บทที่ 8
นอกห้อง แสงจันทร์สีเงินยวงจากจันทร์เสี้ยวรูปเคียวราวกับผืนผ้าที่คลี่คลุมลงไปบนหลังคากระเบื้องแต่ละแผ่นของคฤหาสน์เฉิงย่วน
รอบข้างเงียบสนิทไร้เสียง เงียบจนแม้แต่เสียงของแสงเทียนไหวพึ่บพั่บก็ยังได้ยิน
ตอนนี้ห่างจากการลั่นกลองยามเช้าอีกระยะหนึ่ง
ลู่เยี่ยนหลังจากกำชับเสิ่นเจินว่าไม่มีอะไรห้ามร้องไห้ มีอะไรก็ยิ่งห้ามร้องไห้แล้วก็ไม่ได้ทรมานตนเอง นอนลงพักผ่อนครู่หนึ่ง
เสิ่นเจินอยากไปหาเสิ่นหง แต่ไม่กล้ารบกวนการพักผ่อนของเขา จึงนั่งอยู่ด้านข้างเป็นเวลาถึงสองชั่วยาม ง่วงจนตัวโยกแทบล้มก็ไม่กล้าหลับตา
นางไม่ได้พักผ่อนอย่างดีติดต่อกันหลายวัน ตอนนี้แทบทนไม่ไหวแล้ว ร่างกายเอียงลงด้านข้าง ล้มนั่งลงบนพื้นทันที ม้านั่งกลมก็ล้มคว่ำลงเช่นกัน
พอเกิดเสียงดังถึงเพียงนี้ลู่เยี่ยนย่อมต้องลืมตาขึ้น เขาหันมองไปทางนาง เห็นเพียงนางล้มลงบนพื้น ทว่าไม่ได้ลืมตาขึ้นมาแต่อย่างใด
ท่าทางซื่อไร้เดียงสานี้น่าสงสารปนน่ารัก ต่อให้เป็นคนที่ไม่สนใจความเป็นความตายของผู้อื่นอย่างลู่เยี่ยนยังเกิดจิตใจหวั่นไหว
เขาลุกขึ้นเดินมาข้างกายนาง ใช้นิ้วมือแตะไหล่ของนางพลางพูดเสียงเบาว่า “ลุกขึ้น”
ได้ยินเสียงชายหนุ่ม เสิ่นเจินก็ดึงสติคืนมาในทันที กลอกลูกตาที่แดงก่ำและดีดตัวขึ้นมาทันใด “ตะ…ใต้เท้า มีอะไรหรือ”
ลู่เยี่ยนเห็นนางเต็มไปด้วยความระวังตัวจึงแค่นเสียงสบถเย็นชาหนึ่งที
หาเรื่องเสียจริงที่ไปสนใจนาง
ในใจไม่พอใจ ย่อมมีสีหน้าที่ไม่ดี เขาคิดว่าตนเองพักผ่อนพอสมควรแล้วจึงเดินออกจากเรือนไปโดยไม่หันมามอง
เมื่อลู่เยี่ยนออกจากเรือนหลันเยวี่ยแล้วก็เดินตรงไปยังห้องฝั่งตะวันตก ยังไม่ทันผลักเปิดประตูก็ได้ยินเสียงไอระลอกหนึ่ง
พอเข้าไปในห้อง เขาก้มหน้าลง เสิ่นหงเงยหน้าขึ้น ความระแวดระวังในดวงตาของเจ้าตัวเล็กเหมือนกับพี่สาวไม่ผิดเพี้ยน ดวงตาแดงก่ำคู่นั้นแค่มองก็รู้ว่าร้องไห้มา
ลู่เยี่ยนไม่ชอบเด็ก ไม่ว่าจะเป็นใคร และไม่ว่าจะร้องไห้หรือหัวเราะ ขอเพียงแค่อ้าปากได้เขาล้วนไม่ชอบ
ดังนั้นยังไม่รอให้เสิ่นหงเอ่ยปาก หยางจงก็สั่งคนให้ส่งเสิ่นหงไปที่เรือนหลันเยวี่ยแล้ว
ลู่เยี่ยนมองออกไปนอกหน้าต่างหน้าตาเคร่งขรึม สีหน้าเย็นชาพลางเอ่ยขึ้น “ทางเจาสิงฟางจัดการเสร็จหรือยัง”
หยางจงโค้งตัวตอบว่า “วางใจได้ขอรับ ไฟไหม้แค่เรือนชั้นหน้า คนของพวกเราดับไฟแล้ว บอกกับคนภายนอกว่าเป็นอุบัติเหตุไฟไหม้ ตอนนี้ยังไม่มีใครสงสัยขอรับ”
ลู่เยี่ยนพูดต่อ “คืนนี้วุ่นวายใหญ่โตแบบนี้ พรุ่งนี้ทางเถิงอ๋องกับซู่หนิงป๋อไม่มีทางไม่มีความเคลื่อนไหว เจ้าส่งคนจับตาดูต่อไป รายงานทุกหกชั่วยาม”
หยางจงรับคำ จากนั้นพูดอีกว่า “คุณชายเล็กสกุลเสิ่นเล่าขอรับ”
ลู่เยี่ยนครุ่นคิดสักครู่แล้วพูดเสียงเข้มว่า “รอไม่ได้แล้ว พอฟ้าสางก็ส่งเขาออกเมืองหลวงไป”
เขาชะงักไปครู่หนึ่งก็พูดอีกว่า “เอาตัวสาวใช้สูงวัยกับสาวใช้ในเรือนนั้นส่งออกนอกเมืองไปพร้อมกัน”