ทดลองอ่าน หมอของฉันเหมือนจะชอบฉันนะ บทที่ 2-บทที่ 3 – หน้า 17 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

With Love

ทดลองอ่าน หมอของฉันเหมือนจะชอบฉันนะ บทที่ 2-บทที่ 3

บทที่สาม

 เฉิงอี้เหิงอุ้มลู่จยาวิ่งไปขึ้นรถด้วยความรีบร้อน เขาวางเธอไว้บนเบาะด้านหลังอย่างเบามือ ปกติแล้วเฉิงอี้เหิงเป็นคนที่ขับรถระมัดระวังมากไม่ค่อยขับเกินความเร็วที่กำหนด แต่ครั้งนี้แม้กระทั่งลู่จยาก็ยังสัมผัสได้ถึงความรีบร้อนของเขา

ก่อนถึงโรงพยาบาล เฉิงอี้เหิงได้โทรศัพท์ติดต่อกับหมอเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว ดังนั้นเมื่อถึงโรงพยาบาลลู่จยาก็ถูกส่งตัวไปที่ห้องฉุกเฉินเพื่อทำการรักษาทันที ลู่จยาในเวลานี้รอดพ้นจากช่วงวิกฤตแล้วและกำลังนอนหลับอยู่บนเตียง

เตียงคนไข้นั้นมีจำกัดทำให้เฉิงอี้เหิงต้องพาลู่จยาย้ายมานอนพักที่เตียงในห้องพักแพทย์ของเขาโดยมีผ้าม่านกั้นไว้ ส่วนเขาก็นั่งทำงานอยู่ทางด้านนอก ที่จริงวันนี้เป็นวันหยุดของเฉิงอี้เหิง แต่เมื่อต้องกลับมาที่โรงพยาบาลแล้วเขาจึงทำการรักษาคนไข้ไปด้วยเลย

ลู่จยาตื่นขึ้นมาเป็นระยะๆ ทำให้เธอได้ยินเสียงเฉิงอี้เหิงพูดคุยเรื่องการตรวจรักษาคนไข้อยู่ด้านนอก เสียงของเขาทำให้จิตใจของเธอรู้สึกสงบลงได้อย่างประหลาด เมื่อรู้สึกปลอดภัยเธอจึงหลับสนิท เมื่อตื่นขึ้นมาอีกทีฟ้าก็มืดสนิทแล้ว ด้านเฉิงอี้เหิงเองก็ตรวจคนไข้เสร็จเรียบร้อยแล้วเช่นกัน

ลู่จยานวดขมับของตัวเองเบาๆ เพราะนอนมากไปทำให้เธอรู้สึกมึนๆ พอก้าวลงจากเตียงได้เธอก็ดึงม่านกั้นออกจึงเห็นเฉิงอี้เหิงซึ่งสวมแว่นตากรอบทองกำลังเขียนอะไรบางอย่าง โคมไฟที่ตั้งอยู่ข้างๆ เขาเปิดสว่างไสว ส่องแสงอบอุ่นออกมา

พอได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวเฉิงอี้เหิงก็เงยหน้าขึ้นมอง

ลู่จยายังอยู่ในอาการมึนงง แสงเหลืองนวลของโคมไฟที่ส่องกระทบใบหน้าของเฉิงอี้เหิงนั้นทำให้ใบหน้าของเขาดูสมบูรณ์แบบไร้ที่ติทั้งยังดูอ่อนโยนมากทีเดียว

“ลู่จยา” เฉิงอี้เหิงเรียกเธออยู่หลายครั้งกว่าลู่จยาจะรู้สึกตัว

“เอ่อ มีอะไรรึเปล่าคะ”

“ผมถามว่าตอนนี้คุณรู้สึกยังไงบ้าง ยังรู้สึกชาไปทั้งตัวอยู่ไหม”

ลู่จยาส่ายหน้า “ดีขึ้นมากแล้วค่ะ”

“งั้นพวกเรากลับบ้านกันเถอะ” ก่อนที่จะพูดประโยคนี้ออกมาเฉิงอี้เหิงก็เดินมาตรงหน้าของลู่จยาแล้ว ก็ยื่นมือออกมาแตะหน้าผากของเธอพร้อมพึมพำกับตัวเอง “ไม่มีไข้แล้ว”

ลู่จยาเคยเดินคู่กับเฉิงอี้เหิงอยู่บ่อยๆ เธอรู้ว่าเขาเป็นคนตัวสูง แต่ในตอนนี้ทั้งคู่อยู่ใกล้ชิดกันมากกว่าปกติ และเมื่อเทียบกับเธอแบบชัดๆ แล้ว ลู่จยาถึงได้รู้ว่าเขาเป็นคนตัวสูงมากกว่าที่ตัวเองคิด

