ครั้นนางกับเมิ่งอี๋เหนียงมาถึงเรือนหลิวเซียงก็เห็นเจียงเทียนโย่วกำลังกางแขนให้เหยาซื่อสวมชุดขุนนางให้อยู่
ชุดขุนนางสีแดงเข้ม แผ่นผ้าตรงหน้าอกและหลังปักเป็นลายพยัคฆ์ราชาของสรรพสัตว์ ช่างดูองอาจน่าเกรงขาม
สาวใช้กำลังเก็บจานชามบนโต๊ะด้านข้าง สามารถมองเห็นได้ว่ามีกับข้าวอย่างมะเขือสิบรสกับเป็ดตุ๋นซีอิ๊ว และยังมีพวกแป้งนมปิ้งกับโจ๊กข้าวเจ้าด้วย
คิดว่าพวกเขาคงเพิ่งกินอาหารเช้ากันเสร็จ
เจียงชิงหว่านจึงยอบตัวคารวะเจียงเทียนโย่วและเหยาซื่อ บนหน้ามีรอยยิ้มพอเหมาะ “ลูกคารวะท่านพ่อท่านแม่เจ้าค่ะ”
ชุดขุนนางสวมเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหยาซื่อกำลังรัดเข็มขัดให้เจียงเทียนโย่ว ครั้นได้ยินเสียงของเจียงชิงหว่านจึงหันหน้ามามอง
เจียงชิงหว่านเห็นบนหน้าเหยาซื่อมีรอยยิ้ม ดูท่าทางมีความสุขยิ่ง คิดว่าเมื่อคืนนางกับเจียงเทียนโย่วคงจะอยู่ด้วยกันอย่างปรองดอง ในใจก็อดจะยินดีแทนนางไม่ได้
ทว่าเมิ่งอี๋เหนียงไม่ว่าอย่างไรก็ยินดีไม่ลง
เมื่อก่อนเจียงเทียนโย่วมักค้างที่เรือนอี๋ชุนของนาง ตื่นเช้ามาล้วนเป็นนางปรนนิบัติเขากินอาหารเช้า สวมชุดขุนนางให้เขา แต่คิดไม่ถึงว่าตอนนี้นางถึงกับต้องมองดูสตรีอีกคนปรนนิบัติเจียงเทียนโย่ว ซ้ำนางยังพูดอะไรไม่ได้
เนื่องจากคนผู้นี้คือภรรยาที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรมของเขา
เมื่อคืนขณะเมิ่งอี๋เหนียงพลิกตัวไปมานอนไม่หลับยังคิดว่าในใจเหยาซื่อจะต้องมีความโกรธแค้นต่อเจียงเทียนโย่วแน่นอน ที่ผ่านมานางก็เป่าหูเจียงเทียนโย่วไม่น้อยครั้งเช่นกันเพื่อทำให้เจียงเทียนโย่วคิดว่าเหยาซื่อเป็นหญิงร้างสามี แม้ว่าเมื่อคืนจะเป็นฮูหยินผู้เฒ่าเจียงออกปาก เจียงเทียนโย่วถึงจำต้องค้างที่เรือนหลิวเซียง แต่นางก็คิดว่าคนทั้งสองต้องอยู่ด้วยกันอย่างไม่มีความสุขเป็นแน่ อีกทั้งเจียงเทียนโย่วก็อารมณ์เสียง่าย คงได้ออกจากเรือนหลิวเซียงมาที่เรือนอี๋ชุนของนางในทันที
แต่นางรออยู่ทั้งคืนเจียงเทียนโย่วก็ยังไม่มา มิหนำซ้ำบัดนี้ดูจากท่าทางของพวกเขาสองคน ชัดเจนว่าเมื่อคืนอยู่ด้วยกันอย่างปรองดองยิ่ง
สองมือที่กุมกันอยู่ตรงท้องน้อยของเมิ่งอี๋เหนียงกำแน่นขึ้นจนคล้ายว่าสามารถได้ยินเสียงเบาๆ จากการที่ข้อนิ้วถูกบีบ หากแต่นางถึงกับยังไม่รู้สึกถึงความเจ็บ
เจียงชิงหว่านมองดูเมิ่งอี๋เหนียงที่มีสีหน้าปั้นยากอยู่ข้างๆ สายตาที่อีกฝ่ายมองเจียงเทียนโย่วมีแววเศร้าเสียใจ แต่สายตาที่มองเหยาซื่อกลับมีแววเคียดแค้น ในใจเจียงชิงหว่านจึงพลันเข้าใจเรื่องหนึ่ง
เมิ่งอี๋เหนียงพึงใจในตัวเจียงเทียนโย่วจริงๆ มีเพียงพึงใจในตัวคนผู้หนึ่งอย่างแท้จริง ยามเห็นเขากับสตรีอื่นอยู่ด้วยกันในใจถึงจะมีความริษยา
ความริษยาสามารถทำให้คนพลิกโฉมหน้าไปได้ ดังนั้นต่อให้เมิ่งอี๋เหนียงน้ำนิ่งไหลลึกเพียงไร ยามนี้ก็ยังคงทำสีหน้าเรียบเฉยออกมามิได้
นี่ก็คือจุดอ่อนใหญ่ยิ่ง
มุมปากเจียงชิงหว่านมีรอยยิ้มบางๆ นางหยิบดอกเสาเย่ามาจากมือสาวใช้สองดอกก่อนกล่าวกับเหยาซื่อและเจียงเทียนโย่ว “ขณะเดินผ่านแปลงเสาเย่าเมื่อครู่นี้ ข้ามองเห็นดอกเสาเย่าในนั้นกำลังเบ่งบานดีจึงเด็ดมา คิดจะนำมาปักแจกันให้ท่านย่าและท่านแม่เจ้าค่ะ”