ตอนนั้นคนทั้งสองยังเป็นสะใภ้ที่เพิ่งแต่งเข้าตระกูลได้ไม่นาน ถึงแม้ตอนสาวๆ ในใจของแต่ละฝ่ายอาจนึกดูถูกกัน แต่ครั้นได้มาพบกันในช่วงบั้นปลายชีวิต ต่างฝ่ายต่างก็จอนผมขาวเทาราวหิมะ ในใจย่อมจะมีความสะเทือนใจใหญ่หลวง ความรู้สึกก็ลึกซึ้งขึ้นมา
หลังจากร่ำไห้ด้วยกันได้ครู่หนึ่ง คนทั้งสองถึงค่อยๆ สงบลงด้วยการปลอบใจของสาวใช้
คราวนี้ฮูหยินผู้เฒ่าชุยถึงค่อยสังเกตเห็นเจียงชิงหว่านที่ยืนอยู่ข้างๆ สายตาพินิจมองนาง ก่อนเอ่ยถามฮูหยินผู้เฒ่าเจียง “แม่นางผู้นี้คือ?”
“นี่คือหลานสาวของข้า” ฮูหยินผู้เฒ่าเจียงมีรอยยิ้มบนหน้า “อยู่ในลำดับที่สามในบ้าน” ทางหนึ่งก็เรียกเจียงชิงหว่าน “ชิงหว่าน รีบมาคารวะเหล่าไท่จวินเร็วเข้า”
ฮูหยินผู้เฒ่าชุยได้ยินนามของเจียงชิงหว่านชัดเจน ใบหน้าก็เปลี่ยนสีทันควัน สายตาที่มองมาก็เปลี่ยนแปลงเช่นกัน
“ชิงหว่าน? เจียงชิงหว่าน?” นางทางหนึ่งจ้องเจียงชิงหว่าน อีกทางก็พูดพึมพำเบาๆ
นามนี้ฮูหยินผู้เฒ่าชุยไม่อนุญาตให้ผู้ใดเอ่ยถึงอีกตั้งแต่เมื่อเก้าปีก่อนแล้ว นางเองก็ไม่เคยได้ยินอีกเลยเช่นกัน แต่คิดไม่ถึงว่าแม่นางตรงหน้านี้ก็จะมีนามว่า ‘เจียงชิงหว่าน’
ทั้งแซ่ทั้งนามเหมือนกับคนผู้นั้นมิผิดเพี้ยน
ฮูหยินผู้เฒ่าเจียงเห็นนางหน้าถอดสี สายตาที่มองเจียงชิงหว่านคล้ายแฝงด้วยแววประหม่าหวาดกลัว ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น จึงรีบถามว่า “ท่านเป็นอะไรไป หลานสาวผู้นี้ของข้ามีอะไรไม่เหมาะสมหรือ”
ฮูหยินผู้เฒ่าชุยพินิจมองเจียงชิงหว่านอย่างละเอียด ผิวขาวราวกับหยก คิ้วเรียวเล็กพาดยาว งดงามละมุนละไมประหนึ่งดวงจันทร์ในสายน้ำแห่งเจียงหนาน
เป็นเด็กสาวที่มีรูปโฉมชวนพิศผู้หนึ่ง ไม่มีที่เหมือนกับคนผู้นั้นแม้แต่กระผีกเดียว
คราวนี้หัวใจฮูหยินผู้เฒ่าชุยที่เต้นไม่เป็นส่ำมาตลอดถึงค่อยๆ สงบลงได้
ฮูหยินผู้เฒ่าชุยหัวเราะเยาะตนเองในใจว่าตนหวาดระแวงตื่นกลัวเกินเหตุจริงๆ คนผู้นั้นตอนนี้น่าจะกำลังใช้ชีวิตสุขสบายอยู่กับสหายวัยเด็กของนาง เด็กสาวตรงหน้านี้ก็แค่บังเอิญมีนามเหมือนกับคนผู้นั้นเท่านั้นเอง จะเป็นนางไปได้อย่างไรเล่า
ฮูหยินผู้เฒ่าชุยจึงหันหน้าไปตอบอีกฝ่ายยิ้มๆ “มิได้มีอันใดไม่เหมาะสม เพียงแต่ข้าเห็นหลานสาวผู้นี้ของท่านดูคุ้นตา จึงได้มองนานไปสักหน่อย”
รอยยิ้มบนใบหน้ายังคงมีแววกล้ำกลืนอยู่หลายส่วน ฮูหยินผู้เฒ่าเจียงเห็นแล้วในใจก็ให้นึกสงสัยยิ่ง ทว่าก็มิได้พูดอะไร แต่เปลี่ยนไปเอ่ยถึงเรื่องที่ชุยจี้หลิงได้ช่วยพวกนางไว้ขณะอยู่ชานเมืองไท่หยวนแทน
“…หากมิใช่ท่านโหวให้การช่วยเหลือ พวกข้าแม่สามี ลูกสะใภ้ รวมถึงหลานสาวจะต้องได้จบชีวิตอยู่ที่นั่นแน่นอน ตอนนี้ข้าไหนเลยจะยังมาพบท่านได้ ในใจข้าสำนึกต่อบุญคุณนี้ของท่านโหว จึงได้สั่งให้โย่วเกอไปเตรียมของขวัญตั้งแต่วันที่เดินทางมาถึงจวน และนี่อย่างไร วันนี้ก็มาเยี่ยมเยียนท่านแล้ว หากข้าไม่ได้มาในวันนี้ พวกเราสองคนคงจะไม่ได้พบกัน เห็นได้ว่าเป็นสวรรค์กำหนดไว้ก่อนแล้ว”