ลอดผ่านหน้าต่างฉลุลายตกกระทบลงบนปิ่นหงส์ทองแท้ในมือเหยาซื่อจนเกิดเป็นประกายเรืองรอง
ในใจเหยาซื่อพลันเกิดความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูกขึ้นมา
เมื่อก่อนเครื่องประดับที่ดีที่สุดของนางมีเพียงที่ทำจากเงิน ซ้ำยังมีรวมกันไม่กี่แบบ ทว่าบัดนี้ปิ่นหงส์ทองแท้ประดับไข่มุกอันวิจิตรงดงามเช่นนี้ รวมถึงเครื่องประดับหลากหลายในกล่องใหญ่หลายกล่องเบื้องหน้านี้ถึงกับเป็นของนางทั้งหมด?
เวลานี้เองเจียงชิงหว่านก็หยิบปิ่นหงส์จากมือเหยาซื่อไปปักให้ข้างมวยผม ก่อนยิ้มพลางหยิบคันฉ่องบานหนึ่งมาให้นางส่องดู
เหยาซื่อมองดูตนเองในคันฉ่องอย่างอึ้งงัน มิได้พูดอะไร
แม้แต่ตระกูลคหบดีที่มีเงินมากที่สุดในหมู่บ้าน ฮูหยินของเขาก็ยังไม่เคยปักปิ่นหงส์ที่งดงามเพียงนี้
จากนั้นเจียงชิงหว่านก็จูงเหยาซื่อเดินไปหยุดหน้าตู้เสื้อผ้าสีแดงเขียนลายทอง แล้วเปิดประตูตู้ออกให้นางดูเสื้อผ้าแพรพรรณหลากสีสันข้างใน
เหยาซื่อยื่นมือไปลูบเสื้อฤดูร้อนสีเขียวอมฟ้าตัวหนึ่งพลางหันหน้ามาถามเจียงชิงหว่านด้วยความลังเล “ของเหล่านี้ก็ล้วนเป็นของแม่เช่นกัน?”
เจียงชิงหว่านยิ้มพลางพยักหน้า “เจ้าค่ะ ท่านแม่ ทุกสิ่งทุกอย่างนี้ล้วนเป็นของท่าน อีกทั้งวันหน้าหากท่านต้องการสิ่งใด ก็สั่งให้เมิ่งอี๋เหนียงจัดการนำมาให้ได้เลย”
ทั้งจวนหย่งชางป๋อมีคนร่วมร้อยชีวิต งานต่างๆ ทั้งซับซ้อนทั้งจุกจิก จะให้เหยาซื่อกุมอำนาจดูแลงานในตอนนี้ย่อมเป็นไปไม่ได้ ทำได้เพียงให้เมิ่งอี๋เหนียงดูแลแทนไปก่อน รอวันหน้าถึงเวลาแล้วก็ค่อยทวงอำนาจดูแลงานในจวนนี้กลับมาอย่างช้าๆ
ในใจเจียงชิงหว่านรู้สึกเสียดายและรู้สึกไม่เป็นธรรมแทนเหยาซื่อ
เหยาซื่อจะดีจะชั่วก็เป็นบุตรสาวจากตระกูลซิ่วไฉ* เมิ่งอี๋เหนียงกลับเป็นเพียงบุตรสาวจากครอบครัวช่างฝีมือ หลังจากบิดามารดาเสียชีวิต พี่ชายถูกหนิงอ๋องเกณฑ์ไปนำกองทหาร นางไม่รู้หนังสือสักตัว แต่ต่อมานางติดตามอยู่ข้างกายเจียงเทียนโย่วโดยตลอด ได้มีชีวิตที่สุขสบาย ตอนนี้ยังได้กุมอำนาจดูแลงานในจวน พบปะกับผู้อื่นได้อย่างสง่าผ่าเผย ไม่มีอาการประหม่าแม้แต่นิดเดียว
ถ้ามิใช่เหยาซื่อต้องอยู่ปรนนิบัติฮูหยินผู้เฒ่าเจียงอยู่ที่กานโจวแทนเจียงเทียนโย่วมาตลอด นางที่รู้หนังสือ ฐานะก็เป็นถึงฮูหยินจวนป๋อ บัดนี้จะต้องเรียนรู้การดูแลงานในจวนเป็นแล้ว รวมถึงเรียนรู้การวางตัวให้เหมาะสมสง่าผ่าเผยเวลาพบปะกับสตรีจากตระกูลใหญ่อื่นๆ เป็นเช่นกัน มีหรือจะเป็นเช่นวันนี้ที่ปล่อยให้ตนเองขายหน้าต่อหน้าอนุภรรยาและบุตรสาวสายรองได้
เหยาซื่อยังคงมีสีหน้าเหมือนอยู่ในความฝัน ถูกเจียงชิงหว่านประคองเดินมานั่งลงบนเตียงเตาไม้ริมหน้าต่างทิศใต้ จากนั้นก็เรียกสาวใช้ให้ยกน้ำชาและของว่างมาให้
เป็นไฉ่สยาใช้ถาดน้ำชายกชาสองถ้วยเข้ามา ส่วนไฉ่อวิ๋นใช้ถาดสี่เหลี่ยมสีแดงยกขนมถั่วแขกม้วนหนึ่งจานและขนมถั่วเขียวอีกหนึ่งจานมาให้
ขนมล้วนวางอยู่ในจานกระเบื้องเคลือบขาวเขียนลายครามใบเล็ก ดูประณีตบรรจงยิ่ง