ไม่ใช่เพราะหลงจู๊จินไม่เคยพบคนสูงศักดิ์มาก่อนจึงหวาดหวั่น แต่เพราะคนตรงหน้าผู้นี้เขาล่วงเกินไม่ไหวจริงๆ
หากเป็นเพียงรองผู้ว่าการนครหลวงขุนนางลำดับรองขั้นสี่ เช่นนั้นเขายังพอรับมือได้
แต่ลู่เยี่ยนไม่เพียงเป็นรองผู้ว่าการนครหลวง ยังเป็นซื่อจื่อของจวนเจิ้นกั๋วกง แล้วยังเป็นโอรสองค์เดียวขององค์หญิงใหญ่จิ้งอันอีกด้วย ฐานะหลายอย่างนี้รวมกัน ต่อให้เสนาบดีฝ่ายซ้ายอยู่ที่นี่คิดว่ายังต้องให้ความเกรงใจเช่นกัน
หลังจากลังเลใจอยู่พักหนึ่งหลงจู๊จินก็เรียกคนติดตามหลายคนนั้นกลับมาและพูดอย่างเคืองขุ่นว่า “กลับเถอะ”
ใครจะคาดว่าคนเหล่านี้เพิ่งก้าวเท้า หยางจงก็เข้าขวางทางพวกเขาทันที “หลงจู๊ ทำลายร้านค้าของผู้อื่นโดยไร้สาเหตุ จะจากไปแบบนี้ไม่ค่อยดีกระมัง”
หลงจู๊จินหันไปมองลู่เยี่ยน เม้มปากไม่พูดจา
ข่าวของร้านแลกเงินสกุลจินแม่นยำเสมอมา ตามที่เขารู้ ระหว่างจวนเจิ้นกั๋วกงกับจวนอวิ๋นหยางโหว ทั้งไม่เป็นญาติและไม่ใช่สหาย เรียกได้ว่าไม่มีการติดต่อกันแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตาม อีกฝ่ายก็ไม่ควรถึงขั้นจงใจสร้างความลำบากใจให้เขาแบบนี้จึงจะถูก
ลู่เยี่ยนมองออกถึงความคิดในใจของหลงจู๊จินจึงพูดตามตรงว่า “เอาของเข้าที่เดิม ห้าวันให้หลังข้าจะไม่ยุ่งเกี่ยวอีก”
หลงจู๊จินเหลือบมองไปรอบด้าน แอบบีบแหวนน้าวบนนิ้วไว้แน่น
หากเป็นเมื่อครู่เขายังจับทางไม่ถูกว่าซื่อจื่อผู้นี้มีความคิดอะไร แต่ตอนนี้เห็นสาวใช้ข้างกายลู่เยี่ยนที่ถลึงตาจ้องเขาอยู่ก็เข้าใจเรื่องราวทันที
ที่แท้หญิงสาวในร้านไม่อยู่สุข ส่งคนไปแจ้งทางการแล้ว
เมื่อรู้สาเหตุหลงจู๊จินก็ไม่พูดไกล่เกลี่ยอีก รีบหมุนตัวไปจัดการเรื่องที่เหลือ ที่ควรชดใช้ก็ชดใช้ ที่ควรซ่อมก็ซ่อม อย่างไรเสียนายของเขาก็มีคำพูดไว้แล้วว่า ‘สิ่งสำคัญไม่ใช่เงิน แต่เป็นคนที่อยู่ข้างใน’
เมื่อเป็นเช่นนี้ ห้าวันให้หลังค่อยมาอีกครั้งก็แล้วกัน
ได้ยินเสียงด่าเจ็บแค้นของหลงจู๊จิน เสิ่นเจินก็รู้ว่าแผนการถ่วงเวลาของตนเองสัมฤทธิผลแล้ว นางก้มหน้าเช็ดคราบเลือดบนหลังมือที่ถูกขวดกระเบื้องเคลือบบาดแล้วค่อยลุกขึ้นช้าๆ
เสียงซุบซิบข้างนอกกำลังดังอยู่ก็เห็นหญิงสาวงดงามผู้หนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้า
ผมยาวของนางสยายอยู่ด้านหลัง ท่วงท่ากิริยาสง่างามเยื้องย่างไปทางลู่เยี่ยน ดวงตามีม่านน้ำคู่นั้นซ่อนความงามเอาไว้ แต่ด้วยท่าทีตกระกำลำบากนี้เพิ่มความงามที่ไม่ธรรมดาให้นางส่วนหนึ่งได้พอดี
ในกลุ่มคนมีเสียงกระซิบชื่นชมดังออกมาหลายเสียง
“ที่บอกว่าเทพธิดาลั่วเสินบนโลกมนุษย์ก็คงมีหน้าตาแบบนี้กระมัง”
ได้ยินคำชื่นชมความงามเกินจริงนี้แล้วลู่เยี่ยนก็ยกมุมปากเหยียดเล็กน้อย ช้อนตาขึ้นอย่างไม่สนใจนัก
ตอนที่สี่ตาประสานกัน หัวใจของเขาก็รู้สึกเคร่งเครียด
จากนั้นเขาก็รู้สึกเหมือนทรวงอกราวกับถูกกระบี่คมแทงทะลุ ความเจ็บปวดถึงขั้วหัวใจราวคลื่นน้ำถาโถมเข้าใส่เขา
ภาพตรงหน้าดำมืด ราวกับตกลงกลางทะเลลึกที่ไร้ขอบเขต หลังจากภาพดำจางไปเขาก็มองเห็นภาพความงามหอมหวานรัญจวนใจ
หญิงสาวนางหนึ่งนอนเปลือยกายอยู่ในอ้อมกอดของเขา
ดวงตาของนางช่างงดงามและกระจ่างสุกใส ในช่วงที่ปวดหัวแทบแตกก็ได้ยินริมฝีปากแดงขยับเปิดปิดเรียกชื่อตอนเด็กของเขา “สือเยี่ยน ลู่สือเยี่ยน”
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 29 ต.ค. 64 เวลา 12.00 น.