บทที่ 1
เดือนมีนาคม แสงแดดกำลังพอเหมาะ สายลมพัดผ่านต้นอ่อนสีเขียว ทุกที่เต็มไปด้วยบรรยากาศของฤดูใบไม้ผลิ
ขณะที่เฉินซินอวี่มารับจี้ชิงอิ่งตรงประตูทางเข้าออกของสถานีรถไฟความเร็วสูง ดวงตาก็เป็นประกายขึ้นมา แม้แต่นักท่องเที่ยวที่มีท่าทีเร่งรีบก็ชะลอฝีเท้าลงเมื่อเดินผ่านข้างกายพวกเธอ
คนสวยหน้าตางดงาม คนสวยที่ใบหน้ามีรอยยิ้มบางๆ ยิ่งเป็นความงดงามในหมู่ความงาม
ขณะรอรถแท็กซี่เฉินซินอวี่ก็เดินวนรอบจี้ชิงอิ่งหนึ่งรอบ
“ทำไมเหรอ” จี้ชิงอิ่งช้อนตาขึ้น รับการสังเกตสังกาของอีกฝ่าย
เฉินซินอวี่ยื่นมือไปจิ้มแก้มของจี้ชิงอิ่ง “เธออารมณ์ดีมากเชียวนะ”
“หืม?” จี้ชิงอิ่งมองเพื่อนอย่างไม่เข้าใจ
เฉินซินอวี่เปิดบันทึกการโทร “หนึ่งชั่วโมงก่อนตอนที่ฉันโทรไปหาเธอ เธอยังอ่อนระโหยโรยแรงอยู่เลย แค่ฟังก็รู้ว่าเธอกำลังหงุดหงิดหลังตื่นนอน ตอนนี้ดูแล้วกลับแตกต่างกันลิบลับ” เฉินซินอวี่หยุดฝีเท้า จงใจตีหน้าขรึม วางมาดของการบีบบังคับให้ตอบคำถามออกมา “พูด! เจอคนหล่อมาใช่ไหม!”
จี้ชิงอิ่งเผลอยิ้มออกมา
เฉินซินอวี่ตกตะลึง “มีจริงๆ เหรอ! ใครน่ะๆ”
“เจอคนคนนึงบนรถน่ะ” จี้ชิงอิ่งเปิดประตูรถ “ขึ้นรถแล้วค่อยพูด”
ต้องบอกว่าเฉินซินอวี่รู้จักจี้ชิงอิ่งดีมากจริงๆ
จี้ชิงอิ่งและเฉินซินอวี่เป็นทั้งเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยและรูมเมตกัน แม้ว่าจะอยู่กันคนละเมือง เวลาที่มารวมตัวกันก็ไม่มาก แต่ทุกครั้งที่เจอหน้ากันก็ล้วนไม่รู้สึกห่างเหิน เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนแปลง
หลังจากนั่งลงเรียบร้อยแล้วไม่รอให้จี้ชิงอิ่งเอ่ยปาก เฉินซินอวี่ก็ไถโทรศัพท์มือถือไปเจอข่าวเสียก่อน เธอตะลึงงันพลางเอ่ยอย่างประหลาดใจ
“เมื่อกี้ที่มีรถพยาบาลเข้ามาเป็นเพราะรถคันของพวกเธอมีผู้โดยสารเกิดเจ็บป่วยขึ้นมากะทันหันเหรอ”
จี้ชิงอิ่งพยักหน้า “โบกี้ของพวกเรา”
เฉินซินอวี่มองเธออย่างตกตะลึง “ตกใจหรือเปล่า”
จี้ชิงอิ่งชำเลืองมองเธอ “ฉันอายุเท่าไหร่แล้ว ยังจะถูกทำให้ตกใจได้อีกเหรอ”
เฉินซินอวี่ริมฝีปากขยับ อยากบอกว่าเธอก็ใช่ว่าจะไม่เคยสักหน่อย แต่ก็อดกลั้นเอาไว้
จี้ชิงอิ่งเบี่ยงเบนหัวข้อสนทนาออกไป “ไม่กี่วันก่อนฉันบอกกับเธอว่าช่วงนี้ไม่มีแรงบันดาลใจ คิดไอเดียออกแบบใหม่ๆ ไม่ออกใช่ไหม” เธอหันหน้า ใช้ใบหน้าที่งดงามและเย้ายวนใจมองเฉินซินอวี่ “เมื่อกี้จู่ๆ ก็ดูเหมือนจะมีแรงบันดาลใจขึ้นมาแล้วล่ะ”
ในดวงตากระจ่างใสที่เย้ายวนใจที่สุดคู่นั้นเอ่อล้นไปด้วยความเบิกบานและการรอคอย
เฉินซินอวี่มองเธออย่างงงงัน “หมายความว่ายังไง”
จี้ชิงอิ่งเงียบไปแล้วเอ่ยขึ้น “เมื่อกี้เจอคนคนนึงในโบกี้ แรงบันดาลใจก็ถูกกระตุ้นออกมาแล้วน่ะ”
เฉินซินอวี่ “พูดภาษาคนซิ”
จี้ชิงอิ่งจุกอยู่ในลำคอ ก่อนเค้นออกมาหนึ่งประโยค “ฉันเหมือนจะตกหลุมรักคนคนนั้นตั้งแต่แรกพบ”
“…”
เฉินซินอวี่ไม่ได้สติกลับมาอยู่ครึ่งค่อนวัน “กับใคร”
“หมอคนนั้นที่ช่วยคน”
เฉินซินอวี่ไม่อยากจะเชื่อ “เธอรู้ชื่อของเขาไหม”
ได้ยินอย่างนั้นจี้ชิงอิ่งก็ยิ้มออกมา เอ่ยอย่างไม่รีบไม่ช้าว่า “ไม่รู้หรอก แต่ฉันมีความรู้สึกว่าพวกเราจะได้เจอกันอีก”
ต่อให้ไม่มีพรหมลิขิต ก็จะมี ‘บังเอิญพบกัน’