อันหมัวมัวมองท่าทางร้องไห้น้ำตาไหลเงียบๆ ของเสิ่นเจินแล้วความเจ็บปวดขมขื่นใจยากจะปกปิดได้ มองดูเครื่องประดับที่ฮูหยินท่านโหวเป็นคนเลือกกับมือเหล่านั้นแล้วก็นึกถึงเมื่อสามปีก่อน ปีที่ฮูหยินท่านโหวล่วงลับไป
ในปีนั้นจวนอวิ๋นหยางโหวเหมือนถูกสิ่งชั่วร้ายครอบงำ
ต้นปี คุณหนูใหญ่เสิ่นหร่านตกแม่น้ำ ถูกหลี่ตี้บุตรชายตระกูลยากจนช่วยขึ้นมาและถูกบังคับให้แต่งงานเข้าสกุลหลี่ ปลายปี ตอนที่คุณหนูรองเสิ่นเหยาเจรจาการแต่งงาน ถูกองค์ชายรองเผ่าหุยหูหมายตาเข้า พระบัญชาฮ่องเต้ยากจะขัดขืน จำต้องแต่งงานไปไกลยังต่างแดน
หลังจากนั้นฮูหยินท่านโหวก็ป่วยเป็นโรคปัจจุบัน จากไปอย่างไม่มีวันกลับ
อันหมัวมัวนับจากอายุสิบห้าปีก็มาปรนนิบัติข้างกายฮูหยินผู้เฒ่าแล้ว สามสิบปีมานี้นางได้เห็นประจักษ์แก่ตาว่าแต่ละก้าวของสกุลเสิ่นเป็นอย่างไร กลายเป็นตระกูลขุนนางมีอำนาจร่ำรวยในแผ่นดินต้าจิ้น
แต่ใครจะคิดว่าเพียงไม่ระวังก็เกิดภัยทำให้ครอบครัวพังพินาศ
นางย่อตัวลงกอดเสิ่นเจินไว้ในอ้อมกอด ขยับริมฝีปากไปข้างหูอีกฝ่ายและกระซิบพูดว่า “คุณหนูใหญ่ให้บ่าวบอกท่านว่าต่อให้เอาของทั้งหมดไปจำนำก็คืนเงินเหล่านั้นไม่หมด เช่นนั้นสู้ไม่คืนดีกว่า”
เสิ่นเจินช้อนตาขึ้น พูดเสียงสั่นเครือว่า “พี่ใหญ่ได้พูดอะไรอีกหรือไม่”
อันหมัวมัวพยักหน้า ยกมือทำท่า ‘ชู่ว์’ ให้นางแล้วพูดต่อไปว่า “คืนพรุ่งนี้คุณหนูใหญ่จะส่งพวกท่านสองพี่น้องออกจากฉางอัน ของที่ซ่อนอยู่ใต้หีบนี้เป็นทะเบียนเรือนฉบับหนึ่ง รอพวกท่านไปถึงประตูเมือง จำไว้ว่าให้ไปพบทหารผู้หนึ่งแซ่สวี ท่านโหวมีบุญคุณต่อเขา เป็นคนที่ไว้ใจได้ ที่หางตาของเขามีรอยแผลเป็นรอยหนึ่ง สังเกตได้ง่ายมาก”
เสิ่นเจินเบิกตาโตอย่างตกใจ
แม้ว่านางจะเดินมาสุดทางของความยากจนแล้ว แต่กลับไม่เคยคิดจะหลบหนี อย่างไรเสียคนที่จับตาดูนางไว้ก็มีมาก เหมือนที่พูดกันว่าข้างหน้ามีหมาป่า ข้างหลังมีเสือ นางจะหนีพ้นได้อย่างไร
อันหมัวมัวมองความคิดของนางออกจึงกระซิบข้างหูต่อไปว่า “ถึงตอนนั้นบ่าวจะจุดไฟเผาที่เรือนชั้นหน้า ขวางไม่ให้คนเข้ามาในเรือน ส่วนชิงซีจะแต่งตัวเป็นคุณหนูอยู่เพื่อขอความช่วยเหลือ ท่านกับหงเอ๋อร์ฉวยโอกาสตอนชุลมุนหนีออกไปตามโพรงที่ขุดไว้ พอออกจากเมืองแล้วอย่าหันกลับมาอีก ชั่วชีวิตนี้อย่ากลับมาที่ฉางอันอีก”
ยิ่งฟังยิ่งรู้สึกผิดปกติ เสิ่นเจินรีบพูดว่า “แล้วหมัวมัวเล่า แล้วชิงซีเล่า”
“บ่าวกับชิงซีเดิมทีก็เป็นบ่าว ต่อให้คนของทางการมาก็ไม่ทำอะไรพวกเรา อย่างมากก็แค่ส่งพวกเราให้พวกค้าแรงงานส่งไปขายอีกครั้งเท่านั้น แต่คุณหนูกับหงเอ๋อร์ไม่เหมือนกัน ใบจำนองแผ่นนั้นเดิมทีมีความผิดปกติ พวกเราไม่ได้พบท่านโหว ไม่มีทางรู้รายละเอียดเรื่องนี้เลย ถ้าลงชื่อในสัญญาขายตัวในตอนนี้นั่นไม่ต่างอะไรกับการส่งแพะเข้าปากเสือ”
เสิ่นเจินยื่นมือไปกุมแขนของอันหมัวมัวเอาไว้ กำลังจะเอ่ยปากพูด อันหมัวมัวก็ส่ายหน้าให้นาง