บทที่ 4
วันที่หกเดือนสิบ ยามเฉินสามเค่อ
“ตรวจสอบ อย่าให้ตกหล่นแม้แต่ขวดเดียว”
สิ้นเสียงพูด องครักษ์ของที่ว่าการนครหลวงก็เข้าล้อมร้านไป่เซียงไว้ในทันที
ลู่เยี่ยนก้าวเท้าข้ามธรณีประตู สะบัดชายแขนเสื้อพลางพูดกับเสิ่นเจินว่า “ขอให้คุณหนูเสิ่นเอาผงหอมที่วางไว้บนชั้นและที่ซ่อนไว้ในห้องเก็บของของร้านออกมาให้หมดและตั้งวางให้ดี”
เสิ่นเจินได้ยินคำว่า ‘ซ่อน’ ที่แสลงหูนั้นแล้วก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะลุกขึ้นช้าๆ พูดว่า “ใต้เท้าลู่ นี่หมายความว่าอย่างไร”
ลู่เยี่ยนสีหน้าเป็นปกติ พูดไปตามกฎระเบียบ “องครักษ์ผู้หนึ่งข้างกายข้า เมื่อวานหลังจากมาที่นี่ก็หมดสติไม่ยอมฟื้น สาเหตุยังไม่แน่ชัด มาที่นี่ก็เพื่อตรวจสอบเรื่องน่าสงสัยตามระเบียบ ถ้าผงหอมของแม่นางไม่มีปัญหา” เขาชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นชี้ไปที่ข้างนอกพลางพูดว่า “คนที่อยู่ข้างนอกจะจากไปในทันที”
เสิ่นเจินฟังจบแล้วในใจรู้สึกเคร่งเครียดอย่างยิ่ง
เมื่อวานกว่าจะไล่คนทวงหนี้ไปได้ไม่ง่ายนัก วันนี้เหตุใดจึงหาเรื่องกับคนของทางการได้อีก นับจากการถูกค้นร้านในครั้งก่อนเสิ่นเจินรู้สึกต่อต้านกับภาพเหตุการณ์เช่นข้างนอกนั้น กลัวว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นเสมอมา
นางเดินเข้าไปหาและพูดอย่างระวังตัวว่า “บนตัวใต้เท้าลู่มีหนังสือคำสั่งตรวจค้นหรือไม่” ที่เสิ่นเจินถามเช่นนี้ก็เพราะรู้ว่าทางการสืบคดี หากไม่มีหลักฐานแน่ชัดจะไม่มีหนังสือคำสั่งตรวจค้นแน่นอน
สายตาท่าทางไม่ยอมให้ความร่วมมือของเสิ่นเจินแบบนี้ ในสายตาของลู่เยี่ยนเป็นการกระทำของคนกลัวความผิด
เขาเหลือบมองหยางจงแวบหนึ่ง หยางจงก็รีบยื่นหนังสือคำสั่งตรวจค้นแผ่นหนึ่งมาให้ทันที
ท้ายหนังสือคำสั่งมีตัวอักษรลงไว้อย่างชัดเจนว่า ‘ลู่เยี่ยน’
“คุณหนูเสิ่นมอบกุญแจห้องเก็บของมาก็พอ ข้าจะให้คนไปช่วยเจ้าขน อย่างไรเสียในที่ว่าการนครหลวงมีงานมากมาย จะเสียเวลาไม่ได้” พูดจบเขาก็ไม่รอให้เสิ่นเจินตอบ กลับโบกมือทันที
องครักษ์ข้างนอกบุกเข้าประตูมา
เสิ่นเจินมองดูหนังสือคำสั่งตรวจค้นในมือ ในใจหวาดหวั่นจนเผลอดึงกระดาษขาด
พอเห็นดังนี้ลู่เยี่ยนก็เอ่ยปากพูดอีกครั้ง “ของของทางการ ห้ามทำลายแม้แต่น้อย”
เสิ่นเจินตะลึงงัน นิ้วมือชะงักอยู่ที่เดิม นางรู้ว่าอีกฝ่ายเตรียมการมาพร้อมสรรพ คิดจะหลบคงหลบไม่พ้นแล้ว จึงหมุนตัวเดินกลับไปที่โต๊ะ ดึงเปิดลิ้นชัก หยิบกุญแจพวงหนึ่งออกมาและยื่นให้ลู่เยี่ยน
ลู่เยี่ยนคว้ามาแล้วเดินขึ้นหน้าไปเจ็ดก้าว เปิดประตูห้องเก็บของ ก่อนจะสั่งให้องครักษ์รีบขนของ ส่วนตนเองยืนอยู่ข้างเสิ่นเจินคอยจับตามองนาง ด้วยกลัวว่านางจะใช้วิชามารอะไรมาทำให้คนหลงใหลอีก
หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่พวกเขาก็ยกหีบใหญ่หลายใบมาที่กลางห้องในร้าน