ทดลองอ่าน สาวใช้ประพันธ์รัก – หน้า 28 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

14 วัน 14 เรื่อง

ทดลองอ่าน สาวใช้ประพันธ์รัก

“เจ้าแยกออกหรือ” ระหว่างเดินไปสวนซั่งกู่ จู่ๆ หยวนเจาเซิงก็โพล่งคำถามประโยคนี้ออกมา

เขาพูดจากระชับได้ใจความมาแต่ไหนแต่ไร ประหยัดคำได้ก็ประหยัด เหมือนว่าพอเกิดมาก็มอบพรสวรรค์ด้านการพูดให้หยวนซีเซิงน้องชายฝาแฝดทั้งหมด

เสวียนจีพยักหน้าด้วยรู้ว่าเขาถามถึงเรื่องใด “แม้ผู้อารักขาหยวนกับพ่อบ้านหยวนจะเกิดมามีรูปร่างหน้าตาเหมือนกัน แต่จะอย่างไรก็มีความแตกต่างอยู่เล็กๆ”

เดินเข้าสวนซั่งกู่มาแล้วก็มองเห็นแต่สีเขียว เงียบสงัด แทบไม่มีร่องรอยผู้คน ผู้ที่ปกติเข้ามาสวนซั่งกู่ได้มีเพียงเหล่าเจ้านายของคฤหาสน์สกุลเนี่ยและพ่อบ้านหยวนกับสาวใช้อีกไม่กี่คน…อันที่จริงขอเพียงปรนนิบัติเนี่ยเฟิงอวิ๋นได้ดี การอยู่ที่สวนซั่งกู่อันเงียบสงบก็ดีกว่าไปทำงานงกๆ ในส่วนอื่นของคฤหาสน์

หยวนเจาเซิงมองเสวียนจีแวบหนึ่งด้วยแววตาเย็นเยียบ “ความสามารถในการสังเกตของเจ้าช่างละเอียดนัก” มีสตรีน้อยคนที่ทำได้เช่นนี้ ถึงเป็นเหล่าสาวใช้ที่ทำงานในคฤหาสน์มานาน แต่พอเห็นเขาก็ยังมีบางครั้งที่แยกไม่ออก ทว่านางกลับแยกแยะได้

“ขอบคุณผู้อารักขาหยวนที่ชม” เสวียนจีกล่าวด้วยรอยยิ้มบางๆ

“ห่อนั้นคือของอะไร”

“เป็นของส่วนตัว พ่อบ้านหยวนอนุญาตแล้ว”

“ถามว่าคืออะไร” เขายังยืนกรานถาม

เห็นได้ชัดว่าเขาจงรักภักดีทุ่มเทต่องานถึงขั้นไร้สติ ไม่เคยคิดเลยว่านายน้อยที่โมโหฉุนเฉียวง่ายอย่างเนี่ยเฟิงอวิ๋นก็ทำให้บ่าวรับใช้ผู้หนึ่งมีใจจงรักภักดีถึงเพียงนี้ได้เช่นกัน

นางถอนหายใจ “กระดาษ เป็นของมีตำหนิที่พ่อบ้านหยวนไม่ต้องการแล้ว ข้าเห็นว่าทิ้งไปก็สิ้นเปลืองจึงเลือกเก็บไว้หลายแผ่น”

เขาไม่พูดอะไรอีก กลับมานิ่งเงียบเช่นปกติ ธรรมดาไม่เห็นเขาจะปริปากพูดสักกี่คำ ถึงตอบคำถามก็เพียงตอบทื่อๆ สั้นกระชับไม่กี่คำ มีเพียงเนี่ยเฟิงอวิ๋นที่ดึงอารมณ์ความรู้สึกของเขาออกมาได้ ความผูกพันระหว่างนายบ่าวเช่นนี้ทำให้นาง…ประหลาดใจยิ่ง และก็อิจฉายิ่งเช่นกัน นางไม่เคยมีสหายสนิทรู้ใจ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรที่ทำให้เขายอมทำงานถวายชีวิตเพื่อเนี่ยเฟิงอวิ๋นผู้นั้น

เมื่อเข้าใกล้หอซั่งกู่ก็เห็นว่าหน้าต่างเปิดอยู่ เงาร่างขรึมเคร่งเย็นชาปรากฏตรงหน้าต่าง ในดวงตาคล้ายมีเปลวไฟลุกโชน จับจ้องตรึงอยู่ที่ใบหน้านาง

“ข้าไปกระตุกต่อมโมโหเขาอีกแล้วหรือ” เสวียนจีพึมพำพลางเดินเข้าหอซั่งกู่ ก่อนจะค่อยๆ ยอบตัวคารวะ “นายน้อย”