หน้าผากของลู่จยาอยู่แค่ปลายคางของเฉิงอี้เหิง หากเธอมองตรงไปก็จะเห็นลูกกระเดือกของเขา และยังมีกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อผสมกับกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ จากตัวของเขาลอยมาแตะจมูกของเธออีกด้วย

ลู่จยากลืนน้ำลายลงคอ

“หิวแล้วล่ะสิ” เฉิงอี้เหิงบังเอิญได้ยินเสียงเธอกลืนน้ำลายจึงเอ่ยปากถาม

“ใช่ ฉันหิวตั้งนานแล้ว” ลู่จยาลูบท้องเพื่อกลบเกลื่อนท่าทางขวยเขินก่อนจะหันหน้าไปอีกด้านเพื่อพูดกับตัวเองด้วยเสียงแผ่วเบา “ที่ฉันกลืนน้ำลายเมื่อกี้ไม่ใช่เพราะหิวสักหน่อย แต่เป็นเพราะความหล่อของนายต่างหาก”

“คุณพึมพำอะไรอยู่น่ะ” เฉิงอี้เหิงถาม

“เปล่าๆๆ” ลู่จยาหันกลับมาส่ายหน้าพรืด

ลมเย็นยามค่ำคืนพัดเส้นผมของเธอเบาๆ ทำให้ลู่จยาดูทั้งบ๊องทั้งน่ารัก

“คุณอยากกินอะไรล่ะ”

“อะไรจืดๆ หน่อยก็ดีนะ” ลู่จยาก้มหน้าลงมองพุงน้อยๆ ของตัวเองแล้วถอนหายใจก่อนจะพูดต่อ “คนเราถ้าไม่รู้จักควบคุมสักนิดก็จะต้องเจอการแก้แค้นของร่างกาย”

“ได้สิ”

จากประสบการณ์และบทเรียนหลายครั้งที่ผ่านมาทำให้เฉิงอี้เหิงเลือกจะพาลู่จยาไปที่ร้านอาหารเล็กๆ บรรยากาศดี และให้ความเป็นส่วนตัวกับลูกค้า เขาขอห้องอาหารส่วนตัว

ขณะที่เดินเข้าไปในร้าน เฉิงอี้เหิงก็นำเสื้อนอกของเขามาคลุมตัวลู่จยาเอาไว้ เมื่อมีเสื้อนอกคลุมไว้ทั้งตัวซ้ำยังก้มหน้าลงไปอีกจึงยากที่จะดูรู้ว่าเธอเป็นใคร

หลังจากที่รับประทานอาหารกันเรียบร้อยแล้ว ทั้งคู่ก็ขับรถกลับคอนโดฯ ลู่จยานั่งอยู่ตรงที่นั่งด้านข้างคนขับ ศีรษะของเธอพิงกับหน้าต่างรถ เธอมองดูใบหน้าด้านข้างของเฉิงอี้เหิงขณะที่เขากำลังขับรถ จากนั้นจึงหันไปมองแสงจากหลอดไฟนีออนที่ส่องสว่างอยู่ทั่วทั้งเมือง และแล้วแสงจากหลอดไฟนีออนเหล่านั้นก็ค่อยๆ หายไป…ใจของลู่จยาไม่เคยสงบอย่างนี้มาก่อน ตอนนี้เธอกำลังดื่มด่ำเมามายกับความมืดยามค่ำคืน

ระหว่างทางทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไรกันมากนัก แต่บรรยากาศก็ยังดูสบายๆ ทำให้ลู่จยานึกถึงคืนก่อนวันแข่งขัน ก่อนแข่งเธอมักจะนอนไม่หลับทุกครั้ง มันเป็นค่ำคืนที่ทรมานและยาวนานราวกับว่าถูกดึงให้ยืดยาวออกไป รุ่งอรุณของวันใหม่มาไม่ถึงสักที และคนที่จมอยู่ในความมืดย่อมรับได้รู้ถึงความสิ้นหวัง หลังจากที่คิดได้เธอก็เอาหมวกกันน็อกมากอดไว้จึงทำให้นอนหลับลง

เมื่อหัวใจของเธอมีสิ่งของบางอย่างทับเอาไว้ เธอจึงไม่รู้สึกอ้างว้างอีกต่อไป ไม่มีลมพัดเข้ามาก็ไม่โดดเดี่ยวและว่างเปล่า

ทว่าคืนนี้เป็นค่ำคืนที่งดงาม ลู่จยารู้สึกว่าหัวใจของเธอไม่จำเป็นต้องมีอะไรมากดทับเอาไว้ก็สามารถนอนหลับได้ นั่นเพราะเธอรู้สึกปลอดภัยอย่างไม่เคยรู้สึกมานานแล้ว

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in With Love

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com