เฉิงอี้เหิงพยักหน้ารับ “สบายดีครับ”
“ทุกท่าน ท่านนี้คือคุณหมอเฉิงที่รักษาหลังของผมจนหายดี” ประธานเฉินแนะนำเฉิงอี้เหิงให้กับแขกในงาน ปฏิบัติตัวราวกับเขาเป็นแขกพิเศษ
“วันนี้เป็นวันเกิดอายุครบเจ็ดสิบปีของผม คำโบราณว่าไว้ ‘คนมีอายุถึงเจ็ดสิบปีตั้งแต่โบราณก็มีไม่มาก’ ผมเองก็ปล่อยวางในหลายๆ เรื่องแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตคนเราคืออะไรคุณรู้ไหม ก็ต้องเป็นการที่มีสุขภาพแข็งแรงอย่างแน่นอน เมื่อมีสุขภาพที่แข็งแรงแล้วเราถึงจะออกไปต่อสู้ บากบั่น และประสบความสำเร็จได้ ดังนั้นผมต้องขอขอบคุณคุณหมอเฉิงอย่างมาก”
แล้วทั้งงานก็เต็มไปด้วยเสียงปรบมือ ลู่จยาบิดตัวไปมาเพราะเธอไม่ค่อยคุ้นกับสถานการณ์เช่นนี้เท่าไหร่นัก โดยเฉพาะเมื่อเธอยังต้องใช้ไม้ค้ำอยู่
มีเพียงช่วงแข่งขันเท่านั้นที่ทำให้เธอยอมรับสายตาซึ่งจ้องมองมาได้
แต่เมื่อออกจากการแข่งขันแล้ว เธอจะรีบหลบสายตาและกล้องที่จับจ้องมา โชคดีที่สโมสรเอ็นดูเธอมาก เมื่อลู่จยาต้องเจอกับสถานการณ์เช่นนั้นก็จะช่วยเธอปฏิเสธไปได้
เมื่อประธานเฉินกล่าวคำต้อนรับจบ ความสนใจของเขาก็พุ่งมาที่ลู่จยาซึ่งยืนอยู่ข้างๆ เฉิงอี้เหิง
“แล้วท่านนี้คือ…”
มือของลู่จยาจับไม้ค้ำไว้แน่นราวกับเธอกำลังรอคอยอะไรอยู่ สิ่งที่เธอรอคอยก็คือคำตอบจากปากของเฉิงอี้เหิง แต่เธอก็หวั่นกลัวว่าคำพูดนั้นอาจไม่ใช่สิ่งที่เธออยากได้ยิน
“คู่ออกงานของผมน่ะครับ” เฉิงอี้เหิงตอบ
ลู่จยาถอนหายใจอย่างโล่งอก
คนในงานหลายคน รวมถึงประธานเฉินพากันถอนหายใจอย่างโล่งอก
“จะให้ผมเรียกคุณผู้หญิงคนนี้ว่า…”
“คุณ…คุณลู่ครับ” เฉิงอี้เหิงแนะนำ
“อ้อๆๆ คุณลู่ ดูท่าทางขาคุณลู่จะไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะ”
“เธอบาดเจ็บนิดหน่อยน่ะครับ” เฉิงอี้เหิงตอบแทนเธอ
“คุณหมอเฉิง คุณมาทางนี้หน่อย” ประธานเฉินดึงแขนของเฉิงอี้เหิง “จือฮวา หนูมานี่หน่อย” หลังจากเสียงตะโกนของประธานเฉินดังขึ้น หญิงสาวผมยาวในชุดราตรีสีขาวคนหนึ่งก็หันมามองก่อนจะเดินตรงมาทางนี้ ผมของจือฮวาเป็นลอนยาวขนาดใหญ่ทำให้เธอดูงดงามมาก ขณะที่เดินอยู่ก็มีรัศมีของคนมีเงินและความมั่นอกมั่นใจเปล่งประกายออกมาด้วย ทว่าเวลายิ้มกลับดูเป็นสาวหวานๆ
ลู่จยายืนอยู่ข้างๆ เฉิงอี้เหิงกำลังทำตัวไม่ถูก
เฉิงอี้เหิงบีบมือของเธอแล้วพูดด้วยเสียงเบาๆ ว่า “ไม่เป็นไร”
ในใจลู่จยาคิด ฉันน่ะไม่เป็นอะไร นายต่างหากที่จะเป็น
สาวสวยที่ชื่อจือฮวาเดินเข้ามา เธอปัดเส้นผมไปด้านหลังด้วยท่วงท่ามีเสน่ห์ ภาพลักษณ์ของจือฮวามีการผสมผสานระหว่างความน่ารักและความเซ็กซี่อย่างลงตัวซึ่งหาได้ยาก
มือข้างหนึ่งของประธานเฉินเอื้อมไปจับมือของจือฮวาเอาไว้ ส่วนอีกข้างหนึ่งก็ดึงมือของเฉิงอี้เหิงเข้ามา แล้วนำมือของทั้งคู่มาวางทับซ้อนกันก่อนเอ่ยขึ้นอย่างอบอุ่นว่า “จือฮวา นี่คือคุณหมอเฉิงที่ปู่เคยพูดถึงยังไงล่ะ เป็นยังไง เขาดูเป็นคนมีความสามารถและบุคลิกดีใช่ไหม คุณหมอเฉิงเป็นคนที่เก่งมากนะ อีกทั้งยังพึ่งพาได้ด้วย พวกเธอสองคน…คนหนึ่งเป็นหนุ่มมากความสามารถ อีกคนก็เป็นสาวสวย รู้จักกันไว้ก็ดี”
จือฮวายิ้มด้วยท่าทางที่ดูเขินอาย ทว่าเธอไม่ได้รู้สึกเช่นนั้นจริงๆ นี่เป็นเพียงท่าทางซึ่งเอาไว้แสดงมารยาทเท่านั้น ลู่จยาเองเห็นแล้วก็อธิบายไม่ถูกแต่เวลาเขียนในกระทู้คนมักจะใช้คำประมาณว่า ‘มีท่าทางเขินอายพอเป็นมารยาท’
ประธานเฉินแนะนำตัวเฉิงอี้เหิงเรียบร้อยแล้วก็ไม่ลืมที่จะแนะนำตัวจือฮวา “คุณหมอเฉิง นี่หลานสาวของผมเอง เพิ่งเรียนจบกลับมาจากอังกฤษ ตอนนี้ดูแลจัดการเรื่องการนำเข้าและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาล พวกเธอสองคนน่าจะคุยกันรู้เรื่องนะ”
ที่แท้เป็นอย่างนี้นี่เอง ลู่จยาคิด
ไม่มีพ่อค้าคนไหนทำอะไรโดยไม่หวังผล หากจับคู่จือฮวากับเฉิงอี้เหิงได้ก็ถือว่าเป็นการร่วมมือกันที่แข็งแกร่งมาก คนหนึ่งคือคุณหนูผู้เชี่ยวชาญทางด้านอุปกรณ์การแพทย์ อีกคนก็มีแบ็กอัพดี ซ้ำยังเป็นหมอที่มีอนาคตไกล เรียกได้ว่าวิน-วินกันทั้งคู่