เขานั่งอยู่บนรถเข็นที่ข้างหน้าต่าง แค่นเสียงเย็นและเบือนหน้าหนี

บรรยากาศอันเยียบเย็นแข็งทื่อทำให้หลินอันที่เฝ้าอยู่ข้างๆ อกสั่นขวัญผวา เหงื่อนางไหลพรากมาตั้งแต่หนึ่งก้านธูปก่อนจนน้ำจะหมดตัวแล้ว “พี่เสวียนจี…พ่อบ้านหยวนพาท่านไปไหนกันแน่” นางกลืนน้ำลายพลางเอ่ยถามแทนเจ้านาย “นายน้อยหาตัวท่านตั้งแต่ออกมาแล้ว…”

“ใครหาตัวนางกัน ที่นี่ให้เจ้าพูดจาเหลวไหลได้หรือ” เขาพลันเอ่ยขึ้นด้วยถ้อยคำเปี่ยมความดุร้าย ก่อนจะหันหน้ามาจนเห็นชัดว่าหว่างคิ้วขมวดมุ่น ริมฝีปากเม้มแน่น สายตาเลื่อนไปมาระหว่างหยวนเจาเซิงกับนาง “เจ้าคงคิดว่าจะหลุดพ้นจากข้าแล้วกระมัง”

“เสวียนจีมิกล้า”

“มิกล้าอีกแล้ว? เกิดมาปากเจ้าก็พูดเป็นแต่คำนี้หรือไร ข้ากลับเห็นว่าเมื่อครู่เจ้ายังคุยสนุกสนานกับเจาเซิงอยู่เลย เหตุใดพอเห็นข้าก็ทำตัวเหมือนสาวใช้ที่ทนทรมานสารพัดขึ้นมาแล้ว”

ถูกต้อง ท่านพูดไม่ผิดสักนิด! นางเกือบจะหลุดปากพูดออกไปแล้ว อยู่ดีๆ โทสะอันอธิบายไม่ได้ของเขาก็ทุ่มลงมาใส่ตัวนางเช่นนี้ นางไปกระตุกต่อมโมโหตรงไหนของเขากันแน่ หรือว่านางไปขัดอะไรเขา?

ถึงเขาจะเคยเป็นเนี่ยเฟิงอวิ๋นที่นางชื่นชมเลื่อมใส นางก็มีวันที่สุดทนเช่นกัน ที่ในอดีตนางอยู่ที่บ้านยังสามารถอดทนได้ครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่เคยมีเวลาที่แสดงอารมณ์ความรู้สึกออกมา เป็นเพราะว่าคนในครอบครัวไร้หัวใจต่อนาง นางเห็นคนเหล่านั้นเป็นอากาศธาตุ ส่วนตอนนี้เพราะว่าในอกยังหลงเหลือความชื่นชมเลื่อมใสต่อเขาอยู่ นางถึงได้กัดฟันกำหมัดที่ข้างตัวแน่น

ดวงตาเขาหรี่ลง “เจ้าไม่มีอะไรจะพูดแล้วหรือ”

“เสวียนจี…เสวียนจีเดิมก็เป็นบ่าวของนายน้อย ไม่กล้าขัดขืนนายน้อยคือสิ่งที่ข้าควรทำ ท่านจะด่าจะตี หรือต่อให้จะฆ่าแกงกัน เสวียนจีก็ไม่กล้าพูดอะไร”

“ดูที่เจ้าพูดเถอะ ฟังดูเหมือนยอมจำนนไม่ขัดขืน แต่ข้ากลับเห็นเจ้าขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน แสดงชัดว่าต่อต้านข้า”

หน้านางค่อยๆ มีเลือดฝาดจากความโมโห นางไม่เคยแสดงอารมณ์ความรู้สึกอะไรออกทางสีหน้าตลอดมา จะมีก็แค่ความเฉยเมย พริบตาเดียวก็หายไป ความโมโหที่เกิดเพราะหนังสือเองก็เป็นเพียงครู่สั้นๆ…เขาจ้องมองนางอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะโบกมือ

“เจ้าอยู่ก่อน คนอื่นออกไป”

หยวนเจาเซิงถอยออกไปอย่างเงียบเชียบ หลินอันเองก็โล่งอก รีบร้อนจากไปประหนึ่งว่าขอแค่ภัยมาไม่ถึงตน จะเกิดอะไรก็ช่าง

ในหอซั่งกู่เหลือเพียงคนทั้งสอง เขาจ้องจับสังเกตนาง นางเองก็มองเขาเขม็งกลับไป ฉับพลันนั้นอาหารบนโต๊ะกลมก็ดึงดูดความสนใจของนาง

“นายน้อยยังมิได้กินข้าว?” สังหรณ์ก่อนหน้านี้เป็นความจริง

นี่มันยามอะไรแล้ว เขายังไม่กินข้าวอีก?

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in 14 วัน 14 เรื่อง

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com